146
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / เชียงใหม่ ท่องเที่ยว - ข่าวสารเกี่ยวกับเชียงใหม่และจังหวัดภาคเหนือ / แจ้งประชาสัมพันธ์ การปรับเปลี่ยนการแสดง เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2015, 02:11:32 PM
|
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดย สำนักงานพัฒนาพิงคนคร(องค์การมหาชน) เปลี่ยนการแสดงชุดใหม่ เพื่อความสบายใจของนักท่องเที่ยว พร้อมต้อนรับเทศกาลลอยกระทง เน้นส่งเสริมวัฒนธรรมล้านนา พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในการเที่ยวชมแก่นักท่องเที่ยว ได้มีการเปลี่ยนการแสดงชุดใหม่ เพื่อความสบายใจของนักท่องเที่ยว และสร้างความเชื่อมั่นในการเที่ยวชม พร้อมต้อนรับเทศกาลลอยกระทงที่จะถึงนี้ โดยจัดการแสดงวัฒนธรรมล้านนา ประกอบด้วย การแสดงกลองสะบัดชัย รำดาบไฟ ฟ้อนสาวไหม รำ 4 ภาค และฟ้อนผางประทีป ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านของภาคเหนือที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้าน นา ซึ่งในปัจจุบันนับว่าผู้คนให้ความสำคัญลดลง และจัดว่าหาชมได้ยาก
โดยเริ่มแสดงนับจากนี้เป็นต้นไป วันละ 3 รอบ เวลา 18.00 น. , 19.00 น. และ 20.00 น. สำหรับในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือเทศกาลยี่เป็งของชาวล้านนา เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้เตรียมจัดเทศกาลลอยกระทง โดยการประดับโคม ยี่เป็งสวยงามตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าจนถึงบริเวณภายในอาคารกิจกรรม และจุดผางประทีปถวายเป็นพุทธบูชา พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมลอยกระทงขนมปัง เพื่อขอขมาพระแม่คงคา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานบริหารการขายและรับจอง เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 053-999089 053-999010
|
|
|
156
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / กิจกรรมที่ น่าสนใจ / Re: ขายรถ AUDI TTS 2.0 TFSI QUATTRO 272hp (อยู่เชียงใหม่)
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2015, 11:07:15 AM
|
Spec ตามนี้เลย
Engine 2.0TFSI quattro Transmission 6-speed S tronic Cylinder 4-cylinder Displacement, CC 1984 (4) Max.power,PS at rpm 272/6000 Max.torque.Nm at rpm 350/2500-5000 0-100km acceleration 5.2 secs Top speed 238km/h Fuel consumption Urban 10.2 Fuel consumption Extra Urban 5.7 Fuel consumption Combined 7.4 Unladen weight 1405 Gross weight 1725 TTS model equipment Wheels, tyres and suspension 18x 9J5-parallel-spoke design alloy wheels with 245/40 R18 tyres Audi magnetic ride S version 10mm lower ride height Seats Silk Nappa leather upholstery two-tone with seat centres in Silver, Magma red or Signal orange. Seat side sections and head restraints in black with black with decorative stitching to match seat centres. Seats also available in all-over black with silver stiching Safety and security ESP with Sport mode TTS enhanced braking system with black painted brake callipers with TTS logo Xenon Plus headlights with LED daytime-running light and headlight washer system Interior equipment 3-spoke flat-bottom multi-function steering wheel with TTS badge (with gear-shift paddles on S tronic models) Extended leather package black with decorative stitching to match seat centres Front floor mats with leather piping to match seat centres Instrument dials in grey with white illumination and TTS logo Leather and alluminium interior detailing Short-shift manual gearbox Exterior equipment Aluminium-look door mirror housings S Platinum grey grille with double vertical chrome struts and TTS badge Scuff plates with TTS logo Sports exhaust system with twin exhaust pipes on left and right-hand side in chrome rolled finish TTS body styling restyled front and rear bumpers and side sill extensions Optional equipment Sport button: more direct response for accelerating and steering. Only in combination with Audi magnetic ride Comfort package: Acoustic parking system (rear only), cruise control, auto-dimming rear-view mirror and light and rain sensors. Not available in combination with light and rain sensor package Sound package: BOSE premium sound system, Symphony radio and iPod connection. Not available in combination with technology package, Satellite Navigation system-DVD-based, AMI, CD changer or USB connection Technology package: Satellite Navigation system-DVD-based, Bluetooth interface and Audi Music Interface. CD changer can be selected in Lieu of AMI. Only in combination with multi-function steering wheel and Concert radio. Not available in combination with sound package, iPOD or USB connection. TV reception analogue and digital. TV tuner for reception of free-to-air TV channel. Heated front seated Electrically-adjustable front seats Electric lumbar support Audi hill-hold assist Acoustic parking system (rear only) Auto-dimming and folding door mirrors Door mirrors ISOFIX child-seat preparation for outer rear seats Light and rain sensor package Tyre pressure loss indicator Windscreen sunband High beam assist Adaptive headlight Privacy glass Interior light package Storage package Cruise control Extended leather package
|
|
|
166
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / กิจกรรมที่ น่าสนใจ / Re: "เชียงใหม่แสตมป์" อยากได้โปสการ์ดมาร้านนี้ซิ...
