ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤษภาคม 19, 2024, 06:08:04 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ  โพสหัวข้อเดียวซ้ำๆ กัน รับสิทธิ์ โดนลบกระทู้ และโชคดีได้รับสิทธิ์แบนฟรี 90 วันครับ


จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: วัดทรายมูล (พม่า) : โลกอีกใบของคนพม่าในเมืองเชียงใหม่ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดทรายมูล (พม่า) : โลกอีกใบของคนพม่าในเมืองเชียงใหม่  (อ่าน 2976 ครั้ง)
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:32:16 PM »


เชียงใหม่ไปพม่าระยะทางอาจจะห่างกันหลายร้อยกิโล แต่สำหรับที่วัดทรายมูล (พม่า) ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่ใกล้กันในเรื่องของความรู้สึกทางใจ

สัมผัสแรกที่จะได้เห็นคือ เด็กๆ ทั้งไทใหญ่ พม่า แม้กระทั่งเด็กไทย เรียนภาษาพม่า ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว บางก็วิ่งเล่นภายในบริเวณวัด เมื่อสอบถามเด็กๆ ถึงได้รู้ว่า ทางวัดมีการเรียนการสอนให้เด็กๆ ในวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ และช่วงที่โรงเรียนไทยปิดภาคเรียน

นอกจากนี้ ยังให้ความรู้สึกว่าหลุดเข้ามาอีกโลกใบนึง ทั้งๆ ที่ระยะห่างจากตัววัดกับถนนในคูเมืองห่างกันแค่นิดเดียว

มาเที่ยวที่นี่ เหมือนมาเที่ยวพม่า


* DSCF5652.JPG (400.99 KB, 800x533 - ดู 903 ครั้ง.)

* DSCF5615.JPG (408.19 KB, 800x533 - ดู 855 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:33:18 PM »


วัดทรายมูล (พม่า) เป็นวัดที่มีพระพม่าเป็นเจ้าอาวาสวัดจำพรรษาวัดเดียวในจังหวัดเชียงใหม่ และถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพม่าในเชียงใหม่ มีชื่อเดิมคือ วัดมูลม่าน มีเจ้าอาวาสที่เป็นพระพม่าดูแลต่อเนื่องมาทั้งหมด 10 รูป โดยเจ้าอาวาสคนล่าสุดคือ พระอู ทอบา ได้มรณภาพตั้งแต่ปี 2554 และเมื่อเจ้าอาวาสมรณภาพได้มีชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่กว่า 200 คน รวมตัวกันชุมนุมและปิดล้อมพื้นที่บริเวณวัด เพื่อประท้วงเพราะไม่พอใจที่ทางคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการแต่งตั้งพระปลัดพีระพร ปญฺญาวโร มาเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดทรายมูล จนสุดท้ายต้องยกเลิก และให้ทางพม่าคัดเลือกพระสงฆ์ที่จะมาเป็นเจ้าอาวาสเอง
       
และสำหรับพระอาจารย์โกฑัญญะ ปัจจุบันมีอายุ 68 ปี พรรษา 48 เป็นประธานคณะสงฆ์รูปที่ 11 โดยก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งประธานคณะสงฆ์ที่วัดชิดจีเยจองเต็ก ประเทศพม่า และทางกรรมการวัดทรายมูล (พม่า) ที่เลื่อมใสในศรัทธาได้เชิญให้มาเป็นประธานคณะสงฆ์เมื่อปี 2556 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะสงฆ์ที่วัดทรายมูล (พม่า) วันที่ 28 ก.ค.


* DSCF5612.JPG (440.07 KB, 800x533 - ดู 881 ครั้ง.)

* DSCF5651.JPG (384.8 KB, 800x533 - ดู 827 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:33:57 PM »


จากการสันนิษฐาน วัดแห่งนี้คงจะสร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณรัชกาลที่ 5 เมื่อคนพม่าในบังคับของอังกฤษเข้ามาทำป่าไม้ รวมทั้งวัดของชาวไทใหญ่ คือวัดป่าเป้า และวัดหนองคำของชาวกะเหรี่ยง (ปะโอ) และเมื่อคิดคำนวณแล้ว น่าจะสร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมิกราช โดยแม่ทัพพม่าชื่อ จ่ำสัง แต่ไม่ปรากฏปีที่สร้าง ส่วนวิหารและเจดีย์ได้รับการบูรณะเมื่อปี พ.ศ.2452




* DSCF5613.JPG (318.54 KB, 800x533 - ดู 833 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:34:48 PM »


สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดมี อุโบสถของวัด เป็นสถาปัตยกรรมแบบพม่าที่มีความเรียบง่ายเพราะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคาซ้อนชั้น ซุ้มประตูหน้าต่างประดับด้วยปูนปั้นลงสีรูปดอกไม้ ใบไม้ ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธานศิลปะแบบพม่า คือพระพุทธเจ้าประทับนั่งท่ามารวิชัย เม็ดพระศกสีดำ ด้านข้างพระประธานประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะคล้ายกันกับพระประธานอีก 2 องค์ ฐานชุกชีที่ประดิษฐานพระพุทธรูปมีการตกแต่งด้วยปูนปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผม และกระจกสีอย่างงดงาม

