การอ่านทำคนให้เป็นคนโดยสมบูรณ์คำกล่าวของ เซอร์ ฟรานซิส เบคอน นักปรัชญาเมธีชาวอังกฤษ ยังคงแสดงให้เห็นว่า การอ่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์ และจะช่วยเติมเต็มให้มนุษย์มีความเจริญทั้งด้านสติปัญญาและจิตใจ
ที่เอ่ยมากันตั้งแต่ต้นแบบหล่อๆ ก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่ทุกครั้งเวลามีงานสัปดาห์หนังสือแห่งปีที่ ม.เชียงใหม่ ทีไหร่ ผมมักจะนึกประโยคนี้ออกอยู่เสมอ ซึ่ง ณ เวลาปัจจุบัน งานสัปดาห์หนังสือแห่งปีที่ ม.เชียงใหม่ (หรือ CMU Book Fair) ก็จัดขึ้นกันเป็นครั้งที่ 21 แล้ว
สำหรับในครั้งนี้นั้น ได้กำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ 19 25 มกราคม 2558 เวลา 09.00-20.00 น. ณ บริเวณทิศเหนือของศาลาอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งต่างจากสองปีก่อนที่ผมไป จะจัดกันช่วงปลายๆ ปี และต่างอีกหนึ่งอย่างที่เห็นคือ สถานที่จัดที่สองครั้งย้อนหลังเป็นพื้นที่บริเวณสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สำหรับวัตถุประสงค์ของงาน หลักๆ ก็เพื่อส่งเสริมการอ่านแก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสเลือกหนังสือ และสิ่งพิมพ์ดีมีคุณภาพในราคาพิเศษ พร้อมทั้งมีโอกาสพบปะนักเขียนในงานดังกล่าวครับ
ในส่วนของกิจกรรมในงานสัปดาห์หนังสือแห่งปี CMU Book Fair ครั้งที่ 21 ก็จะประกอบด้วยกิจกรรม เช่น การออกร้านจำหน่ายหนังสือ และสื่อการศึกษาในราคาพิเศษจากร้านจำหน่ายหนังสือ สำนักพิมพ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 100 บูธ ในราคาพิเศษ
กิจกรรม นักเขียนพบผู้อ่าน กิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้พบปะพูดคุย กับนักเขียน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ของงานเขียน อย่าง แรงบันดาลใจในการเขียน การเตรียมตัวในการเขียน และเทคนิคการเขียน ซึ่งปีนี้มีนักเขียนมาร่วมงานด้วยกันหลายคน อาทิ คุณหญิงวิมล เจียมเจริญ (ทมยันตี) คุณวรรณวรรธน์ ดร.ประมวล เพ็งจันทร์ คุณจักรกฤต โยมพยอม (แชมป์แฟนพันธุ์แท้สุนทรภู่) คุณนัชญ์ ประสพสิน และ นายแพทย์ คัมภีร์ สรวมศิริ เป็นต้น
กิจกรรม "Book Caravan" อันนี้เป็นกิจกรรมร่วมบริจาคเงิน หนังสือใหม่ หรือหนังสือใช้แล้วสภาพดี ให้กับน้อง ๆ ในโรงเรียนที่ขาดแคลนทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ เพื่อช่วยส่งเสริมการศึกษาให้น้องๆ ซึ่งก็มีด้วยกัน 4 โรงเรียน
ในส่วนบรรยากาศของงานนั้น ยังคงคึกคักกันเหมือนทุกปีครับ แม้จะย้ายสถานที่จัดกันก็ตาม บรรดานักอ่านมากหน้าหลายตา ต่างทยอยกันมาจับจ่ายสอยใช้ เลือกซื้อหนังสือกันอย่างคับคั่ง อาจจะมีหงุดหงิดหน่อยตรงที่ไม่ค่อยคุ้นชินแผนผังของบูธต่างๆ กันซักเท่าไหร่ (ผมละคนนึง) แต่ตอนกลับก็พากันเสร็จทุกราย คือมีหนังสือหอบกลับบ้านแบบพะรุงรัง ฮ่าๆๆทั้งหนังสือลดราคา และหนังสือที่หายาก ที่ตามหามานานกว่าจะพบเจอ
ถือซะว่าเอาบรรยากาศของงานมาฝากกันนะครับ ซึ่งใจจริงก็อยากจะเอาเรื่องเล่าจากนักเขียนที่มาพบปะกับนักอ่าน มาเล่าสู่กันฟังอยู่ เผื่อได้ข้อคิดอะไรเพิ่มเติม แต่ด้วยจังหวะเวลาผมไม่เอื้ออำนวย ก็เลยได้แต่เพียงเก็บบรรยากาศทั่วๆ ไปในงานมาฝากเท่านั้น
แล้วไว้ปีหน้า เจอกันใหม่จ้า 
ผู้เขียน