ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤษภาคม 19, 2024, 03:07:19 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ประกาศ  โพสหัวข้อเดียวซ้ำๆ กัน รับสิทธิ์ โดนลบกระทู้ และโชคดีได้รับสิทธิ์แบนฟรี 90 วันครับ


  แสดงกระทู้
หน้า: 1 2 3 4 »
1  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / “ดินดี คาเฟ่” เชียงใหม่ จิบกาแฟเรียบง่ายในบรรยากาศบ้านดิน เมื่อ: ธันวาคม 25, 2014, 09:31:52 PM
“ดินดี คาเฟ่” เชียงใหม่ จิบกาแฟเรียบง่ายในบรรยากาศบ้านดิน


ในบริเวณรั้วรอบของหอศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บนถนนนิมมานเหมินทร์ด้านที่ตัดกับถนนสุเทพ มีบ้านหลังเล็กๆ สร้างด้วยดินตั้งอยู่ หากไม่สังเกตก็คงไม่เห็น หากใครไม่รู้มาก่อนว่าบ้านดินหลังนี้เป็นร้านอาหารออร์แกนิค และร้านกาแฟ ก็คงผ่านเลยไป แต่เมื่อรู้แล้ว หรือเพิ่งได้รู้จากบทความนี้ แล้วอยากลองเข้าไปทำความรู้จักคุ้นเคยให้มากขึ้น ก็ขอเชิญได้เลยค่ะ “ร้านดินดี คาเฟ่” อบอุ่น และพร้อมต้อนรับทุกท่านอย่างเป็นกันเอง


ทำไมเลดี้ดาริกาจึงแนะนำร้านกาแฟแห่งนี้ให้เพื่อนๆ รู้จัก ร้านนี้มีดี หรือแตกต่างจากร้านอื่นๆ ตรงไหน ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า “ดินดี คาเฟ่” เป็นร้านอาหารและร้านกาแฟเล็กๆ ที่ใช้บ้านดินในหอศิลป์ของเชียงใหม่ ปรับปรุงให้กลายเป็นร้าอาหารออร์แกนิค ขึ้นชื่อว่าอาหารออร์แกนิค ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว เพราะอาหารที่เรารับประทานกันทุกวันนี้ล้วนมีความเสี่ยงและอันตรายอันเกิดจากการผลิตแทบทั้งสิ้น อาหารออร์แกนิคเป็นทางเลือกของคนรักสุขภาพค่ะ


ประการที่สองคือบรรยากาศ เนื่องจากเป็นบ้านดิน ที่ตกแต่งเรียบง่าย อบอุ่น ทำให้น่านั่ง เมื่อมีโอกาสได้ไปนั่งแล้วก็อยากอยู่นานๆ เพราะบรรยากาศดี ชวนสบาย หลบหลีกความวุ่นวายจากท้องถนนที่รถราก็เยอะ คนก็เยอะ ใช้เวลาว่างๆ ผ่อนคลาย จิบกาแฟหรือชาร้อนๆ เย็นๆ สักแก้วตามแต่ชอบ


ประการที่สามคือเจ้าของร้านเป็นชาวญี่ปุ่นค่ะ คุณอายูมิ เป็นชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งรกรากในเมืองเชียงใหม่ เพราะหลงใหลบรรยากาศเนิบช้าของเมืองเชียงใหม่ ไม่ต้องแข่งขัน ไม่ต้องซีเรียสจริงจังกับการงานจนชีวิตขาดสมดุลความสุข เชียงใหม่จึงเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเธอ และมีร้านดินดีที่ทำให้ทุกๆ วันของเธอมีความหมาย หากสนใจอ่านเรื่องราวและความคิดของคุณอายูมิแล้วล่ะก็ นิตยสาร a day ฉบับที่ 171 “Japanese in Chiang Mai” (คนญี่ปุ่นในเชียงใหม่) มีบทสัมภาษณ์ของเธอที่กล่าวไว้ได้น่าสนใจมากๆ ลองหาอ่านดูนะคะ



ลองมาดูเมนูเด่นๆ ของร้านกันบ้าง อย่างที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น ร้านดินดีเป็นร้านอาหาร ที่คัดสรรวัตถุดิบประกอบอาหารอย่างพิถีพิถัน มีทั้งอาหารตะวันตก อาหารญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเมนูค่อนข้างหลากหลาย รวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มกาแฟร้อน – เย็น ชาแบบต่างๆ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอื่นๆ มีของทานเล่นพวกขนมเค้ก คุ้กกี้ พุดดิ้ง สำหรับรับประทานกับกาแฟหรือชา หรือรับเป็นของว่างเบาๆ หากยังไม่อยากรับประทานมื้อหนัก