|
เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2014, 04:40:30 PM
|
นอกจากคนที่อ่านหนังสือพิมพ์จะดูเป็นไดโนเสาร์แล้ว ก็เห็นจะมีคนที่เขียนโปสการ์ดนี่แหละครับที่แลดูเป็นไดโนเสาร์พอๆ กันตามยุคสมัย เราปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าทุกวันนี้มันเป็นยุคของโลกไอที ที่ทุกอย่างต้องฉับไว และรวดเร็ว ฉะนั้นการที่จะมาทำอะไรช้าๆ นัยจะถูกกล่าวหาว่าไม่ทันกินชาวบ้าน แต่ในความไม่ทันกินชาวบ้าน (หรือช้านั้นแหละ) มันก็ยังแฝงไปด้วยความคลาสสิคที่มีเสน่ห์จนยากจะลืมเลือน ซึ่งถ้าจะให้เปรียบก็คงเป็นการเขียนจดหมายส่ง หรือ เขียน โปสการ์ด เอ่ยถึงการเขียนโปสการ์ดแล้ว ใครบางคนได้ยินอาจจะสงสัยว่าทุกวันนี้พวกเรายังส่งโปสการ์ดกันอยู่เหรอ ทั้งๆ ที่มีโซเชียล เน็ตเวิร์คหลายตัวให้เลือกส่งรูปพร้อมข้อความเก๋ๆ ไปหากันได้เพียงปลายนิ้วมือไม่ถึงนาที ไอ้เรื่องแบบนี้ถ้าเราไปถามคนที่ติดโลกออนไลน์ เราจะไม่ได้รับคำตอบหรอกครับ แต่ถ้าไปถามคนชอบขีดๆ เขียนๆ กับชอบเที่ยว คำตอบที่ได้รับมักจะออกมาเป็นรอยยิ้ม รอยยิ้ม อันหมายถึง ความสุขที่ได้ส่งผ่านโปสการ์ดไปหาใครซักคนที่เราอยากส่งถึง ตามปกติเวลาถ้าเราไปเที่ยวกัน ก็มักจะมีร้านขายของที่ระลึกประเภทโปสการ์ดวางตัวอยู่ในบริเวณดังกล่าว อย่างไปดอยสุเทพ ดอยอ่างขาง ดอยอินทนนท์ก็จะมีขาย ส่วนถ้ากรณีเป็นในเมืองเชียงใหม่ก็หาได้ตามถนนคนเดินวันเสาร์ วันอาทิตย์ และร้านขายของที่ระลึกอันอื่นๆ สำหรับคำถามที่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่อยากส่งโปสการ์ด แต่ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนในตัวเมืองเชียงใหม่ คือ ที่ไหนมันมีขายว่ะ ตัด 7-11 กับร้านหนังสือบางแห่งออกไป ถ้าจะให้ผมจงเจาะก็คงในคูเมืองเชียงใหม่แหละครับ ย่านถนนราชดำเนิน และถนนพระปกเกล้า หลังขับรถผ่านสำรวจดูกันหลายรอบ ก็พบว่าร้านเชียงใหม่แสตมป์ ตรงข้ามกับเสาหลักเมือง ถนนราชดำเนิน เข้าท่ากันที่สุด ด้วยโปสการ์ดที่มีขายกันอย่างหลากหลายแบบ ในราคาย่อมเยา ที่เริ่มตั้งแต่ใบละ 5 บาท ไปจนถึงใบละ 40 -50 บาท โปสการ์ดที่นี้ส่วนใหญ่ ไอ้ครั้นจะบอกว่ามีแต่ภาพสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ก็ไม่ถูกนัก เพราะมันก็มีของจังหวัดอื่นๆ มาร่วมแจมด้วย ชนิดที่ว่าเราสามารถซื้อโปสการ์ดภาพชายหาดพัทยา แต่ทว่าส่งกันที่เชียงใหม่ได้อย่างสะดวก (แต่ไม่แนะนำให้ทำ เพราะมันไม่คลาสสิค และจะถูกจับได้จากคนรับ ด้วยตราปั้มของไปรษณีย์) และจากการสำรวจคร่าวๆ ลูกค้าที่มากันที่นี้มักเป็นชาวต่างชาติ และน้อยครั้งมากที่จะเห็นคนไทยแวะมาซื้อโปสการ์ดเขียนถึงชาวบ้านกัน หรือถ้าจะมีก็คงมีแต่ผมเท่านั้นแหละที่ชอบมาซื้อ ซื้อภาพถ่ายที่เป็นแผ่นกระดาษติดแสตมป์ แล้วเขียนข้อความส่งถึง ใครบางคน เวลาคิดถึง
