ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
เมษายน 18, 2024, 10:39:41 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ  โพสหัวข้อเดียวซ้ำๆ กัน รับสิทธิ์ โดนลบกระทู้ และโชคดีได้รับสิทธิ์แบนฟรี 90 วันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  ข้อมูล ที่พักโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย  |  ทริปข้อมูลรูปภาพสวยๆ ที่น่าสนใจของจังหวัดเชียงราย  |  หัวข้อ: ตากแดด เปียกฝน ที่เชียงราย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ตากแดด เปียกฝน ที่เชียงราย  (อ่าน 6791 ครั้ง)
nongmai
Newbie
*
กระทู้: 2


ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 11:11:40 AM »


ตากแดด เปียกฝน ที่เชียงราย

การเดินทางครั้งนี้ของผม จะว่าสบายก็สบาย จะว่าลำบากก็ไม่ใช่ แต่ดูเหมือนเคว้งคว้างอย่างไรไม่รู้ครับกับทริปนี้ ก็แหม... ผมเดินทางตามรอยกิจกรรมของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในโครงการ “บินไปบินกลับ ขับรถเที่ยว” ซึ่งเป็นโครงการที่ททท.คิดค้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวใน ช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หรือช่วงโลว์ซีซันนั่นเอง

      เส้นทางตามโครงการนี้ จะว่าไปแล้วมีให้เลือกทั้งหมด 5 เส้นทาง คือ เชียงใหม่ เชียงราย อุดรธานี กระบี่ และภูเก็ต ซึ่งทุกเส้นทางจำหน่ายในราคาเดียวกันคือ 9,999 บาท โดยรวมบัตรโดยสารเครื่องบินด้วยสายการบินต้นทุนต่ำไป-กลับ 2 ที่นั่ง ค่าที่พัก 2 คืน และรถเช่าอีก 3 วัน

      แต่หากต้องการเดินทางด้วยสายการบินไทยก็ได้ครับ ควักกระเป๋าเพิ่มอีก 2,000 บาท ก็สามารถเดินทางโดยการบินไทยได้เหมือนกัน แต่นะครับ ต้องระวังนิดนึง คือในส่วนของตั๋วโดยสารนั้นเป็นแบบ อี-ทิคเก็ต นะครับ หากจองแล้วไม่สามารถเปลี่ยนใจ เปลี่ยนเวลา หรือเปลี่ยนคนไปด้วยได้นะครับ คิด ให้ดีก่อนตัดสินใจว่า จะเดินทางด้วยสายการบินใด และเวลาใด เดี๋ยวจะเสียตังค์กันไปฟรีๆ การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซันนั้นค่อนข้างน่าลำบากใจเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกเที่ยว ที่ไหน เพราะทุกเส้นทางที่กำหนดมานั้น เจอฝน ทุกเส้นทาง แต่ผมเลือกเชียงราย เพราะดูแล้วภูเขากับฝนน่าจะดูดีกว่าทะเลกับฝน หรืออีสานกับฝน ซึ่งผมเองก็อยากรู้ว่า เชียงรายหน้าฝนนั้นเป็นอย่างไร คราวนี้ละจะได้รู้กัน

      ก่อนการเดินทาง ในทริปนี้เราต้องกรอก รายละเอียดว่าจะเดินทางด้วยสายการบินใด เวลาเท่าไหร่ พักที่ไหน และเช่ารถยี่ห้ออะไร จากบริษัทใด ซึ่งจะมีแบบฟอร์มให้ลูกค้ากรอกอยู่แล้ว ซึ่งหากอยากรู้รายละเอียดอะไร ก็เข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ http://thai.tourismthailand.org/flyanddrive/index. php ได้เลยครับ ซึ่งที่พักนั้นก็ดูจากในเว็บครับ ชอบแบบใด เลือกแบบนั้น ไม่ต้องไปถามคอลเซ็นเตอร์ เพราะไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรเพิ่มเติมได้ นอกจาก “ดูรายละเอียดในเว็บค่ะ” หึหึ... เมื่อเป็นอย่างนั้น เราก็หาข้อมูลและตายด้วยมือตัวเองดีกว่า จะดีจะเลวยังไง เราก็เลือกเอง