“ดินดี คาเฟ่” ร้านกาแฟสัญญาไทย-ญี่ปุ่นแห่งนี้มีลูกค้าเข้าร้านคึกคัก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นในเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่บางครั้งก็จับจองมุมสบายนั่งอ่านหนังสือเพลินๆ ร้านหยุดทุกวันจันทร์ค่ะ เปิดตั้งแต่เวลา 11:00 – 21:00 น

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  913
2  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / “ทับทิมกรอบเจ๊อ้วน” น้ำแข็งใสเจ้าดัง อร่อยต้องลอง เมื่อ: ธันวาคม 25, 2014, 09:26:34 PM
“ทับทิมกรอบเจ๊อ้วน” น้ำแข็งใสเจ้าดัง อร่อยต้องลอง


เมื่อสมัยเป็นเด็กเลดี้ดาริกาคุ้นเคยกับขนมหวานน้ำกะทิหรือน้ำเชื่อมแบบไทยๆ กินกับน้ำแข็งดับร้อน เพราะที่บ้านมักจะทำรับประทานกันเสมอๆ ทั้งบัวลอย ซาหริ่ม กะทิแตงไทย ลอดช่อง เป็นต้น นอกจากนี้ขนมพวกนี้ก็ยังหากินได้ง่ายมากๆ มีขายทั่วไปในตลาด แต่ทุกวันนี้ร้านขนมหวานจำพวกนี้น้อยลงไปมาก ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร แต่สาเหตุหนึ่งที่พอจะเดาได้ คือคนรุ่นใหม่มีของกินทางเลือกมากขึ้นนั่นเอง


แม้ว่าเวลาจะผ่านไปขนาดไหน เราคนรุ่นใหม่มีทางเลือกในการรับประทานมากเท่าใด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าของหวานในน้ำเชื่อมหรือน้ำกะทิแบบไทยๆ นั้นยังคงอร่อย และเหมาะกับอากาศร้อนๆ ของบ้านเรา ถ้าได้มาตบท้ายอาหารคาวสักถ้วยสองถ้วยก็คงจะฟินไม่น้อยทีเดียว


“ทับทิมกรอบเจ๊อ้วน” เป็นร้านน้ำแข็งใสชื่อดังของเชียงใหม่ คนเชียงใหม่คนรู้จักกันดี ส่วนเพื่อนๆ คนใดที่เดินทางมาท่องเที่ยวเลดี้ดาริกาก็ขอโอกาสนี้แนะนำเพื่อนๆ ไปด้วย เพราะร้านนี้ได้รับการันตีจากเชลส์ชวนชิมเลยทีเดียวนะคะ อร่อยระกับนี้ไม่ลองไม่ได้แล้ว


ที่ร้านมีเมนูน้ำแข็งใสให้เลือกมากมายค่ะ ที่โดดเด่นและเป็นเมนูแนะนำของทางร้านคือ “ทับทิมกรอบ” ตามชื่อร้านเลยค่ะ เนื้อแป้งที่หุ้มอยู่ด้านนอกเหนียวนุ่ม ด้านในก็กรอบอร่อย ยิ่งรับประทานกับน้ำเชื่อมหวานแหลม หรือน้ำกะทิมันเข้มข้น ใส่น้ำแข็งเย็นๆ ตามด้วยแห้วเชื่อม และมะพร้าวอ่อนเพิ่มความมันกรุบกรอบ อร่อย คลายร้อนได้ดีมากๆ


นอกจากทับทิมกรอบแล้วยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่างค่ะ เช่น ซาหริ่ม พุทราเชื่อม ขนุน ข้าวเหนียวแดง บัวลอย แตงไทย เป็นต้น ลูกค้าสามารถเลือกผสมได้ตามใจชอบค่ะ และเลือกได้ว่าจะราดน้ำเชื่อม หรือน้ำกะทิ ในบางโอกาสก็จะมีขนมหวานตามฤดูกาลมานำเสนอลูกค้าด้วย เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงราดน้ำกะทิเข้มข้น อร่อยมากๆ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25 - 30 บาท ก็อิ่มอร่อยดับร้อนได้แล้วค่ะ


การเดินทางมาร้าน “ทับทิมกรอบเจ๊อ้วน” ไม่ยากเลย ร้านตั้งอยู่บนถนนศรีดอนไชย หากขับรถมาจากไนท์บาร์ซ่า พอถึงสี่แยกพันทิพย์พลาซ่าให้เลี้ยวซ้ายค่ะ ตรงไปสักพัก ร้านจะอยู่ด้านขวามือ เยื้องๆ กับโรงแรมเชียงใหม่พลาซ่าค่ะ เอาเป็นว่าถ้าไม่อยากขับรถเลย พอเลี้ยวมาจากแยกพันทิพย์แล้วให้ชะลอรถชิดซ้าย แล้วลองสังเกตมาตามทางเรื่อยๆ นะคะ ได้รับประทานชัวร์ค่ะ