โดยภายในอุโบสถ มีภาพวาดจิตกรรมฝาผนังเรื่องราวเกี่ยวกับ คัมภีร์มหาชาติ เล่าเรื่องมหาเวชสันดรชาดก ว่าด้วยพระบุพจริยาของพระพุทธองค์ในอดีตชาติ เมื่อเสวยพระชาติเป็นพระเวชสันดรบรมโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญพระบารมีเป็นชาติสุดท้ายก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



* DSCF5607.JPG (450.84 KB, 800x533 - ดู 874 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:38:12 PM »


บางคนเชื่อว่าคัมภีร์มหาชาตินั้นเป็นพุทธวัจนะซึ่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสประทานเทศนาแก่พระภิกษุสงฆ์ พุทธบริษัท ณ นิโครธาราม กรุงกบิลพัสดุ์ หากผู้ใดได้สดับย่อมเกิดสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลเป็นกุศลบุญราศีสืบไป ดังนั้น การเทศน์มหาชาติคือมหากุศลที่เตือนบุคคลให้น้อมรำลึกถึงการบำเพ็ญบุญ คือความดีที่ยิ่งยวด อันมีการสละความเห็นแก่ตัวเพื่อผลประโยชน์สูงอันไพศาลของมวลมนุษย์ชาติเป็นสำคัญ เป็นเทศกาลที่คงความหมายอย่างแท้จริง

เทศน์มหาชาติ สอบให้คนรู้จักทำความดี ประกอบกรรมดี รู้จักการบำเพ็ญบุญ บริจาคทาน สละความเห็นแก่ตัว สละทรัพย์เพื่อสาธารณประโยชน์ เป็นการลดความตระหนี่ในใจ ลดความเห็นแก่ตัว หรือการทำให้ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เป็น รูป รส กลิ่น เสียง ที่เป็นอนิจจัง เพราะเวลาตายไปแล้วไม่มีใครเอาเงินทางไปได้ มีแต่ความดีและความชั่วเท่านั้นที่สามารถเอาไปได้ในภพหน้านั่นเอง

ชาวพุทธนิยมฟังเทศน์มหาชาติ ซึ่งพุทธศาสนิกชนทุกคนต่างมีความเชื่อว่าเป็นพุทธวจนะซึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสประทานแก่พระภิกษุและพุทธบริษัท การได้ฟังพุทธวจนะย่อมเกิดอานิสงส์และกุศลราศีแก่ตน


* DSCF5608.JPG (451.13 KB, 800x533 - ดู 826 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:39:28 PM »


หากเดินดูรอบๆ ก็จะเห็นมีทั้งหมด ทั้ง 13 กัณฑ์ คือ

1.กัณฑ์ทศพร 19 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ สาธุการ ทศพร เป็นกัณฑ์ที่พระอินทร์ประสาทพรแก่นางผุสดี ก่อนที่จะจุติลงมาเป็นพระราชมารดาของพระเวสสันดร โดยให้พร 10 ประการ

2.กัณฑ์หิมพานต์ 134 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ ตวงพระธาตุ หิมพานต์ เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรบริจาคทานช้างปัจจัยนาค ประชา ชนชาวเมืองสีพีโกรธแค้น จึงขับไล่ให้ไปอยู่เขาวงกต

3.กัณฑ์ทานกัณฑ์ 209 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ พญาโศก ทานกัณฑ์ เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรทรงแจกสัตสดกมหาทาน คือ การแจกทานครั้งยิ่งใหญ่ ก่อนออกจากพระนคร

4.กัณฑ์วนปเวศน์ 57 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ พญาเดิน วนปเวศน์ เป็นกัณฑ์ที่เสด็จถึงเขาวงกต ได้พบศาลาอาศรม ซึ่งท้าววิษณุกรรมเนรมิตให้ พระเวสสันดร พระนางมัทรี ชาลีและกัณหา จึงทรงผนวชเป็นฤาษีพำนักในอาศรมสืบมา

5.กัณฑ์ชูชก 79 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ เซ่นเหล้า ชูชก เป็นกัณฑ์ที่ชูชกได้นางอมิตดามาเป็นภรรยา และหมายจะได้โอรสและธิดาพระเวสสันดรมาเป็นทาส

6.กัณฑ์จุลพน 75 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ คุกพาทย์ จุลพน เป็นกัณฑ์ที่พรานเจตบุตรหลงกลชูชก และชี้ทางอาศรมจุตดาบส ชูชกได้ชูกลักพริกขิงแก่พรานเจตบุตร อ้างว่าเป็นพระราชสาส์นของพระเจ้ากรุงสญชัย จึงได้พาไปยังต้นทางที่จะไปอาศรมฤาษี


* DSCF5609.JPG (401.81 KB, 800x533 - ดู 915 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:40:10 PM »