|
|
|
171
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / เชียงใหม่ ท่องเที่ยว - ข่าวสารเกี่ยวกับเชียงใหม่และจังหวัดภาคเหนือ / Re: เทศกาลโคมไฟนานาชาติ ข่วงประตูท่าแพ
|
เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2014, 04:16:32 PM
|
เผอิญว่าผ่านแถวนั้นเลยลองแวะมันเพราะแสงไฟวูบๆวาบๆ ไม่ใช่ผีกระสือนะครับ อยากได้คิดแบบนั้นกันเชียว กระสือที่ไหนจะมาลอยในเมืองเชียงใหม่ตรงประตูท่าแพ หรือแต่ถ้ามันจะมี อันนี้ก็คงจะแตกตื่นกันทั้งเมือง แตกตื่นด้วยความตื่นเต้นน่าจะเป็นแบบนั้น คงไม่ใช่การแตกตื่นแล้ววิ่งหนี ก็เพราะอย่างที่ทราบกัน ฝรั่งแถวนั้นมันเยอะ เผลอๆ มันเห็นอาจจะนึกว่าเป็นการแสดงโชว์อันสุดแสนอะเมซิ่งด้วยซ้ำ แหม คิดไปได้นะครับ (ผมเนี่ยแหละ) กลับเข้าเรื่องกัน เนื่องด้วยตรงข่วงประตูท่าแพในช่วง ณ ขณะนี้ ลากยาวไปถึง 29 สิงหา (ใครมาอ่านหลังจากวันนี้ขอบอกว่าอดไปงาน) มีเทศกาลโคมไฟนานาชาติ จัดโดยเมืองเชียงใหม่กันนี่แหละ ใจความสำคัญก็เพื่อหวังผลักดันให้เป็นงานประจำปี รองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวช่วงกรีนซีซั่น อีกอย่างหนึ่งก็เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา โดยจะจัดแสดงโคมไฟนานาชาติหลายรูปแบบกว่า 30 จุดรอบคูเมืองเชียงใหม่และบริเวณข่วงประตูท่าแพ คงพอจะสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนะครับ สำหรับใครที่ขับรถผ่านไปผ่านมารอบคูเมือง เพราะกลางคืนจะมีโคมไฟแบบต่างๆ ส่องสว่าง ให้ความสวยงามกันอยู่ สำหรับโคมไฟที่นำมาจัดแสดงตรงขาวงประตูท่าแพ ซึ่งเป็นพื้นที่หลักๆของงาน ก็จะมีประติมากรรมโคมไฟสถานที่สำคัญของโลกอย่าง โอเปร่าเฮ้าส์ หอนาฬิกาบิ๊กเบน เทพีเสรีภาพ ซุ้มเสาญี่ปุ่น โทริอิ ชุดโคมไฟเจ้าแม่กวนอิม ชุดโคมไฟเทพ 8 เซียน ชุดโคมไฟมังกร และพญานาค 12 นักษัตร มองดูแล้วก็ต้องบอกว่าเยอะกันสุดๆ นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการโคมไฟนานาชาติ ทั้งโคมไฟล้านนา เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ศรีลังกา โดยจะมีเวทีกิจกรรมตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ตลอดระยะเวลา 9 วัน (21-29 สิงหาคม) และดูเหมือนจะมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกกันในงานด้วยนะ บรรยากาศในงาน ถือว่าคึกคักเอาการครับ ชาวบ้านชาวช่อง รวมทั้งนักท่องเที่ยวพากันไปเดินชมพร้อมถ่ายรูปกับโคมไฟในงาน