เลดี้ดาริกาเองก็ไม่ใช่คนเชียงใหม่แท้ๆ รู้จักร้านนี้ได้เพราะว่าวันหนึ่งรู้สึกอยากกินน้ำแข็งใสมากๆ เลยลองค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดูว่ามีร้านน่าสนใจๆ ไหม พอเจอและได้ลองไปกินดู อร่อย จึงอยากบอกต่อ เพื่อนๆ คนไหนอยากลองชิมก็ไปลองดูนะคะ มีประสบการณ์อย่างไรอย่าลืมเอามาแชร์กัน

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  909
3  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / “Into the Woods” ร้านกาแฟเล่านิทานกลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อ: ธันวาคม 25, 2014, 09:21:27 PM
“Into the Woods” ร้านกาแฟเล่านิทานกลางเมืองเชียงใหม่


อ่านแค่ชื่อหัวข้อ เพื่อนๆ บางคนอาจคิดว่าดิฉันกำลังจะทำรีวิวหนังแทนรีวิวการท่องเที่ยวเสียแล้ว ก็แหมชื่อร้านนั่งเล่นเก๋ๆ ในเมืองเชียงใหม่อย่าง “Into the Woods” นี่ช่างไปพ้องเสียงกับชื่อภาพยนตร์ Hollywood ที่กำลังจะเข้าโรงอีกไม่นาน และดิฉันก็อยากดูเสียด้วยสิ แต่ “Into the Woods” ที่เลดี้ดาริกากำลังพาเพื่อนๆ ไปรู้จักนี้เป็นร้านกาแฟและร้านนั่งเล่นน่ารัก มีเอกลักษณ์ บนถนนพระปกเกล้า ในเขตคูเมืองเชียงใหม่ ด้านหลังประตูช้างเผือก


ทำไมต้อง Into the Woods เลดี้ดาริกาเองก็ไม่มั่นใจ จึงไม่ขอตอบแทนความรู้สึกของผู้ตั้งชื่อ เพราะเขาอาจจะมีเหตุผลที่ลึกซึ้งอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ก็ได้ แต่หากพิจารณาดูจากการตกแต่งร้านที่มีเอกลักษณ์ เก๋ไก๋ด้วยบรรยากาศแบบเทพนิยาย และนิทานตะวันตกที่เราๆ คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็ทำให้เข้าใจไปได้ว่าร้านกาแฟน่ารักๆ ถูกรังสรรค์ขึ้นตามบรรยากาศในนิทานเหล่านั้นไม่มีผิด


ภายในร้านถูกออกแบบให้เป็นป่าในจินตนาการ เก๋ไก๋ด้วยงานออกแบบภายในที่ไม่เก่าจนน่ากลัว แต่ก็ไม่สมัยใหม่เกินไปจนเข้าใจยาก ฝาผนังด้านหนึ่งวาดเป็นภาพนิทานสีสันฉูดฉาดตา แสดงให้เห็นฉากหนึ่งจากเรื่องหนูน้อยหมวกแดง หากจะให้พูดถึงกันแค่บรรยากาศว่าน่านั่งหรือไม่ เลดี้ดาริกาขอให้คะแนนร้านนี้ 8 / 10 ไปเลย เป็นรางวัลของการดีไซน์ และแนวความคิดของร้าน ที่ทำให้ร้านแห่งนี้มีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร



ลองมาดูบริการต่างๆ ที่ Into the Woods มอบให้ลูกค้า แม้ว่าร้านนี้จะเน้นหนักไปที่เมนูเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ กาแฟ ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะร้านนั่งเล่นแห่งนี้เปิดเป็นร้านขายกาแฟ มีกาแฟทุกแบบที่ทุกคนคาดหวัง ชอบดื่มร้อนๆ หรือเย็นๆ ก็เลือกได้ตามสบายกันไปตามรสนิยม



นอกจากเมนูเครื่องดื่มหลากหลายชนิดแล้ว ทางร้านยังมีของว่างแสนอร่อยหลากหลายชนิด พวกเค้กหรือขนมหวานไว้ทานกับกาแฟ อาหารเรียกน้ำย่อยอื่นๆ ประเภทของคาวรับประทานง่าย เช่น ปอเปี๊ยะทอด เฟรนช์ฟรายส์ เกี๊ยวทอดห่อชีส หรือหากใครหิวมากๆ ท้องร้องหาอาหารทานเป็นมื้อๆ ที่นี่เขาก็มีให้บริการเหมือนกันค่ะ เป็นอาหารจานเดียวทานง่ายๆ อาทิ ข้าวไข่ข้นเบค่อน ทอดไขสุกสีเหลืองสวยเป็นแผ่นบางๆ ตกแต่งสวยๆ ด้วยเบค่อนทอดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โปะมาบนข้าวสวย หรือจะอิ่มอร่อยไปกับข้าวหมู Into the Woods เมนูแนะนำของร้านที่ตั้งชื่อได้อย่างเก๋ไก๋ เป็นหมูหั่นชิ้นพอดีคำ ทอดสมุนไพรถึงเครื่อง เสิร์ฟมาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และผักลวก รับประทานกับน้ำจิ้มรสเด็ดอร่อยมากๆ ค่ะ