      อ้อ ลืมไปครับ ที่พักในแต่ละทริปนั้นจะต้องพัก ที่เดียวกันทั้งสองคืนนะครับ ไม่สามารถแยกพักได้ ว่าคืนนี้จะพักที่นี่ อีกคืนเปลี่ยนบรรยากาศไปพัก ที่นั่น หมดสิทธิครับ อะนะ...ทนๆ เอาหน่อย ทริป ไม่ถึงหมื่นบาท อย่าคิดอะไรมาก เดินทางกันเลยดีกว่าครับ เมื่อเริ่มเหินฟ้าจากสนามบินสุวรรณภูมิ บนเครื่องบินการบินไทย ผู้โดยสารก็นั่งกันเต็มลำ แต่ไม่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก มีแต่คนไทยที่น่าจะกลับบ้านหรือมาธุระที่เชียงราย ไม่มีบรรยากาศของการท่องเที่ยวเลย แต่คิดไปคิดมา เออ...นี่มันหน้าฝนนี่หว่า ใครจะมาเที่ยวล่ะ นึกได้ก็เลยรู้สึกเฉยๆ

      นั่งหลับๆ ตื่นๆ เสียงแอร์โฮสเตสและกัปตันประกาศด้วยเสียงอู้อี้ๆ ในลำคอเหมือนไม่อยากให้ใครเข้าใจ “ในนามของกัปตัน บลา บลา บลา ขอขอบพระคุณ บลา บลาๆๆๆ” นั่งเครื่องมาไม่รู้กี่ครั้ง กี่รอบ ลักษณะการประกาศของกัปตันนี่เหมือนกันทุกคนคือ พูดไม่รู้เรื่อง ไม่รู้การบินไทยเขามีหลักสูตรหัดกัปตันพูดให้เป็นแบบนี้หรือเปล่า ทุกคนเลยพูดเหมือนกันหมด เครื่องร่อนลงปุ๊บ รอกระเป๋าแป๊บเดียว ก็ได้กระเป๋ามาครอบครอง เดินแบกกระเป๋าตุหรัดตุเหร่ ออกมาจากเทอร์มินอล มีเจ้าหน้าที่ยืนถือป้ายชื่อผม ชูหราอยู่ อืม...ดูดีมีสกุลใช้ได้ เห็นชื่อตัวเองสะกดให้ชัวร์ว่าเป็นเราแน่ ก็เดินรี่เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ พร้อมแสดงตนว่า อะแฮ่มมม กระผมเองขอรับ

      จากนั้นเจ้าหน้าที่ของบริษัทรถเช่าก็เอาเอกสารการเช่ารถมาให้กรอกรายละเอียด และอธิบายเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงรูดเครดิตการ์ดเป็นค่าประกันไว้ 2 หมื่นบาท!!! ซึ่งผมก็รูดไปด้วยอาการงงๆ เพราะจากที่เคยเช่ารถขับเที่ยวตามทริปต่างๆ ค่าประกันอยู่ที่ 5,000 บาทเท่านั้น ลงชื่อรับรองเอกสารต่างๆ เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็ไปขับรถมาให้ ซึ่งรถที่ผมเลือกเป็นรถแจ๊ซครับ เป็นแจ๊ซรุ่นใหม่เสียด้วย เติมน้ำมัน อี20 ได้ด้วย ประหยัดแน่นอน แต่...ที่เชียงรายไม่มี อี20 ให้เติม ฮือฮือ...

