พิมพ์หน้านี้ - ธรรมชาติสุดๆ ที่บ้านแม่ละนา

ธรรมชาติสุดๆ ที่บ้านแม่ละนา

บ้านแม่ละนา เดิมชื่อแม่ลัดนา เนื่องจากมีแม่น้ำไหลผ่านทุ่งนา และหมู่บ้านต่อมามีการออกเสียงเพี้ยนจนกลายเป็นแม่ละนา คนในชุมชนเล่าว่าในสมัยก่อนบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์และ มีสัตว์ป่าชุกชุม อาทิ เสือ กวาง หมูป่า ช้างป่า วัวแดงและสัตว์อื่นๆ

นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ ๆ มีน้ำเหมาะสมในการตั้งที่อยู่อาศัยและทำการเกษตร เมื่อนายฮ้อยสามซึ่งเป็นคนไทใหญ่มาจากพม่าได้มาทำการสำรวจพื้นที่บริเวณนี้ และเห็นว่ามีความอุดมสมบูรณ์จึงได้ทำการถางพื้นที่โดยใช้ช้างในการชักลากไม้ ใหญ่และปรับเปลี่ยนเป็นที่นา ปลูกสร้างกระท่อมเป็นที่อยู่อาศัยในภายหลังได้เกิดร่องน้ำใหม่ไหลผ่าน เรียกว่าแม่น้ำแม่ละนาดังเช่นในปัจจุบัน

ประชากรในหมู่บ้านแม่ละนา ส่วนมากเป็นชาวไทใหญ่ที่อพยพมาจากประเทศพม่า พูดภาษาและแต่งกายแบบไทใหญ่ นับถือศาสนาพุทธมาแต่ครั้งอดีต เมื่อตั้งหมู่บ้านก็มีการสร้างวัดแม่ละนา ชุมชนมีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปี คนที่อยู่ในปัจจุบันส่วนมากสืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษดั้งเดิมและมีบางคนที่ ได้อพยพมาจากประเทศพม่าระหว่างที่มีการสู้รบตามแนวชายแดน ปัจจุบันบ้านแม่ละนามีประชากรทั้งสิ้น 535 คน จากทั้งหมด 121 ครัวเรือน

บ้านแม่ละนามีการท่องเที่ยวเกิดขึ้นมาในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวในหมู่บ้าน เช่น ถ้ำต่าง ๆ และพักค้างคืนที่ Guest House บริเวณหมู่บ้านโดยที่ชาวบ้านเองมิได้มีส่วนร่วมในการจัดการเรื่องการท่อง เที่ยวแต่อย่างใด การนำเที่ยวในสมัยนั้นคือ การให้คนชำนาญทางนำนักท่องเที่ยวไปยังถ้ำ และหากมีนักท่องเที่ยวคนใดสนใจก็อาจขอให้ไกด์เป็นผู้ติดต่อชาวบ้านให้

ในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ในยุคแรกๆ ชาวบ้านเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าถ้ำที่อยู่ภายในบริเวณหมู่บ้านมีความสวยงาม หรือมีสิ่งใดในนั้นบ้าง เพราะความเชื่อของคนในชุมชนว่า ภายในถ้ำมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือผีร้ายอาศัยอยู่ หากผู้ใดเข้าไปข้างใน เมื่อกลับออกมาจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น หรืออาจจะไม่สามารถกลับออกมาจากถ้ำได้ จนกระทั่งมีพระธุดงค์ชื่ออาจารย์สวัสดิ์ ได้ธุดงค์มาจำพรรษาและค้นพบถ้ำ ในปี พ.ศ. 2537 จึงได้นำชาวบ้านเข้าไปสำรวจด้านใน

พบว่าภายในถ้ำมีความสวยงามของหินงอกหินย้อย และมีหินไข่มุกอยู่ด้วย พระสวัสดิ์จึงตั้งชื่อถ้ำแรกที่ค้นพบว่า ถ้ำข้าวแตก เนื่องจากภายในถ้ำมีหินที่มีลักษณะเหมือนข้าวตอก (ข้าวแตก) อยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีถ้ำอื่น ๆ คือถ้ำปะการัง ถ้ำเพชร ถ้ำไข่มุก และถ้ำแม่ละนาการตั้งชื่อล้วนตั้งตามลักษณะภายในของแต่ละถ้ำนั้น มีผู้คาดว่า ถ้ำแม่ละนามีความยาวที่สุดในเอเชีย ซึ่งยาวถึง 12 กิโลเมตร และมีแม่น้ำแม่ละนาไหลผ่านตลอดถ้ำ

การพูดคุยและการรวมกลุ่มของชาวบ้านเกิดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2538 โดยมีวัตถุประสงค์ คือ ต้องการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว เช่น การปรับปรุงถนนไปยังถ้ำ การทำบันไดทางขึ้นถ้ำ เป็นต้น และความเป็นไปได้ในเชิงรายได้ที่จะหมุนเวียนในชุมชนแต่ก็ต้องล้มเหลวงเนื่อง จากผู้นำทางขาดความรู้และชาวบ้านยังไม่เข้ามามีส่วนร่วม

ประมาณกลางปี 2542 ชาวบ้านได้มีการรวมกลุ่มสมาชิกขึ้นอีกครั้ง ภายใต้แนวคิดที่ว่า จะต้องมีการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ และมีการประสานงานที่ดีกว่าครั้งแรกและครั้งที่สอง มีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ในขณะที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนโดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนชื่อโครงการ ฟื้นฟูชีวิตและวัฒนธรรม จ.แม่ฮ่องสอนเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงในการทำงาน เพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ที่สามารถบริหารจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งในรูปแบบ Home stay และการนำเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน

บ้านแม่ละนา ม. 4 ต.ปางะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน 58150 โทรศัพท์ : 08 5708 8817 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน

จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2