เนื่องจากทำเลที่ตั้งในคูเมือง ประกอบกับความเก๋มีสไตล์ของร้าน ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่จากที่สังเกตดูเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ลองแวะมาเยี่ยมชมร้านกาแฟและร้านนั่งเล่นแห่งนี้กันได้นะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  916
4  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ร้านข้าวต้ม เชียงใหม่ / ครัวมะยม ร้านอาหารตามสั่งที่ไม่ธรรมดา เมื่อ: ธันวาคม 25, 2014, 09:15:36 PM
ครัวมะยม ร้านอาหารตามสั่งที่ไม่ธรรมดา


ร้านอาหารตามสั่งน่ะที่ไหนๆ ก็มี ไม่รู้จะเอามารีวิวทำไม ไม่เห็นจะมีไรเก๋ เลดี้ดาริกาเคยคิดแบบนี้ค่ะ จนกระทั่งได้รู้จักร้านนี้ “ครัวมะยม” ซอยนิมมานเหมินทร์ 13 เลยเปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่ เพราะร้านอาหารตามสั่งที่อร่อยมากๆ จนติดลมบนยังมีอยู่จริงๆ แบบนี้ไม่รีวิวคงไม่ได้แล้ว


ร้านครัวมะยมเป็นร้านอาหารตามสั่งที่มีลูกค้าแน่นมากๆ ค่ะ ทุกครั้งที่เลดี้ดาริกามากิน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะช่วงเวลามันเหมาะเจาะหรืออย่างไรแน่ แต่คนแน่น คิวนานตลอดค่ะ แต่ก็รอได้ เพราะของเขาดีและอร่อยจริง การันตีด้วยบทความตามนิตยสารและหนังสือพิมพ์ต่างๆ ที่แปะไว้ในร้านเป็นเกียรติประวัติรับรองความอร่อย ร้านอาหารตามสั่งมีเยอะ แต่ทำอย่างไรให้พิเศษ ถูกปากลูกค้า นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องท้าทาย


“ครัวมะยม” เป็นร้านอาหารตามสั่งที่มีเมนูพื้นฐานเหมือนร้านทั่วไปค่ะ ข้าวผัดกระเพราไก่ หมู หมูกรอบ กุ้ง ปลาหมึก ข้าวผัด ผัดพริกแกง ต้มยำ แกงจืด ต่างๆ นานาสารพัดที่จะคิดได้ แต่นอกเหนือจากนั้นที่นี่ยังขายเมนูพิเศษจำพวกอาหารป่า นก กบ หมูป่า เป็นต้น ใครนิยมชมชอบอาหารป่ารสชาติแสบร้อนถึงเครื่องถึงใจ แนะนำว่าต้องมาที่นี่ค่ะ มาลองรับประทานกันดูแล้วจะติดใจ


ตอนเลดี้ดาริกามาครั้งแรก ก็สั่งเมนูพื้นๆ อย่างพวกข้าวผัดกะเพรา หรือพริกแกงหมูกรอบ แต่เนื่องจากเป็นคนที่ชอบรสจัด รับประทานเผ็ดมากเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว จึงระบุไปตอนสั่งว่าขอเผ็ดๆ นะคะ และก็ได้อาหารที่รสชาติเผ็ดจัดจ้านสมใจมาตามคำเรียกร้อง รับประทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากๆ รสชาติเผ็นที่เล่ามานี้ไม่ใช่เผ็ดธรรมดาค่ะ แต่เป็นเผ็ดร้อนถึงเครื่องแกง ได้กลิ่นเครื่องสมุนไพรชัดเจน ถูกใจเรามากๆ


ราคาอาหารก็ไม่แพงมากค่ะ แต่ปริมาณอาจจะน้อยไปนิดหนึ่งสำหรับคนรับประทานเยอะ แต่สำหรับสาวๆ แล้วน่าจะกำลังพอดี วิธีเดินทางมาก็ง่ายมากๆ จะเข้าจากปากซอยทางด้านถนนนิมมานเหมินทร์ หรือถนนศิริมังคลาจารย์ก็ได้ ร้านตั้งอยู่ช่วงกลางๆ ซอย อยู่ตรงสามแยกพอดี เอารถมาจอดในซอยพอได้ค่ะ เห็นมีที่อยู่เหมือนกัน เป็นร้านแบบเปิดโล่ง มุงกระเบื้อง มีต้นไม้อยู่บ้าง ไม่ร้อนค่ะ ร้านเปิดทุกวันค่ะตั้งแต่ 11:00 น. ถึง 19:00 น. (บางวันก็ปิดต้องเช็คดูดีๆ ค่ะ)