      เจ้าหน้าที่พาเดินดูรอยรถรอบคัน ว่ามีสิวฝ้า ราคี มีรอยสักยันต์ 5 แถว อะไรอยู่ที่ตัวรถหรือเปล่า ถ้าโอเคแล้ว ลุยเลยครับ ขึ้นรถประจำที่แล้ว สิ่งที่คิดต่อไปคือ ไปไหนดีว่ะ มันเคว้งคว้างไปหมด ข้อมูลผมว่าเต็มหัวแล้วยังงงๆ อยู่เลย ว่าจะไปไหนดี ก็เลยตัดสินใจเข้าไปโรงแรมก่อนดีกว่า ว่าที่พักจะเป็นอย่างไร โรงแรมที่พักครั้งนี้ชื่อ ลักษวรรณ เป็นโรงแรมที่ผมไม่เคยพักครับ ตัวโรงแรมตั้งก่อนถึงตัวเมืองเชียงราย ขับรถไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงโรงแรมแล้ว ใช้ได้เลยครับโรงแรม ห้องใหญ่มากกกกก มีห้อง นั่งเล่นให้ด้วย ห้องน้ำห้องท่าสะอาดสะอ้านดี ถือว่าดีเลยครับ มาถึงโรงแรม จัดข้าวของเรียบร้อยแล้ว เอา เสื้อกันฝนออกมาเตรียมพร้อม ก็แหมก่อนเดินทาง กรมอุตุฯ บอกว่าฝนตกตลอด แต่ทำไมมาถึงนี้แล้ว แดดเปรี้ยงอย่างนี้ จัดของใส่รถเรียบร้อยแล้ว ดูแผนที่ก็แล้ว ยังเคว้งๆ โหวงๆ อยู่เลยว่าไปเที่ยวไหนดี เพราะจะไปเที่ยวไกลๆ ก็ต้องกลับมาพักที่นี่อีก เสียเวลาเดินทางแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นไปในเมืองดีกว่า ลองไปคุยกับสำนักงานททท.เชียงรายเสียหน่อย เผื่อจะได้ข้อมูลดีๆ บ้าง

      ขับรถแป๊บเดียว ก็ถึงตัวเมืองเชียงรายแล้วครับ พอถึงอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย ก็เลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองเลย โอ้ยยยยยย...แต่พอเข้าเมืองแล้ว งง ครับ เพราะถ้าดูจากแผนที่ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นพับแผ่นไหนก็งง เพราะถนนที่นี่เป็นถนนเล็กๆ แยกติดๆ กันตลอด แถมชื่อถนนแต่ละแห่งอ่านยากอีกด้วย แต่ยังดีที่ในเมืองมีป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยว ไว้ตลอด ไม่ว่าจะเป็น วัดพระแก้ว วัดพระสิงห์ วัดมิ่งเมือง หาดเชียงราย สำนักงานททท.!! ก็เลยอาศัยขับรถตามป้ายไปเรื่อยๆ เจอแล้วครับ สำนักงานททท.เชียงราย ความหวังของผม จอดรถเดินขึ้นไปบนสำนักงานททท. เลยเจอเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์

“พี่ครับ ตอนนี้เชียงรายมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง?”
“ช่วงนี้ น่าโลว์ซีซันนะ ไม่ค่อยมีอะไรเที่ยว”

      แป่วววววววว เออเรื่องที่พี่ททท.ตอบก็จริง ช่วงนี้มันโลว์ซีซัน จะมีอะไรเที่ยว อ้าวววว แล้วททท. จัดโครงการนี้ขึ้นมาทำไมหว่า

      ถามกันไปถามกันมา ก็พอจะมีที่เที่ยวครับ ถ้าอยากได้บุญกุศลกลับไปละก็ ตระเวนไหว้พระธาตุที่มีอยู่ไม่น้อย แต่ต้องดูเส้นทางดีๆ เหมือนกันนะครับ ถ้าขับรถไม่แข็งไม่ค่อยอยากแนะนำ เพราะขึ้นเขาหน้าฝนอันตรายไม่น้อย หรือจะไปพะเยาเลยก็ได้ 100 กว่ากิโลเมตร ขับไปกลับ 200 กว่ากิโลเมตร ถ้าคิดว่าคุ้มกับไปดูกว๊านพะเยาก็โอเค แต่ผมไปมาแล้ว เลยขอบายเส้นทางนี้

