จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2

เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ => แนะนำ พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ หมู่บ้านวัฒนธรรม ในเชียงใหม่ => ข้อความที่เริ่มโดย: Dockaturk ที่ เมษายน 02, 2016, 02:43:19 PM



หัวข้อ: นิทรรศการโครงการบ้าน : เมื่อบ้านไม่ใช่วิมานเสมอไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ เมษายน 02, 2016, 02:43:19 PM
ศิลปะนอกจากจะถ่ายทอดความงาม ความรู้สึกของผู้สร้างสรรค์แล้ว ศิลปะยังถ่ายทอดความจริงบางอย่างของสังคมให้คนดูได้รับรู้กันอีกด้วย เหมือนกับงานศิลปะในนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย โครงการบ้าน : ความทรงจำและความหวัง บ้านไม่ใช่วิมานเสมอไป...ขอเพียง “ความเข้าใจ” ที่จัดขึ้นภายใน หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559

งานนี้มี รองศาสตราจารย์ นพ.อำนาจ อยู่สุข รองอธิการบดีฝ่ายบริการ พัฒนาสังคม ศิลปวัฒนธรรมและกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย โครงการบ้าน : ความทรงจำและความหวัง บ้านไม่ใช่วิมานเสมอไป...ขอเพียง “ความเข้าใจ” โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และเยาวชนจากศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขต 7 จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกิจกรรมกัน ส่วนที่จัดงานจะอยู่ที่ชั้นล่างห้องเล็กๆ ของหอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เอ่ยถึงงานที่จัดแสดงครั้งนี้ มันคืองานศิลปะร่วมสมัยกันครับ คืองานที่นำเอาแนวคิดของลัทธิศิลปะสมัยเก่ากลับมาใช้ใหม่ โดยมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่องราวหรือลวดลายบางส่วนให้มีความทันสมัย ทันเหตุการณ์ แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของลักษณะแนวความคิด รูปร่างรูปทรง ขั้นตอน หรือ วิธีการสร้างงานศิลปะตามยุคสมัยหรือลัทธิเดิม ดังเช่น การนำลวดลายหรูหราจากศิลปะโรโคโคมาดัดแปลงใช้เป็นลวดลายกระดาษ ลายผ้า ฯลฯ การวาดภาพวิวทิวทัศน์กรุงเทพฯ ยามเย็นโดยใช้การแต้มสีเหมือนศิลปะลัทธิอิมเพรสชั่นนิสม์ เป็นต้น

และศิลปะร่วมสมัย เมื่อถูกจัดแบ่งกลุ่มตามจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ของศิลปิน ก็จะมีเป็น 3 กลุ่ม ด้วยกันคือ กลุ่มแรกศิลปะเป็นภาษาแห่งความงาม เป็นศิลปะที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ผลงานที่มี “ความงาม” หรือสุนทรียภาพทางรูปทรง เป็นหลักการสำคัญ  “แก่นแท้” ของศิลปะก็คือ “ความงาม” ดุจเดียวกับ “ความไพเราะ” ในคีตศิลป์  เมื่อพิจารณาย้อนกลับไปในอดีต “มาตรฐานของความงาม” เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทุกยุคทุกสมัย ดังเห็นได้ประจักษ์ชัดจากยุคสมัยและลัทธิของศิลปะที่เปลี่ยนไป ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งนอกเหนือจาก “เวลา” และก็คือ “สถานที่” ประเทศแต่ละประเทศในแต่ละสมัยล้วนแต่มีมาตรฐานของความงามที่แตกต่างกัน อาจจะกล่าวสรุปได้ว่ามาตรฐานของความงามนั้นขึ้นอยู่กับ “กาละและเทศะ” นั่นคือ เวลาและสถานที่

อนึ่ง ความงามเป็นนามธรรมที่จับต้องไม่ได้และเป็น “อัตวิสัย” อย่างยิ่งของบุคคลแต่ละคนที่มิได้ใช้เพียง “ตา” แต่ใช้ “จิตใจ” สัมผัส ไม่มีเครื่องมือใดๆที่วัด “เชิงปริมาณ” ว่าขนาด สัดส่วน น้ำหนักเท่าใดถึงจะงามเป็นมาตรฐานได้ความงามในศิลปกรรมมิใช่เป็นเพียงรูปทรงที่สวย องค์ประกอบที่ลงตัว และเทคนิคฝีมือที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่เนื้อหาสำคัญคือ ทัศนคติและเจตนาของศิลปินผู้สร้างที่ปรารถนาให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีงามต่อจิตใจและปัญญาของผู้ดูอีกด้วย ฉะนั้นศิลปะที่เป็นภาษาแห่งความงามนี้ หมายถึง คุณค่าทางรูปทรงที่มีพร้อมทั้งความงามทางรูปทรง องค์ประกอบ และเทคนิคฝีมือที่สมบูรณ์ รวมทั้งคุณค่าทางความเป็นจริงและคุณค่าทางความดี


หัวข้อ: Re: นิทรรศการโครงการบ้าน : เมื่อบ้านไม่ใช่วิมานเสมอไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ เมษายน 02, 2016, 02:44:48 PM
สำหรับกลุ่มที่สอง ศิลปะเป็นภาษาแห่งอารมณ์ ความรู้สึก ศิลปินในกลุ่มนี้มีจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นการแสดงออกของ“อารมณ์ ความรู้สึก” สะเทือนใจเป็นคุณค่าสำคัญที่สุด  ศิลปินในกลุ่มนี้จึงมักจะมีภูมิหลังของชีวิตส่วนตัวที่ได้รับแรงกดดันจากสังคมจนมีบุคลิกภาพพิเศษ การทำงานศิลปะเป็นเสมือนวิถีทางของการระบาย ปลดปล่อย ลดแรงกดดัน และเขายังสามารถแปรเปลี่ยนแรงกดดันนี้ให้กลายเป็นพลังแห่งการสร้างสรรค์ที่มีพลานุภาพอย่างยิ่ง