ซึ่งไอ้เจ้าโคมไฟนี้ ก็ต้องบอกว่ามันสวยระดับต้องโค้งคารวะให้เลยจริงๆ ยิ่งสีสันลวดลายแปลกตา ก็ยิ่งโดดเด่นกันสุดๆ ในยามค่ำคืน ปกติการโชว์โคมไฟ ต้องจัดกันด้านนอกบริเวณกว้างกันใช่มั้ยครับ แต่ผมสงสัยอยู่อย่างนึง ว่าทำไมเขามีซุ้มเป็นโดมให้เข้าไปดูกันอีกโคมไฟกันอีก ทั้งๆที่รู้ว่า อากาศไม่ถ่ายเท และข้างในก็ร้อนกันตายห่าโคตรๆ ก็แบบว่าไม่รู้ซินะ ว่าจัดเพื่อทำไม ทำไมต้องจัดในโดม กะอีแค่ลำพังจัดกันด้านนอกก็โอเคอยู่แล้ว สักแต่ทำ แต่ไม่รู้ทำไปทำไม เพราะไม่เห็นมีอะไรดี นี่แหละครับ ประเทศนี้ที่ชื่อว่าแดนสยาม...
|
|
|
172
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / ดอยอ่างขาง แนะนำเส้นทาง รูปภาพที่เที่ยวดอยอ่างขาง ที่พักบนดอยอ่างขาง / Re: สวน 80 ณ ดอยอ่างข่าง
|
เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2014, 04:15:36 PM
|
บรรยากาศขับรถกินลม ชมวิว แล้วมีเป้าหมายกับสถานที่พักผ่อนหย่อนใจซักแห่ง อารมณ์แบบนี้ ใครล่ะมีบ้างที่ไม่ชอบ ยิ่งได้เพื่อนร่วมทางชนิดซี้กัน มีกล้องถ่ายรูป เสบียงนิดๆ หน่อยๆ แก้หิว เป็นอันได้เรื่องอากาศหนาว ย่อมมาพร้อมกับความขาว เอ้ย มากับความงดงามของดอกไม้ ยิ่งบนดอยแล้ว พืชพันธุ์เหล่านี้มักจะพากันอวดคอชูช่อ เบ่งความงามจากกลีบดอกไม้ของตน อันหลากสีท้าทายแสงแดด และไอหมอกเย็น หนึ่งในสถานที่โปรดของใครหลายๆ คน เมื่อถึงหน้าหนาว แล้วต้องการหาที่ผ่อนคลายบนดอยอ่างขาง สวน 80 คือสถานที่เบ่งบานความงดงามของทุกสายพันธุ์จากไม้ดอก ที่ทุกคนต่างหลงรัก สวน 80 แห่งนี้ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว ตั้งอยู่ใจกลางสถานีเกษตรอ่างข่าง สร้างขึ้นในวโรกาสที่หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวงมีพระชนพรรษาครบ 80 พรรษา สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมไม้ดอกเมืองหนาวปลูกลงแปลงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชม แถมยังมีซากุระแท้ๆ จากญี่ปุ่นเป็นนางเอกของงาน ซึ่งจะออกดอกสวยงามในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ส่วนไม้ดอกเมืองหนาวที่ปลูกลงแปลงชนิดอื่นที่ปลูกลงแปลง ก็จะมีการปลูกสับเปลี่ยนให้มีดอกสวยงามตลอดทั้งปีด้วย บรรยากาศโดยรอบบริเวณนั้น ต้องบอกว่าอากาศสดชื่นบริสุทธ์กันมาก ยิ่งหากใครอาศัยแต่อยู่ในเมือง เจอหมอกควัน ฝุ่นละอองกันเป็นประจำทุกค่ำเช้า พอมาเจออากาศ พร้อมวิวสวยๆ มีฉากหลังเป็นภูเขา ตัดกับท้องฟ้าสีครามบนนี้ รับรองว่าติดอกติดใจ จนไม่อยากกลับกันแน่ จะกลับได้ไงล่ะครับ อากาศบริสุทธิ์ วิวสวยไม่พอ ดอกไม้เมืองหนาวในสวนยังสวยกันเพียบ ซึ่งมันก็มีหลากหลายสายพันธุ์กันมาก จนแทบจะจำไม่หมด แต่ทุกต้น ทุกแปลงในนั้นก็จะมีป้ายปักชื่อบอกไว้ว่า ดอกนี้คืออะไร ต้นไหนคืออะไร ชื่อทางวิทยาศาสตร์เป็นแบบไหน สำหรับใครหลงใหลในเรื่องดอกซากุระญี่ปุ่น อันนี้ก็ต้องรอให้มันออกดอกในช่วงหน้าหนาวกันนะครับ ถึงจะได้ยลโฉมความงดงาม พร้อมๆกัน กับดอกนางพญาเสือโคร่ง ด้านล่างตรงสวน 80 จะมีร้านอาหารสโมสรดอยอ่างข่างให้บริการกันอยู่ พร้อมๆ กันกับจะมีชาวเขาเอาของที่ระลึก ของแฮนด์เมค มาจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว ใครถ่ายรูปเสร็จ เดินชมความงามดอกไม้เสร็จ ก็ลองแวะหาเลือกซื้อกันได้เอา ถือซะว่าเป็นการอุดหนุน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านชาวช่องแถวนั้นด้วย ไทยช่วยไทย กินของไทย ใช้ของไทย เที่ยวเมืองไทย ร่วมใจประหยัด ตามนั้นครับพี่น้อง
ปล.สโลแกนเก่าไป ตั้งแต่ช่วงปี 2540 แต่ก็ยังถือว่าใช้ได้กันอยู่นะครับ ฮ่าๆๆ
|
|
|
173
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / ดอยอ่างขาง แนะนำเส้นทาง รูปภาพที่เที่ยวดอยอ่างขาง ที่พักบนดอยอ่างขาง / Re: ความงามของเรือนดอกไม้ดอยอ่างขาง
|
เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2014, 04:15:01 PM
|
ดอกไม้และหน้าหนาวเหมือนสองสิ่งนี้มันเกิดมาคู่กันนะครับอารมณ์สองสิ่งนี้ถ้าให้บอก คงไม่ต่างอะไรกันกับผู้หญิงคู่กับดอกไม้ กาแฟคู่กับคอฟฟี่เมต ปาท่องโก๋คู่กับน้ำเต้าหู้ และ บลา บลา บลา เท่าที่จะนึกออก แน่นอนครับ เมื่อผมเอ่ยถึงเรื่องของดอกไม้ตั้งแต่เริ่มแรก ก็ต้องเล่าเรื่องของดอกไม้แน่นอน ซึ่งการจะไปเที่ยวชมสวนดอกไม้ สิ่งสำคัญระดับห้ามพลาดเลยก็คือ กล้องถ่ายรูปนี่แหละ เพราะถ้าคุณพลาดเอากล้องถ่ายรูปมาด้วย ภาพดอกไม้สวยๆ และบรรยากาศดีๆ มันจะจดจำเท่าที่วันคุณมาแหละ แต่หลังจากนั้นเหรอครับ ฮ่าๆๆ จะเหลือเหรอ ก็ลืมซิ ฉะนั้นก่อนออกเดินทางอย่าลืมสะพายกล้องมากันด้วย และที่สำคัญถ้าเป็นไปได้ มากันในช่วงเช้าเนี่ยแหละดีที่สุด อากาศไม่ร้อน แถมดอกไม้ก็สดชื่นและกำลังบานกันพอดี เรือนดอกไม้ที่ดอยอ่างขาง ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผมขอบอกว่าคุณต้องแวะมาให้ได้ หากมีโอกาสมาเหยียบถึงดอยอ่างขางกันแล้ว เพราะไม่เช่นนั้น มันจะเข้าขั้นเสียชาติเกิดกันเลยทีเดียว ถามว่าเรือนดอกไม้ดอยอ่างขางมีอะไรกันบ้าง ที่มีแน่ๆเลยล่ะคือ ดอกไม้ เพราะสถานที่นี้มันคือโรงเรือนที่รวบรวมพันธุไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวชนิดต่างๆ มากมาย หลากหลายสายพันธุ์จนนับไม่ถ้วน