      สิ่งที่ได้กลับมาจากสำนักงานททท.คือ โบรชัวร์อีกปึกหนึ่ง ไปดูเอาเองก็ได้จะไปไหน ออกจากสำนักงานททท.เชียงราย เห็นป้ายวัดพระแก้ว เลยตัดสินใจไปที่นี่ดีกว่า เพราะมาเชียงรายตั้งหลายครั้ง ยังไม่มีโอกาสมาสักการะพระหยก และวัดที่ซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองของคนไทยเลย คิดได้อย่างนั้น เลี้ยวตามป้ายไปไม่ถึง 100 เมตร ก็มาถึงแล้ว!! ใกล้นิดเดียวเองแฮะ ทำไมไม่มีใครแนะนำให้เรามาเลย ขับรถเข้าไปในบริเวณวัด ไม่มีรถจอดเลยสักคัน ครับ ไร้เงานักท่องเที่ยวจริงๆ มีเพียงคณะของผม เท่านั้นที่เป็นนักท่องเที่ยว ไม่น่าเชื่อจริงๆ ส่วนตัวสุดๆ

      เมื่อเป็นอย่างนั้นเลยขับรถเข้าไปจนถึงศาลาด้านใน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระหยกเสียเลย วัดแห่งนี้เป็นจุดที่ค้นพบพระแก้วมรกต และ เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตเป็นเวลา 45 ปี ก่อนที่จะอัญเชิญไปยัง จ.เชียงใหม่

      แรกเริ่มเดิมที พระแก้วมรกต นั้นตัวองค์นั้น ถูกลงรักปิดทองไว้ โดยถูกบรรจุอยู่ในเจดีย์ร้าง องค์หนึ่ง ซึ่งอยู่หลังพระอุโบสถของวัดป่าเยี้ย ซึ่งก็คือวัดพระแก้วในปัจจุบัน แต่ในสมัยนั้น วัดนี้เต็ม ไปด้วยป่าไผ่ หรือเยี้ย ก็เลยชื่อวัดป่าเยี้ย วันดีคืนดี ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์ดังกล่าวพังลงมา ทำให้พระแก้วซึ่งในขณะนั้นเป็นพระพุทธรูปลงรักปิดทองตกลงมา ชาวบ้านเลยอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นั้นไปไว้ที่วิหารหลวงได้ 2 เดือน แต่ต่อมา ปูนกะเทาะออก จึงเห็นเป็นแก้วสีเขียวทั้งองค์ เจ้าสามฝั่งแกนทราบข่าวจึงอัญเชิญไปเชียงใหม่ แต่ขบวนช้างที่อัญเชิญพระแก้วไม่ยอมไปทางเชียงใหม่ กลับตื่นวิ่งไปนครลำปาง หมื่นโลกนคร จึงขอรับไปประดิษฐานที่นครลำปางถึง 32 ปี ก่อนที่จะอัญเชิญไปเมืองเชียงใหม่ต่อมา และถูกอัญเชิญมากรุงเทพฯ เป็นแห่งสุดท้าย

      แต่ใช่ว่า วัดพระแก้ว เมื่อไม่มีพระแก้วมรกตแล้วจะร้างพระพุทธรูปนะครับ เพราะจริงๆ แล้วพระประธานของวัดพระแก้วในโบสถ์นั้นสวยงามเหลือเกินครับ ซึ่งคนเชียงรายเรียกกันว่า พระเจ้าล้านทอง เป็นพระศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงรายเคารพ นับถือเป็นอันมาก แต่เดิมนั้นประดิษฐานอยู่ที่วัดพระเจ้าล้านทอง ต่อมามีสภาพเป็นวัดร้าง จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดดอยงำเมือง และได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานที่วัดพระแก้วเมื่อปี 2504

