ท่าเรือของเจ้านายฝ่ายเหนือ @ วัดชัยมงคล

[Traveller Freedom]

ท่าเรือของเจ้านายฝ่ายเหนือ @ วัดชัยมงคล

สถานที่ตั้ง : ถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : 18.780733,99.004453
   
    วัดชัยมงคล ถือเป็นอีกหนึ่งในหลายวัดของประเทศไทย ที่มีการเปลี่ยนประตูทางเข้าด้านหน้า จากที่เคยเป็นด้านหลังของวัดมาก่อน หรือกล่าวก็คือ “จากด้านหน้าเป็นด้านหลัง จากด้านหลังเป็นด้านหน้า” เหตุเนื่องมากจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพการคมนาคม จากเรือมาเป็นรถ จากลำธารมาเป็นถนน ซึ่งวัดชัยมงคลแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง แม่น้ำสายหลักของเมืองเชียงใหม่ ท่าน้ำหน้าวัดแห่งนี้จึงถูกใช้เป็นท่าน้ำสำหรับเป็นท่าเรือของเจ้านายฝ่ายเหนือที่จะล่องลงไปเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร ก่อนกาลสมัยเปลี่ยนมาเป็นการใช้รถใช้ถนนในการสัญจร ด้านหลังวัดได้สร้างเป็นซุ้มประตูพร้อมป้ายชื่อวัด เปลี่ยนกลายเป็นด้านหน้าในทันที ส่วนท่าเรือที่ตั้งอยู่ทางด้านหลังวัด เป็นเขตอภัยทานสำหรับการให้อาหารนก-ปลาในแม่น้ำปิง เกิดเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำปิง หรือชมความงามของแม่ระมิงค์ในมุมมองที่สุขสงบได้จากท่าเรือวัดชัยมงคลแห่งนี้

    วัดชัยมงคล เป็นวัดเก่าแก่มากอีกแห่งหนึ่ง สร้างในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่ประมาณกันว่าน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปี คือน่าจะสร้างในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนาแห่งราชวงศ์มังราย ในยุคสมัยที่เมืองเชียงใหม่ถูกพม่าเข้ายึดครองในฐานะเมืองขึ้น วัดแห่งนี้ถูกเรียกออกมาหลากหลายชื่อตามแต่ผู้ตั้งและยุคสมัย เช่น วัดอุปาเม็ง หรือวัดอุปานอก เพราะถือว่าเป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดบุพพาราม หรือวัดอุปมาใน อีกชื่อที่เรียกกันคือ วัดมะเล่อ หรือวัดมะเลิ่ง อันมีความหมายใกล้เคียงกันหมายถึง รุ่งแจ้ง หรือ รุ่งอรุณ ซึ่งที่มาของการตั้งชื่อนี้คล้ายกับการตั้งชื่อวัดอรุณ หรือวัดแจ้ง ที่กรุงเทพมหานคร จนมาถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พระราชทานเปลี่ยนชื่อใหม่ให้มาเรียกชื่อวัดนี้ว่า “วัดชัยมงคล” และเป็นชื่อที่เรียกกันมาจนถึงสมัยปัจจุบัน

    เดิมเนื้อที่ของวัดเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยยาวไปทิศเหนือถึงทิศใต้ ด้านทิศตะวันตกตั้งแต่เจดีย์ออกไปถึงถนนใหญ่เป็นบ้านพักกงสุลฝรั่งเศส ครูบาดวงแก้ว คันธิยะ อดีตเจ้าอาวาสเห็นว่าต่อไปคนจะมาทำบุญจะหาทางเข้าวัดลำบาก เพราะสมัยนั้นถนนเลียบฝั่งแม่น้ำปิงถูกกัดเซาะพังเสียหาย ครูบาดวงแก้วจึงเจรจากับรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อขอแลกที่ดิน ด้านทิศเหนือแลกกับทิศตะวันตกเพื่อให้ที่ดินของวัดและกงสุลเป็นรูปสี่ เหลี่ยมด้านเท่ารัฐบาลฝรั่งเศสจึงได้ตกลงตามข้อเสนอ ครูบาดวงแก้วจึงได้ดำเนินการย้ายเจดีย์หลังเก่าซึ่งติดกับรั้วของกงสุลฝรั่งเศส มาสร้างใหม่เป็นทรงมอญดังที่เห็นในปัจจุบัน

by Traveller Freedom