จริงๆต้องบอกว่า เชียงใหม่เป็นเมืองที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยนะครับ แต่คนส่วนใหญ่มักพากันคิดไปว่ามาเชียงใหม่ ต้องมากันตอนหน้าหนาว มันถึงจะได้อารมณ์ ก็ที่นี่มันเมืองหนาว ไม่มาตอนหนาวแล้วแกจะมาตอนไหนฟะ?
แหม ลองกวาดสายตามองกันดี นครพิงค์นี้ยังมีอะไรให้เบิกตา สะพายเป้ออกไปเจอโลกกว้างอีกเยอะ ไม่จำเป็นหรอกครับว่าต้องหน้าหนาวเสมอไป อย่างเช่นหน้าฝนพรำแบบนี้ การที่จะนอนแคะสะดือเล่นที่บ้าน แม้มันจะสำราญในระดับแคะขี้หูพร้อมฟังเพลงคันทรี แต่การไปเที่ยวกันแบบลุยๆ มันส์ๆ ในยามฝนนี้ ก็ให้อารมณ์ดิบๆกันไปอีกแบบ
ยิ่งพวกแนวผจญภัย ผาดโผน ในป่า ขอบอกว่ายิ่งสนุกหรรษากันมาก ซึ่งส่วนใหญ่ในเชียงใหม่ก็มีกันหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะล่องแก่ง ปีนเขา โรยตัว ขับ ATV กระโดดบันจี้จั้มพ์ Zipline รักใคร่สไตล์ไหนจิ้มไปโลด
แต่สำหรับผมที่จะพาไปคราวนี้เป็น Zipline ดีๆจากทาง Flying Squirrels หรือชื่อในเวอร์ชั่นพี่ไทยคือ กระรอกบิน ที่บ้านปงไคร้ อ.แม่ริม ครับ แถมเป็นการเปิดซิง Zipline สำหรับผมด้วย ฉะนั้นอัตราความตื่นเต้นมันจึงทะลักจุดเดือดอย่างน้อยแน่นอน ฮิ้ววววววววววว
คำแนะนำก่อนอื่นเลย สำหรับใครที่จะมา ขอบอกว่าทำประกันภัยไว้เยอะๆครับ เฮ้ยไม่ใช่ ต้องบอกว่า ใจกล้ากันก่อนล่ะ เพราะของแบบนี้ ถ้าใจมาก่อน อย่างอื่นก็ไม่ต้องกลัว (ใจสู้หรือเปล่า ไหวมั้ยบอกมา ฮ่าๆๆ)
ส่วนประกันภัยอะไรนั้น ทาง Flying Squirrels เขามีให้เซ็นกันก่อนเล่นอยู่แล้ว แต่ผมไม่ได้ดูว่ามีประกันอะไรบ้าง ถ้าหากเกิดนรกแตกอะไรขึ้น (จริงๆ ควรต้องอ่านแหละครับ แต่พอดีผมรีบ เพราะมีสองสาวมาร่วมก๊วนกำลังรออยู่ อิอิ)
ก่อนสนุกเป็นธรรมดาที่ต้องมีการแต่งองค์ทรงเครื่องกันก่อน ก็มีใส่ชุดป้องกันความปลอดภัย มีใส่หมวก โพกหัว สายอะไรก็ไม่รู้พันรอบตัวอีรุงตุงนังไปหมด
แต่งเสร็จ Staff สองหนุ่มของที่นี่บอกคำแนะนำอย่างคร่าวๆว่าสายนี้เอาไว้ทำอะไร สายนู้นเอาไว้ทำอะไรในชุดที่ใส่ ไอ้ผมก็ฟังแบบผ่านๆล่ะครับ ทำนองรับรู้ แต่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ว่างั้น
เสร็จจากนั้น ก็ได้เวลานั่งรถทางทีมงานจัดไว้ ก่อนจะขับออกจากฐานบัญชาการตรงดิ่งเข้าป่าซักนิด เป็นอันถึงที่หมาย โดยมีความตื่นเต้นแต่ละฐาน ยืนกวักมือเรียกความสนุกอยู่
จากคราวแรกที่แนะนำกันแบบลวกๆ เหมือนมาม่า มาคราวนี้ต้องเอาจริง ตั้งใจฟังกันแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวเกิดเด๊ดห่าไป อันตรายกันแย่เลยทีเดียว ซึ่งเท่าที่ผมจำได้ก็จะมีห้ามปลดสายสลิงด้วยตัวเอง ห้ามกระโดดลงไปโหนทันที เวลาใกล้ถึงที่หมายให้ยกขาขึ้น เวลาโหนอย่าไปจับตรงสลิง ไม่งั้นมือขาดแน่ไอ้น้อง!