      นอกจากนี้ยังมี พระหยก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหยกที่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวเชียงรายร่วมกันสร้าง ขึ้นเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระชนมายุครบ 90 พรรษา เมื่อปี 2533 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อปี 2534 ชาวเชียงรายได้อัญเชิญมาประดิษฐานหอพระ ณ วัดพระแก้ว เรียกว่า พระหยกเชียงราย

       ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีสิ่งของโบราณอยู่เป็นจำนวนมากตั้งแสดงอยู่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น พระโบราณที่มีทั้งหยกและไม้ ซึ่งหาดูยากแน่ๆ แถมยังมีคำอธิบายไว้เสร็จสรรพเลย ดีจริงๆ ครับ ใครไปเชียงราย แวะไปวัดพระแก้วได้เลยครับ คุ้มค่ามาก ออกจากวัดพระแก้ว ยังไม่มีวี่แววฝนมาให้เห็น พระอาทิตย์ยังทำงานอย่างเต็มที่ ก็เลยขอเที่ยวในเมืองเชียงรายต่อดีกว่า ขับไปเรื่อยๆ เห็นป้ายท่าเรือเชียงราย ไปเลยดีกว่า ขับตามป้ายไปเรื่อยๆ ผ่านสะพานแม่ฟ้าหลวง ก็จะเห็นท่าเทียบเรือที่มีเรือหางยาวจอดอยู่หลายลำ มองไปเห็นลำน้ำกก สีน้ำตาลขุ่นไหลเชี่ยวกรากอยู่ด้านล่าง เลยตัดสินใจล่องเรือเล่นดีกว่า

       ท่าเรือที่สะพานแม่ฟ้าหลวง มีที่จอดรถสบายๆ ริมแม่น้ำกกเลยครับ ไม่ต้องกังวล สนนราคาค่าเช่าเรือเริ่มต้นที่ 600-1,600 บาทครับ โดยเรือจะพาเราล่องย้อนต้นน้ำขึ้นไปถึงบ้านท่าตอน ซึ่งต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน แต่หากเป็นทริปสบายๆ แบบที่ผมเลือก คือไปถึงน้ำพุร้อน ใช้เวลาไป-กลับประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็พอแล้วครับ

       เรือหางยาวที่ใช้ล่องเที่ยว เป็นเรือหางยาวขนาดบรรทุก 6 คนครับ หารๆ ค่าเดินทางแล้วตกคนละไม่กี่สตางค์ คุ้มน่าดู เสียงเครื่องยนต์เรือดังกระหึ่มท้องน้ำ พาผมล่องทวนน้ำกกไปเรื่อยๆ ไม่น่าเชื่อเลยครับว่า อากาศที่ปะทะหน้านั้นเย็นสบายมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเย็นได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่แดดเปรี้ยงมากๆ

      ผมนั่งตากลมเย็นๆ ได้ครู่เดียว ตาก็เริ่มปรือแล้วครับ และยังเผลอหลับไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทั้งๆ ที่ทิวทัศน์ริม น้ำกกนั้นสวยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาที่สูงตระหง่าน ทอดเงายาวลงผิวลำน้ำกก หรือต้นไม้ที่ขึ้นหนาทึบอยู่ริมน้ำ ยิ่งทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นมากขึ้น เลยทำให้คิดว่า ถ้าได้ล่องเรือในช่วงฤดูหนาว อากาศจะดีมากแค่ไหน และนี่จะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ ผมจะบันทึกไว้ในสมอง ไว้สำหรับครั้งหน้าที่มาเยือนเชียงรายในช่วงฤดูหนาว ผมไม่พลาดแน่ หลับไปสักพัก ตื่นขึ้นมาเรือเกือบมาถึงบ่อน้ำพุร้อน ผาเสริฐ ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนขนาดไม่ใหญ่ครับ ถ้าใครจะไปแช่น้ำแร่ให้สบายตัว ก็เตรียมอุปกรณ์เปลี่ยนเสื้อผ้าไปให้ครบก็แล้วกัน ที่นี่มีให้เลือกทั้งแบบแช่ในสระว่ายน้ำ หรือจะแยกแช่แบบห้องส่วนตัว ก็เลือกกันตามถนัด แต่ผมว่าแช่ในสระว่ายน้ำก็ดูดีเหมือนกัน เพราะเป็นสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง แบบมีหลังคากันแดดให้เรียบร้อย ดูโปร่งดีครับ