เพื่อนๆ ที่มองว่าร้านอาหารตามสั่งดูธรรมดา ไม่น่าสนใจ เหมือนที่เลดี้ดาริกาเคยคิด อาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เมื่อมีโอกาสมารับประทานที่นี้ อาหารกลางวันจะทานอะไรกันดี ถ้ายังคิดไม่ออก ก็ให้ “ร้านครัวมะยม” เป็นตัวเลือกสำหรับมื้อกลางวันของเพื่อนๆ ดูนะคะ ติดใจไม่ติดใจอย่างไร อย่าลืมเอามาแชร์ มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  912
5  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / “ผัดหมี่โคราชอาจารย์กานต์” ของอร่อยแท้ๆ ต้องแถวเจ็ดยอด เมื่อ: ธันวาคม 19, 2014, 01:12:27 AM
“ผัดหมี่โคราชอาจารย์กานต์” ของอร่อยแท้ๆ ต้องแถวเจ็ดยอด


เพื่อนๆ เคยขับรถผ่านไปทางซอยวัดเจ็ดยอดกันบ้างไหมคะ แถวนั้นนอกจากจะมีหอพักเยอะแล้ว ยังมีร้านขายอาหารมากมายเรียงรายให้เราเลือกซื้อหาของถูกปากไปได้ตลอดทาง เรียกได้ว่ามีเกือบทุกอย่างที่เราคิดได้ และจะได้กินเกือบทุกอย่างทีเราอยากกินเลยทีเดียวค่ะ เลดี้ดาริกาเองก็ฝากท้องไว้แถวนั้นบ่อยๆ เวลาหิว อยากกินอะไรแล้วนึกไม่ออก ไปแถวนั้นไม่ผิดหวังเลย


ร้านอร่อยร้านหนึ่ง จะเรียกว่าร้านโปรดก็คงไม่ผิดนัก คือร้านผัดหมี่โคราชอาจารย์กานต์ค่ะ เป็นร้านเล็กๆ เล็กมากๆ ที่อาศัยเพิงล็อกเดียวเพื่อขายผัดหมี่โคราชแค่เมนูเดียว ไม่มีเมนูอื่น เรียกได้ว่าใครมาร้านนี้เป็นไม่ต้องถามว่าจะสั่งอะไร เพราะทุกคนต้องซื้อผัดหมี่โคราชเป็นเมนูบังคับ จะสั่งได้ก็แค่พิเศษหรือธรรมดา


ผัดหมี่โคราชของอาจารย์กานต์นั้นค่อนข้างอินดี้ค่ะ ถ้าโชคดีร้านเปิดก็ได้กิน แต่ถ้าวันไหนอยากกิน แต่ดวงไม่ดีร้านปิด ก็ต้องแบกท้องไปหาอย่างอื่นกินแทนแบบจ๋อยๆ ก็มีหลายครั้งเหมือนกันที่ฉันอยากจะกินมากๆ มาเจ็ดยอดเพื่อผัดหมี่โคราชสูตรอาจารย์กานต์โดยเฉพาะ แต่กลับต้องผิดหวังคอตกกลับบ้านไป


ร้านผัดหมี่ฯ อาจารย์กานต์มีสโลแกนโดนใจด้วยสำเนียงโคราชว่า “ผัดหมี่โคราชแท่ แท่...อร่อย แท่ะ แท่ะ” ไม่ได้พิมพ์ผิดหรอกนะคะ นี่มันสำเนียงคนโคราชเขา รับประกันว่าของแท้ทีเดียวนะคะ พูดถึงผัดหมี่โคราช เพื่อนๆ บางคนอาจนึกสงสัยว่ามันไม่เหมือนผัดไทยยังไง ดูยังไงก็เหมือนผัดไทยมากๆ แต่ถ้าไปเรียกผัดหมี่โคราชว่าผัดไทยนี่ คนโคราชมีเคืองนะคะ



“ผัดหมี่โคราช” เป็นอาหารท้องถิ่นที่มีต้นกำเนิดจากเมืองโคราช หรือจังหวัดนครราชสีมาค่ะ คนโคราชเรียกเส้นเล็กแบบที่เรากินกันทั่วไปว่า “หมี่” อย่าสับสนกับเส้นหมี่แบบที่คนภาคกลางเรียกนะคะ คนโคราชเขาทำหมี่ของเขาเป็นพิเศษ เรียกว่า “หมี่โคราช” (จริงๆ มันก็คือเส้นเล็กของคนโคราชนั่นแหละค่ะ” ความต่างของผัดหมี่โคราชกับผัดไทยคือ “ผัดหมี่โคราช” จะนำมาผัดกับน้ำปรุงสูตรพิเศษ ที่ปรุงเคี่ยวมาแล้ว มีรสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ แต่ผัดไทยไม่มีน้ำปรุงอะไรเป็นพิเศษแค่ผัดไปปรุงเครื่องไปตามธรรมดา นี่เป็นหลักใหญ่ใจความของความต่างระหว่างผัดไทยกับผัดหมี่โคราชเท่านั้นนะคะ จริงๆ แล้วยังต่างในรายละเอียดอีกพอสมควร เลดี้ดาริกาถนัดกินมากกว่าค่ะ