ไล่ไปตั้งแต่ บีโกเนีย รองเท้านารี พืชกินแมลง แถมด้านในมีมุมน้ำตกในสวน ซึ่งดอกไม้ในสวนเหล่านี้จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันออกดอกตลอดทั้งปี นอกจากนี้ภายในบริเวณโรงเรือนจะมีจุดจำหน่ายผลผลิตของสถานีและผลิตภัณฑ์แปรรูป และมุมนั่งพักจิบกาแฟก็มีอีกด้วยนะจ๊ะ บรรยากาศภายในไม่ต้องห่วงครับที่นี่ร่มรื่นดีกันแน่นอน อากาศเย็นสบายไม่หนาวมาก มีกาแฟซักแก้ว หนังสือซักเล่ม นั่งอยู่ภายในสวนดอกไม้ มีสายน้ำตกไหลเอื่อยๆ เบา แบบนี้ให้ผมอยู่ทั้งวันในนั้นก็ยังได้ สำรวจด้านในเสร็จเขยิบออกมาโซนด้านหน้าเรือนดอกไม้บ้าง ใครหิวอะไรจัดไป ชา กาแฟ โอวัลตินร้อน รวมทั้งไวน์ผลไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูป และไอศกรีมคอยบริการนักท่องเที่ยวเพียบ ถัดออกไปอีกนิดเป็นสวนสมเด็จ สวนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จมายังดอยอ่างขาง และหลังจากเสร็จพระราชภาระกิจการทรงงานแล้ว จะทรงประทับพักผ่อนพระอิริยาบถในสวนแห่งนี้ โดยลักษณะของสวนจะเป็นสวนหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและภายในสวนจะรวบรวมพันธุ์ไม้ประเภทฝิ่นประดับ ดอกป๊อปปี้ และไม้เมืองหนาวชนิดต่างๆ เช่น กระดุมเงินกระดุมทอง ปักษาสวรรค์ เรียกได้ว่า ใครมาเที่ยวดอยอ่างขาง นอกจากสวน 80 แล้ว ก็ยังมีเรือนดอกไม้กับสวนสมเด็จให้เที่ยว เอาใจสำหรับคนที่รักในความงามของไม้ดอก ได้มาสัมผัสความงามกันอย่างเต็มอิ่ม และหลักฐานยืนยันความงามของมัน ก็ประจักษ์แก่ท่านทั้งหลายตามภาพที่ผมลงให้ดู
|
|
|
174
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / ดอยอ่างขาง แนะนำเส้นทาง รูปภาพที่เที่ยวดอยอ่างขาง ที่พักบนดอยอ่างขาง / Re: ความต่างระหว่างซากุระญี่ปุ่นกับนางพญาเสือโคร่ง
|
เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2014, 04:14:33 PM
|
แม้จะยังเหลือกันอีกหลายเดือนกว่าจะย่างเข้าสู่ช่วงหน้าหนาว แต่ในระหว่างนี้เพื่อเป็นการเตรียมตัวและเตรียมใจ สำหรับใครที่จะถ่อไปถึงดอยอ่างขาง เพื่อชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งและดอกซากุระญี่ปุ่น เราๆท่านๆ มาช่วยกันทำความเข้าใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดีกว่าว่า ดอกไม้ทั้งสองประเภทแตกต่างกันอย่างไรเพราะเท่าที่สังเกตดูยังพบว่าหลายคนเข้าใจกันผิดแบบสับสน ระหว่างนางพญาเสือโคร่งและซากุระญี่ปุ่น หรือบางคนก็คิดว่ามันคือพันธุ์เดียวกัน ก็เห็นดอกมันสีชมพูคล้ายๆ กันเป็นอย่างมาก ฉะนั้น หากยังสับสน ไม่แน่ใจ สงสัยกันอยู่ ก็มาเบิกตาอ่านกันดูว่าทั้งสองชนิดนั้นมีอะไรต่างกันบ้าง