       ผมเดินเล่นอยู่บ่อน้ำร้อนได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็เลิกครับ เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมอุปกรณ์การอาบน้ำมาเลย มีแต่หมวกกับแว่นกันแดด ซึ่งคงไม่เหมาะหากจะใส่แค่ 2 อย่างนี้แช่น้ำแร่ กลับมานั่งเรืออีกครั้ง เพื่อย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิม แต่คราวนี้จะแวะที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตรกันก่อน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเลี้ยงช้างครับ เราสามารถนั่งช้างให้พาเดินเล่นรอบๆ หมู่บ้านได้เลย และผมก็ไม่พลาดที่จะนั่งช้างที่นี่ โดยเสียค่าใช้จ่าย 200 บาทต่อครึ่งชั่วโมง ถือว่าคุ้มครับ เพราะค่าใช้จ่าย ทั้งหมดทางหมู่บ้านจะนำไปเป็นค่าอาหารของช้างในหมู่บ้านที่มีอยู่กว่า 30 เชือก เพื่อให้ช้างเหล่านี้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยไม่ต้องมาเดินเที่ยวขอเศษตังค์คนในกรุง

        ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งหลังช้าง ทันทีที่ขึ้นไปนั่งบนหลังช้าง แล้วช้างตัวไม่ใช่เล็กๆ ออกเดินแบบยวบยาบ เล่นเอาเสียวท้องน้อยวูบๆ เหมือนกัน หันซ้ายหันขวา อยากให้มีเซฟตีเบลต์จริงๆ เลยครับ เพราะตัวผมเอียงไปเอียงมาจะร่วงลงมาจากหลังช้างให้ได้ ต้องใช้เท้าจิกคอช้างไว้แน่นทีเดียว แถมพี่ช้างของผมไม่เดินกินลมชมวิวธรรมดาเสียด้วย แต่จะเดินเข้าป่า ข้างทางอยู่เรื่อย ทำเอาควาญช้างต้องออกแรงดุหลายต่อหลายครั้ง มุมมองบนหลังช้างเป็นมุมมองแบบใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นมุมมองแบบโยกเยก ขึ้นๆ ลงๆ ชวนให้เวียนหัวไม่น้อย และบรรยากาศใน หมู่บ้านยังปลูกข้าว ปลูกพืชผลทางการเกษตรแบบชาวบ้านอยู่ ดูแล้วน่าอยู่ ไม่น้อยทีเดียว สนุกดีครับ กลับจากล่องเรือช่วงเย็น แดดอ่อนๆ บรรยากาศสุดยอดจริงๆ คุ้ม ครับคุ้มมาก แค่บรรยากาศช่วงล่องเรือก็เจ๋งแล้ว