ผัดหมี่โคราชอาจารย์กานต์ย่านเจ็ดยอด เสิร์ฟมาพร้อมไข่ห่อไว้สวยๆ กินกับกากหมูเจี
ยวกรอบอร่อย รสชาติของผัดหมี่ฯ ก็กลมกล่อม ไม่ต้องปรุงเพิ่ม เปรี้ยวๆ ด้วยมะขามเปียก และหวานด้วยน้ำตาลปีบเคี่ยวไฟ ใครชอบเผ็ดก็เติมแค่พริกป่น อร่อยมากๆ ราคาเป็นมิตร ไปลองทานดูนะคะ


เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  913
6  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ร้านข้าวต้ม เชียงใหม่ / ย้อนวัยอดีตที่ร้านอาหารตามสั่ง “ปายฟ้า” เมื่อ: ตุลาคม 24, 2014, 07:03:24 AM
ย้อนวัยอดีตที่ร้านอาหารตามสั่ง “ปายฟ้า”

ในปัจจุบันเรามักจะเห็นการสร้างจุดขายให้กับร้านของตัวเองโดยการชูเอาเรื่องความเก่า ความคลาสสิก หรือที่ชอบเรียกกันว่า Retro บางร้านก็เก่าจริง ต่างบางร้านก็ถูกสร้างให้เก่า แต่จะมีสักกี่ร้านเชียวที่สามารถคงรักษาความเก่าแก่มาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ วันนี้เลดี้ดาริกาขอพาเพื่อนๆ ไปสัมผัสกับร้านอาหารที่ตกแต่งสไตล์ย้อนยุคที่น่าสนใจร้านหนึ่งค่ะ เก่าแบบเก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อ อิอิ


   “ร้านปายฟ้า” ตั้งอยู่ในซอยวัดอุโมงค์ อยู่เลยวัดร่ำเปิงมาประมาณ 100 เมตร เป็นร้านสไตล์บ้านๆ ที่ดัดแปลงบริเวณหน้าบ้านให้เป็นร้านอาหาร จุดเด่นมากๆ ของร้านนี้คือความโบร่ำโบราณของสิ่งของต่างๆ ภายในร้าน เริ่มตั้งแต่โต๊ะและเก้าอี้ มีทั้งเป็นโต๊ะกลมแบบร้านกาแฟสมัยก่อน และเป็นเก้าอี้ที่มีลูกกรงแบบภาคกลาง สามารถไกวไปมาได้ บอกได้เลยว่าเราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนในภาคเหนือเลยค่ะ ลูกกรงลักษณะนี้เป็นของบ้านทรงไทยภาคกลาง


และที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือสิ่งของที่ประดับอยู่บนผนังบ้านด้านบนสุดเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ เก่าแก่พอสมควร ด้านล่างเป็นตู้กระจกที่เหมือนกับตู้ยาเก่าเรียงรายมากกว่า 10 ตู้ ภายในเป็นการ์ดเก่าหลากหลายแบบ มีทั้งบัตรโทรศัพท์ ปฏิทิน ฯลฯ ซึ่งหาดูไม่ได้แล้วในสมัยนี้ นอกจากตู้เหล่านี้แล้วที่ผนังยังมีรูปขาวดำเก่าๆ ดูแล้วน่าจะเป็นคนในครอบครัว เห็นแล้วก็อดถึงที่บ้านไม่ได้ค่ะ แนวๆ นี้เลย



เมนูที่นี้แปลกไม่เหมือนที่อื่นคือจะล็อคเอาไว้เลยว่าแต่ละวันจะมีเมนูอะไรบ้าง วันจันทร์ อังคาร ข้าวคลุกเคย (เคยมีลักษณะคล้ายกุ้ง เอามาทำกะปิค่ะ) วันพุธ ข้าวคนตอน วันพฤหัส ศุกร์ ข้าวหมูอบ วันเสาร์ อาทิตย์ ข้าวหมูแดง เมนูแปลกๆ ก็สองเมนูแรก ใครอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไรก็ต้องลองมาชิมวันจันทร์กับอังคารดูค่ะ นอกจากข้าวแล้วก็ยังมีก๋วยเตี๋ยวด้วย สั่งได้ทุกวันค่ะ เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ลูกชิ้นปลา หมูหมัก หมูแดง ปลาแผ่น  เกาเหลาก็มีด้วย ราคา 35-40 บาท