แรงกดดันจากภายในของศิลปินกลุ่มนี้ได้กลายเป็นคุณสมบัติสำคัญที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ เพราะดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการแสดงออกอย่างซื่อ บริสุทธิ์  ศิลปะในกลุ่มนี้ เน้นการแสดงออกทางอารมณ์ ความรู้สึกอย่างชัดแจ้ง โดยการปฏิเสธความประณีต ละเอียดอ่อน ของความงดงามทางรูปทรงและเทคนิค ฝีมือ ศิลปินที่มีความเชื่อในกลุ่มนี้สร้างสรรค์ผลงานในลักษณะที่ทำตรงกันข้าม ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นการต่อต้านและเป็นปฏิปักษ์กับสุนทรียภาพ ทั้งด้วยวิธีการดัดแปลงรูปทรง โดยการฉีกทึ้ง หด ย่อ ขยาย แปรเปลี่ยนรูปทรงให้บิดเบี้ยว ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง รวมทั้งการใช้เส้นสายที่หยาบกระด้าง สีสันที่สด ดิบ น้ำหนักที่ตัดกันอย่างขัดแย้ง รุนแรง พวกเขาได้เปลี่ยนความเชื่อ หลักการ และคุณค่าสำคัญจากศิลปะที่เป็นภาษาแห่งความงาม มาเป็นศิลปะที่เป็นภาษาแห่งอารมณ์ความรู้สึก   ศิลปะที่เป็นภาษาแห่งการแสดงออกของอารมณ์นี้ได้พัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุดในแนวจิตรกรรมนามธรรมแห่งลัทธิศิลปะแอ๊บสแตร็ก เอ็กซ์เพรสชั่นนิสม์ โดยการตัดทิ้งเรื่องราว ความหมายที่สะท้อนความเป็นจริงของสังคมแบบศิลปะเอ็กเพรสชั่นนิสม์ออกไป พัฒนาเทคนิคจิตรกรรมใหม่ที่ไม่เคยมีการใช้มาก่อนในโลกแห่งจิตรกรรมและเป็นเทคนิคที่ตอบสนองต่อการแสดงออกได้อย่างลื่นไหล รวดเร็ว ฉับพลันและรุนแรง ประสานกับการขยายขนาดของจิตรกรรมให้ใหญ่โตขึ้นอย่างมากมาย ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้การแสดงออกของอารมณ์รุนแรง และตรงออกมาจากจิตไร้สำนึกได้อย่างอัตโนมัติ

และกลุ่มสุดท้าย ศิลปะเป็นภาษาแห่งความคิด หรือ ศิลปะเป็นภาษาแห่งความหมาย ศิลปินในกลุ่มนี้จะมีความเชื่อว่าศิลปะคือเครื่องมือในการสื่อสาร ที่เป็นเรื่องราว ความหมาย เกี่ยวกับชีวิต สังคมและโลก เพื่อยกกระชับจิตใจ และสังคมให้สูงส่งดีขึ้น  ศิลปินกลุ่มนี้เชื่อว่า ศิลปะเกิดขึ้นได้จากแนวความคิด สารัตถะของศิลปะคือแนวความคิดเท่านั้น มิใช่สุนทรียภาพหรืออารมณ์ความรู้สึก ความคิดจึงมีบทบาทมากกว่าทักษะฝีมือ อารมณ์ความรู้สึกและสุนทรียภาพ

ในส่วนงานนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย โครงการบ้าน : ความทรงจำและความหวัง บ้านไม่ใช่วิมานเสมอไป...ขอเพียง “ความเข้าใจ” นั่น ศิลปะร่วมสมัยที่จัดแสดง ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่สอง คือ ศิลปะเป็นภาษาแห่งอารมณ์ ความรู้สึก มีจุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นการแสดงออกของ“อารมณ์ ความรู้สึก” สะเทือนใจเป็นคุณค่าสำคัญที่สุด  อันมีภูมิหลังของชีวิตส่วนตัวที่ได้รับแรงกดดันจากสังคมจนมีบุคลิกภาพพิเศษ และการทำงานศิลปะเป็นเสมือนวิถีทางของการระบาย ปลดปล่อย ลดแรงกดดัน ดังจากที่ได้เห็นจากผลงานรวมทั้งความเรียงที่ถูกแปะเอาไว้ภายในห้องจัดแสดงด้วย ที่เนื้อหาส่วนใหญ่อ่านแล้วก็รู้สึกสะเทือนอารมณ์ ไม่แพ้กับผลงานที่สร้างสรรค์


หัวข้อ: Re: นิทรรศการโครงการบ้าน : เมื่อบ้านไม่ใช่วิมานเสมอไป...
เริ่มหัวข้อโดย: auto ที่ เมษายน 02, 2016, 04:12:53 PM
ไม่รู้งานยังมีอยู่หรือเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: นิทรรศการโครงการบ้าน : เมื่อบ้านไม่ใช่วิมานเสมอไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ เมษายน 02, 2016, 04:46:59 PM
ไม่รู้งานยังมีอยู่หรือเปล่าครับ

งานจบไปเมื่อวันที่ 31 มีนา ที่ผ่านมาครับ