7.กัณฑ์มหาพน 80 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ เชิดกล้อง มหาพน เป็นกัณฑ์ป่าใหญ่ ชูชกหลอกล่ออจุตฤาษีให้บอกทางสู่อาศรมพระเวสสันดร

8.กัณฑ์กุมาร 101 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ โอดเชิดฉิ่ง กัณฑ์กุมาร เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรทรงให้ทานสองโอรสแก่เฒ่าชูชก

9.กัณฑ์มัทรี 90 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ ทยอยโอด กัณฑ์มัทรี เป็นกัณฑ์ที่พระนางมัทรีทรงได้ตัดความห่วงหาอาลัยในสายเลือด อนุโมทนาทานโอรสทั้งสองแก่ชูชก

10.กัณฑ์สักกบรรพ 43 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ กลม สักก บรรพ เป็นกัณฑ์ที่พระอินทร์จำแลงกายเป็นพราหมณ์มาขอพระนางมัทรี แล้วถวายคืนพร้อมถวายพระพร 8 ประการ

11.กัณฑ์มหาราช 69 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ กราวนอก มหาราช เป็นกัณฑ์ที่เทพเจ้าจำแลงองค์ทำนุบำรุงขวัญสองกุมาร ก่อนเสด็จนิวัตถึงมหานครสีพี

12.กัณฑ์ฉกษัตริย์ 36 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ ตระนอน ฉกษัตริย์ เป็นกัณฑ์ที่ทั้งหกกษัตริย์ถึงวิสัญญีภาพสลบลงเมื่อได้พบหน้ากัน ท้าวสักกะเทวราชได้ทรงบันดาลให้ฝนตกประพรมหกกษัตริย์

13.กัณฑ์นครกัณฑ์ 48 คาถา เพลงประจำกัณฑ์ คือ กลองโยน นครกัณฑ์ เป็นกัณฑ์ที่หกกษัตริย์นำพยุหโยธาเสด็จนิวัตพระนคร พระเวสสันดรขึ้นครองราชย์แทนพระราชบิดา


* DSCF5611.JPG (278.5 KB, 800x533 - ดู 811 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:40:55 PM »


จากอุโบสถ มายังวิหารของวัดทรายมูล เป็นสถาปัตยกรรมแบบพม่าแบบเดียวกับอุโบสถ แต่มีขนาดใหญ่กว่าเนื่องจากใช้เป็นกุฏิสงฆ์ร่วมด้วย ภายในประดิษฐานพระประธานศิลปะพม่าคือพระพุทธเจ้าประทับนั่งในท่ามารวิชัยและพระหยกทรงเครื่องแบบล้านนา


* DSCF5616.JPG (313.58 KB, 800x533 - ดู 880 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:41:40 PM »


สถาปัตยกรรมที่น่าสนใจอีกแห่งของวัดทรายมูล คือเจดีย์แบบแปดเหลี่ยม องค์ระฆังประดับด้วยกระจกสีและเจดีย์แบบพม่า ซึ่งมีลักษณะเด่นคือฐานสี่เหลี่ยมซ้อนชั้น องค์ระฆังมีบัวรัดรอบ ที่มุมทั้งสี่ของฐานเจดีย์ประดับด้วยเจดีย์ขนาดเล็ก

กุฏิ อยู่ทางทิศเหนือของวัด เป็นอาคารเรียบง่าย โดดเด่นด้วยสีแดง - ขาว มี 2 ชั้น บันไดทางขึ้นอยู่ด้านนอกตัวอาคาร


* DSCF5649.JPG (315.53 KB, 800x533 - ดู 835 ครั้ง.)

* DSCF5650.JPG (653.38 KB, 800x1200 - ดู 294 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
Dockaturk
Hero Member
*****
กระทู้: 811



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 24, 2017, 09:44:11 PM »


มาเที่ยววัดนี้ นอกจากความเพลิดเพลินในการชมสถาปัตยกรรมแบบพม่าแล้ว ยังได้สัมผัสอีกแง่มุมหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ ที่หลายคนไม่ค่อยรู้จัก เป็นมุมที่น่าสนใจ ในเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมทางสังคม และวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คน

วัดทรายมูล (พม่า) ตั้งอยู่ฝั่งคูเมืองด้านใน จากประตูเชียงใหม่มาไม่ไกลนัก วัดจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ


* DSCF565336_3.JPG (309.8 KB, 800x533 - ดู 767 ครั้ง.)

* DSCF565336_1.JPG (391.74 KB, 800x533 - ดู 814 ครั้ง.)

* DSCF565336_2.JPG (190.26 KB, 800x533 - ดู 802 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ขึ้นบน พิมพ์ 
จองที่พักราคาถูกทั่วประเทศโทร 053266550-2  |  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ  |  วัดในจังหวัดเชียงใหม่  |  หัวข้อ: วัดทรายมูล (พม่า) : โลกอีกใบของคนพม่าในเมืองเชียงใหม่ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.02 วินาที กับ 19 คำสั่ง