เราสั่งหมี่ขาวต้มยำลูกชิ้นปลา รอนานมากเลยค่ะ เพราะว่าลูกค้าเต็มร้านเลย ก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไปพลาง ผ่านไปประมาณ 30 นาทีจึงจะได้ นอกจากการตกแต่งร้านที่คลาสสิกแล้ว ชามก๋วยเตี๋ยว ช้อนก็คลาสสิกเช่นกัน เป็นชามกระเบื้องเก่าๆ ช้อนสังกะสี!! โอ้วไม่เห็นมานานมากแล้ว ที่บ้านก็เคยใช้อยู่ แต่ทุกวันนี้ใช้ช้อนแสตนเลสหมดแล้ว รำลึกอดีตขึ้นมาทีเดียวเชียว รสชาติของก๋วยเตี๋ยวต้มยำจะออกหวานนิดนึงนะคะ ใครที่ไม่ชอบหวานก็เติมพริกเพิ่มเข้าไป โดยรวมอร่อยดีค่ะ ลูกชิ้นปลาก็ปลาจริงๆ ไม่ใช่แป้งเยอะ เนื้อปลาน้อยๆ


ร้านปายฟ้านับว่าเป็นร้านอาหารตามสั่งที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากๆ ค่ะ ในเรื่องของอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ยังคงเป็นของเก่าอยู่ เรียกได้ว่าแทบทั้งร้านเลยก็ว่าได้ ใครที่ชอบของเก่า หรืออยากซึมซับบรรยากาศเก่าๆ สมัยเด็กๆ ลองแวะมาที่ร้านนี้ดูคะ จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :26:
7  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / สบายๆ ริมน้ำปิงที่ “เชียงใหม่กาแฟ” เมื่อ: ตุลาคม 24, 2014, 06:53:43 AM
สบายๆ ริมน้ำปิงที่ “เชียงใหม่กาแฟ”

ย่านวัดเกตเป็นย่านที่โปรดปรานอีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของวัดเกตการาม วัดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นที่ตั้งของพระธาตุประจำปีจอ รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ผับ บาร์ ที่มีชื่อเชียงก็อยู่ในย่านนี้ เรียกได้ว่ามีครบทุกรสชาติก็ว่าได้ คราวนี้เลดี้ดาริกาขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับร้านกาแฟที่คลาสสิกอีกร้านหนึ่งค่ะ


“เชียงใหม่กาแฟ” ร้านนี้ตั้งอยู่เยื้องๆ กับวัดเกตการาม อยู่ติดกับเวียงจูมออน เพื่อนๆ อาจจะขับรถเลยได้นะคะ เพราะว่าหน้าร้านไม่ค่อยโดดเด่นนัก เอาง่ายๆ เลยคือมองตึกสีชมพูฝั่งริมน้ำปิง ซึ่งเป็นร้านเวียงจูมออน ร้านชาชื่อดัง ตึกแถวไม้เก่าๆ ที่อยู่ติดกันคือร้านเชียงใหม่กาแฟ ส่วนที่จอดรถอาจจะหายากนิดนึงนะคะ รถมอเตอร์ไซด์พอจอดข้างทางได้ แต่ถ้าเป็นรถยนต์แนะนำให้เอาไปจอดที่ลานจอดรถที่อยู่ตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยค่ะ หรือจะไปจอดที่ลานจอดรถตรงปั๊ม ปตท.เก่าตรงข้ามกับริเวอไซด์ก็ได้ (น่าจะได้อยู่นะคะ แต่ไม่ชัว)


มองดูภายนอกอาจจะเป็นเพียงตึกไม้เก่าๆ ที่ดูไม่มีอะไร แต่พอเข้ามาในร้านแล้วอึ้งค่ะ บริเวณด้านหน้าก่อนถึงเคาเตอร์ เต็มไปด้วยของเก่าโบราณมากๆ เป็นของที่ทำจากไม้เสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ตู้ไม้ หีบ ตุ๊กตา ชั้นวางของ กระบอก และที่สะดุดตามากๆ คือแท่นหรือธรรมาสน์อะไรสักอย่างศิลปะพม่า เรามักเห็นแท่นทำนองนี้อยู่ในวัดพม่า แต่นี่อยู่ในร้านกาแฟ เก่ามากๆ เลยค่ะ



   พอเดินมาถึงเคาเตอร์ บริเวณนี้ก็เต็มไปด้วยของเก่าเช่นเดียวกัน ก็เป็นจำพวกข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รูปภาพขาวดำเก่าๆ วางเรียงรายเต็มไปหมด เดินทะลุมาด้านหลังร้านบอกเลยว่าคนละเรื่องกับในร้านเลยค่ะ เป็นที่นั่งทานอาหารที่ร่มรื่น อยู่ภายใต้เงาไม้ จะนั่งใต้ต้นไม้ นั่งในศาลา หรือนั่งริมน้ำก็ตามชอบเลย วิวฝั่งตรงข้ามเป็นกาดหลวง