       ช่วงกลางคืนที่เชียงรายไม่ต้องกลัวเหงา ถ้าคืน วันเสาร์ไปเดินเที่ยวถนนคนเดินของเชียงรายได้เลย ผมว่าบรรยากาศดีครับ สินค้าที่มาขายมีความเป็นเมืองเหนือมากกว่าถนนคนเดินที่เชียงใหม่และที่ปาย ไม่ว่าจะ เป็นขนม เสื้อผ้า ดูน่ารักดี เดินไปเรื่อยๆ สนุกครับ มีเด็กเมืองเชียงรายมารวมกลุ่มเต้นบีบอยโชว์ด้วย ถ้าคิดว่า เป็นการแสดงออกก็ดีครับ อย่าไปคิดมากว่าฝีมือถึงขั้นมาเต้นโชว์หรือเปล่า ที่สำคัญ ที่ถนนคนเดินมีร้านข้าวต้มชื่อ ร้านจ่าฮี ครับ เป็นร้านข้าวต้มที่ราคาถูกใจผมจริงๆ ผัดผักบุ้งจานละ 20 บาท ยำกุ้งแห้ง 20 บาท ปลาทอด 60 บาท สั่งกับข้าวเต็มโต๊ะ ไม่ถึง 200 บาท แถมรสชาติยอดเยี่ยมอีกต่างหาก

       เดินถนนคนเดินเรียกเหงื่อ ทานข้าวต้มให้ท้องตึงๆ กลับไปหลับสบายครับ ตื่นมาวันรุ่งขึ้น น่าเสียดายเหลือเกินที่ผมป่วยทั้งวัน ไม่สามารถไปเที่ยวไหนไกลๆ ได้ เลยได้แค่ไปทานขนมเค้กที่ร้านสวนจริม ซึ่งอยู่ที่ อ.แม่สรวย ห่างจากเชียงรายประมาณ 40 กิโลเมตร เพื่อมาทานขนมเค้กแสนอร่อย พร้อมกาแฟร้อนๆ ให้ชื่นใจ ก่อนกลับไปนอนหมดแรงที่โรงแรม ซึ่งบรรยากาศตลอดวันนั้นฝนเริ่มตกลงมาอย่างหนักแล้วครับ ทำให้ได้รับรู้สภาพอากาศเชียงรายวันฝนตกแล้วว่า คลาสสิก แค่ไหน บอกได้เลยว่าอากาศดีมากครับ ถ้าชอบขับรถท่ามกลางฝนตกแล้วรอบข้างเป็นป่าเขา ทุ่งนาสีเขียวขจีละก็ ไม่ผิดหวังแน่ๆ ผมเองยังขับรถลุยฝนไปหาร้านกาแฟเล็กๆ ทานแถม อ.แม่จัน ชื่อร้านร้อยดิน ในบรรยากาศทานกาแฟละเลียดไปพร้อมกับละอองฝน เยี่ยมจริงๆ

ผมว่าถ้า มาเที่ยวที่นี่แบบฝนตกแล้วละก็ ไม่ต้องกังวล หรือดิ้นรนขับรถไปเที่ยวไกลๆ เลยครับ แค่ขับรถเที่ยวไปตามอำเภอใกล้ๆ หาร้านน่ารักๆ นั่งชมสายฝนพรำๆ ลงมา แบบใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบ ไม่ให้เวลาในนาฬิกามาเป็นนายเราละก็ สบายครับ

-ขอบคุณโพสต์ทูเดย์


* 37_20090730141237.jpg (16.98 KB, 250x124 - ดู 454 ครั้ง.)

* 37_20090730141842.jpg (23.26 KB, 250x166 - ดู 452 ครั้ง.)

* 37_200907301412372.jpg (61.09 KB, 250x355 - ดู 464 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
สาวเจียงใหม่
Sr. Member
****
เพศ: หญิง
กระทู้: 332



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 11:26:18 AM »


อ่านแล้วเพลินเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆที่มาเล่าให้ฟังนะคะ  :onio: :onio:
บันทึกการเข้า
Smart_Addiction
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 11:34:06 AM »


โอ้โหเล่าเรื่องซะจนเห็นภาพเลยค่ะ
บันทึกการเข้า
Mai-amM
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 12:54:14 PM »