เมื่อลูกทีมเป็นอันเข้าใจ ก็ถึงเวลาไปมันส์กันแล้ว คนแรกไปก่อนเลยคือ Staff จากนั้นจะเป็นลูกทีมทั้ง 5 (ซึ่งพวกผมคือ 3 ใน 5) และจะตบท้ายด้วย Staff อีกคน
ครั้งแรกก็ต้องบอกว่าเสียวแล้วครับ (กรุณาอย่าคิดลึก) แต่พอร่างกายและหัวใจเริ่มปรับตัวจนชิน คราวนี้แหละ แต่ล่ะคนเริ่มออกท่าออกทางโชว์ลีลาอกันมากขึ้น ที่เห็นเก๋าสุดคงนี้ไม่พ้น Staff ของเราที่โหนไปเต้นกังนัมสไตล์ไปด้วย
คือเต้นกัมนังสไตล์ มึงคิดไงครับ ฮ่าๆๆ
นอกจากการโหนสลิงจริงๆ แบบสตั้นแมนท่ามกลางความสูงกว่า 1,000 เมตรในป่าแล้ว ที่นี้ยังมีกิจกรรมอย่างอื่นอีกทั้งปั่นจักรยานบนสลิง เล่นสเก็ตบอร์ดบนสลิง มีไต่เชือกตาข่าย สะพานเชือก หรือจะเล่นสไลด์ตัว เรียกว่าจัดเต็มทุกองศาความมันส์ กว่าที่อื่นๆในเชียงใหม่อีก (เห็นเจ้าของเขาบอกว่าที่นี่มีฟังก์ชั่นเยอะกว่าใครนะ)
ในส่วนของเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะอุปกรณ์เซฟตี้ อุปกรณ์การเล่น และ Staff อยู่ในระดับมาตรฐานครับ คือไว้ใจได้เพราะเห็นบอกมีประสบการณ์ด้านนี้มากว่า 30 ปี
เบ็ดเสร็จโหนรถเมล์ ถุย! โหนสลิง ใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ ออกมาจากก็ตรงดิ่งมายังบริการอาหารบุฟเฟ่ต์ของ Flying Squirrels เขาให้ซัดหายหิวกันแบบลืมตาย ส่วนใครอยากอาบน้ำอุ่นแบบผ่อนคลายก็สามารถแจ้งทีมงานกันได้ไป ส่วนผมก็ใส่ข้าวก่อนเลย
ราคาต่อหัวในตอนนี้ก็ตกอยู่ที่ 1,999 บาทต่อคน จากปกติ 2,699 บาท สำหรับฝรั่ง ราคานี้ถือว่าสบาย แต่คนไทยก็แล้วแต่ครับ เพราะส่วนใหญ่ถ้าแนวผจญภัยแบบนี้ พี่ไทยเรามักจะเบือนหน้านี้ อ่อ ที่นี่เขายังมีแถมภาพถ่ายที่ระทึกและระลึกจากทีมงานให้พร้อมเสื้อยืดอีกตัว เอาไปใส่อวดชาวบ้านกันด้วย
สงสัย สนใจ ใคร่อยากรู้ อยากลองดู ลองสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 053 278989-90 และ 083-0841430 หรือจะจองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกไปที่ treetopflight.com ครับ
สุดท้ายถ้าจะมีการให้คะแนนความมันส์เต็ม 10 ผมให้ไป 8 กะโหลกความตื่นเต้นก็แล้วกันครับ คุณผู้อ่านที่รัก
ผู้เขียน