เวลาเอาภาพไปเล่า ไปบอกต่อชาวบ้านจะได้ถูกกัน นัยนึงก็เพื่อเอาข้อมูลไว้ประดับสมองด้วย เอาล่ะทีนี้ มาดูกันว่าเราจะแยกแยะมันออกได้ยังว่าอันไหนนางพญาเสือโคร่ง อันไหนซากุระญี่ปุ่น ถ้าเกิดเราไปเที่ยวแล้วดันไม่มีไกด์แนะนำบอกใบ้ให้รู้ว่า อันนี้นางพญาเสือโคร่งนะ อันนี้ซากุระนะ เข้าเรื่องกันเลย นางพญาเสือโคร่งจะแตกต่างจากซากุระญี่ปุ่น ตรงช่วงเวลาการออกดอกต่างกัน กล่าวคือ นางพญาเสือโคร่งออกดอกในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ส่วนซากุระในญี่ปุ่นออกดอกช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น และมีการสันนิษฐานว่า นางพญาเสือโคร่งและซากุระมีบรรพบุรุษร่วมกันทางตอนใต้ของจีน และวิวัฒนาการออกไปจนมีสายพันธุ์มากมาย มีสีที่หลากหลาย ดอกซากุระญี่ปุ่น ดอกซากุระญี่ปุ่น ดอกนางพญาเสือโคร่ง ดอกนางพญาเสือโคร่ง ข้อสังเกตอีกอย่างนึงที่สังเกตกันได้อย่างง่ายๆ คือลักษณะดอก หากเรามองด้วยตาเปล่า ดอกนางพญาเสือโคร่งจะดูเล็กกว่า สีจางกว่า แต่ถ้าเป็นซากุระญี่ปุ่น ดอกจะใหญ่กว่านิดนึง ดอกสีเข้มกว่ากัน การออกดอกจะเป็นลักษณะพุ่ม เป็นช่อใหญ่ มากกว่าจะออกแบบช่อเล็กๆเหมือนนางพญาเสือโคร่ง เวลาร่วงจะร่วงพร้อมกันหมด หรือจะมองลักษณะของต้นก็ได้ อย่างนางพญาเสือโคร่ง ลำต้นจะมีลายเป็นขีดๆ เหมือนลายเสือโคร่งพาดตามลำต้น ต้นซากุระ ต้นนางพญาเสือโคร่ง เพิมเติ่มกันอีกนิดนะครับ ไอ้เจ้าซากุระนิเป็นพืชที่อยู่ในสกุล Prunus โดยนางพญาเสือโคร่งเป็นหนึ่งในสกุลนั้น โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus cerasoides ขณะที่ในประเทศญี่ปุ่นมีซากุระอยู่หลากหลายพันธุ์ โดยพันธุ์ที่พบมากสุดคือ โซะเมโยะชิโนะ ในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus yedoensis จริงๆ แล้วมีดอกซากุระไม่ได้มีในเฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ในเกาหลี, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, จีน หรือที่อื่น ๆ ก็มีเหมือนกัน อีกอย่างคือซากุระมีมากกว่า 300 ชนิด และไม่ได้มีเฉพาะสีชมพู ดอกสีขาว สีเขียว สีเหลืองก็มี แถมบางชนิดยังส่งกลิ่นเหม็นอีก ดอยอ่างขางที่นี้นอกจากจะมีนางพญาเสือโคร่งกับซากุระญี่ปุ่น ก็ยังมีซากุระไต้หวันตรงแถวด้านหน้ารีสอร์ทธรรมชาติ อ่างขางด้วย คาดว่าน่าจะมีการดัดแปลงสายพันธุ์มาจากญี่ปุ่นเล็กน้อย เพราะลักษณะโดยทั่วไปไม่หนีกันมากซักเท่าไหร่ ถือซะว่าที่เอาข้อมูลมาฝากกันนี้ น่าจะเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยดีๆ สำหรับใครที่จะไปเที่ยวชมดอกไม้ทั้งสองชนิดนะครับ
|
|
|
|
|