น่าสนใจจังเลยนะค่ะ ขอบคุณที่นำเรื่องดีดีมาเล่า 910 910
บันทึกการเข้า
natchumon
Full Member
***
กระทู้: 207


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 12:58:17 PM »


น่าเที่ยวนะคะเนี่ยแค่อ่านก็อยากเที่ยวแล้วง่ะ
บันทึกการเข้า
You and Me
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 01:15:13 PM »


ขอบคุณสำหรับการแชร์ประสบการณ์ที่ดีค่ะ
บันทึกการเข้า
dark_sky
Full Member
***
กระทู้: 167



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 02:25:12 PM »


Raining Trip..Wow! 901
บันทึกการเข้า
pajingo
Full Member
***
กระทู้: 228


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 02:33:04 PM »


ไปเที่ยวเชียงรายประมาณ 3 วัน 2 คืน คงสนุกน่าดู..เฮ้ออยากไปจังเย้ยยยยยย :01: :01:
บันทึกการเข้า
Apaporn
Full Member
***
กระทู้: 125


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 03:52:14 PM »


ขอบคุณสำหรับหสรแชร์ประสบการ การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ  ถ้าคราวหน้าไปเที่ยวอีกเอาข้อมูลมาฝากอีกนะคะ
บันทึกการเข้า
Hang_Over
Full Member
***
กระทู้: 166


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 04:23:21 PM »


ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะค่ะ  903 903
บันทึกการเข้า
mindchan
Sr. Member
****
กระทู้: 316


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 05:03:56 PM »


เคยไปอยู่ที่เชียงรายมาก่อน
อากาศดีมากๆ ที่เที่ยวก้อเยอะ
มาเที่ยวเชียงรายกันค่ะ
บันทึกการเข้า
konchobteaw
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 07:33:16 PM »


อ่านแล้วรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ ขอบคุณที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ  903
บันทึกการเข้า
konchobteaw
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2010, 08:00:06 PM »


เห็นด้วยกับที่ร้านข้าวต้มจ่าฮีค่ะ อร่อย ราคาถูก มีอาหารให้เลือกเยอะแยะเลย ร้านหาไม่ยากอยู่ติดถนนเลยค่ะ
ที่ตั้ง :   เลขที่ 567/9 ถนน ธนาลัย ตำบล เวียง อำเภอ เมืองเชียงราย
จังหวัด เชียงราย  รหัสไปรษณีย์ 57000
เบอร์โทรศัพท์ :   0-5374-0024
สถานที่จอดรถ :   ริมถนนหน้าร้านข้าวต้มจ่าฮี
การเดินทาง :   จาก ตัวเมืองเชียงราย ตรงไปจนถึงสี่แยกศาลจังหวัดเชียงราย แล้วเลี้ยวขวาตรงไปประมาณ 80 เมตร ร้านข้าวต้มจ่าฮีจะอยู่ทางด้านขวามือ บนถนนธนาลัย
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ไปจนถึงเวลา 24.00 น.
เมนูแนะนำ
 ไทย: ข้าวต้มกุ๊ย,ยำไข่เค็ม,ยำกุนเชียง,คะน้าปลาเค็ม,ปลาตะเพียนเกี๊ยมฉ่าย,อาหารปรุงตามสั่ง   :16:
บันทึกการเข้า
renu
Full Member
***
กระทู้: 160


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2010, 01:31:17 PM »


ขอบคุณ สำหรับขอ้มูลคะ
บันทึกการเข้า
Nunui
Full Member
***
กระทู้: 188



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2010, 02:21:39 PM »


ขอบคุณที่เอาข้อมูลดี ๆ มาบอกกันนะค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  ข้อมูล ที่พักโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย  |  ทริปข้อมูลรูปภาพสวยๆ ที่น่าสนใจของจังหวัดเชียงราย  |  หัวข้อ: ตากแดด เปียกฝน ที่เชียงราย « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.277 วินาที กับ 20 คำสั่ง