เมนูเก๋ไก๋ ปกทำจากไม้ มีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกเยอะมาก ไม่ต่างจากร้านอาหารเลยค่ะ กาแฟก็มีครบตามมาตรฐาน มีทั้งร้อน เย็น ปั่น ชาก็มีให้เลือกกว่า 20 รสชาติ   นอกจากนั้นยังมีน้ำผลไม้อีกด้วย ราคาประมาณ 60- 80 บาท หรือถ้าใครรู้สึกหิวจะสั่งเป็นอาหารจานเดียว หรือจะสั่งเป็นกับข้าวก็ได้ ถ้าเป็นจานเดียวก็จะมีข้าวผัดสารพัดอย่าง ก๋วยเตี๋ยว สปาเกตตี้ ตกจานละ 80 บาท ส่วนกับข้าว ยกตัวอย่างเช่น ซี่โครงหมูตะไคร้ ทอดมัน หมูคำหวาน ต้มยำต่างๆ ก็เริ่มตั้งแต่ 70-260 บาท






   เรามาคนเดียวเลยสั่งแค่โกโก้ปั่นหนึ่งแก้ว รสชาติก็มาตรฐานทั่วไป แต่อาจจะแพงไปนิดนึง ไม่เป็นไร เพราะบรรยากาศที่นี่ดีมาก ร้านนี้นอกจากมานั่งดื่มกาแฟชิลๆ นั่งชมวิวน้ำปิงแล้ว จะชวนเพื่อนฝูงกันมาทานอาหาร ดื่มเบียร์ตอนเย็นๆ ก็น่าสนใจมากนะคะ หรือใครจะมาค้างคืนก็ได้ที่นี่มีห้องพักอยู่ 3 ห้งอค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :26:
8  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / ดื่มด่ำความสงบที่ “ร่ำเปิงกาแฟ” เมื่อ: ตุลาคม 24, 2014, 06:48:12 AM
ดื่มด่ำความสงบที่ “ร่ำเปิงกาแฟ”

   “เมื่อสี่ห้าปีก่อนนั้นซอยวัดอุโมงค์เป็นซอยที่ค่อนข้างน่ากลัว เปลี่ยว สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ ดงหญ้า ขนาดตอนกลางวันยังรู้สึกวังเวงที่ต้องสัญจรในเส้นทางนี้”  นี่คือคำบอกเล่าของสหายชาวเชียงใหม่ สำหรับเลดี้ดาริกาเองเพิ่งมาอิงอาศัยได้ไม่นานนัก ก็ได้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ จากเจ้าถิ่นนี่แหล่ะค่ะ จึงได้ทำรีวิวที่ต่างๆ ให้เพื่อนๆ ได้ทำความรู้จัก แต่ทว่าในทุกวันนี้ซอยวัดอุโมงค์ได้เปลี่ยนไปมาก มีคอนโด มีหอพัก อยู่เต็มไปหมด เรียกได้ว่าความน่ากลัวในอดีตแทบไม่เหลืออยู่เลย นับวันซอยนี้ยิ่งคึกคักขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าใครกำลังมองหาร้านเงียบๆ สักร้านหนึ่ง นั่งอ่านหนังสือสบายๆ มีร้านหนึ่งอยากจะแนะนำค่ะ


“ร่ำเปิงกาแฟ” ร้านกาแฟสไตล์บ้านๆ เรียบง่าย ตั้งอยู่ในซอยวัดอุโมงค์ อยู่เลยวัดร่ำเปิงมาประมาณ 300 เมตร  ตัวร้านเป็นบ้านไม้ธรรมดาที่ถูกดัดแปลงบริเวณด้านหน้าให้เป็นร้านกาแฟ จุดสังเกตคือป้ายกระดานดำตั้งอยู่หน้าร้านเขียนว่าร่ำเปิงกาแฟ บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างร่มรื่นมีต้นไม้ให้ร่มเงา ทำให้รู้สึกสบายๆ ชิลดีค่ะ มีมุมให้เลือกนั่งสองแสบ คือนั่งด้านบนกับด้านล่าง มีโต๊ะให้เลือกนั่งไม่มากนักประมาณ 6-7 โต๊ะ การตกแต่งก็ง่ายๆ ใช้ข้าวขอบเครื่องใช้ภายในบ้านมาตั้งโชว์ ให้แขกผู้มาเยือนรู้สึกว่าท่านกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในบ้านของท่านจริงๆ



จุดเด่นอีกจุดหนึ่งนอกจากความง่ายๆ สบายๆ นั่นคือความเป็นศิลปินของเจ้าของร้าน ทั้งการแต่งกายและบุคลิก รวมไปถึงหนังสือ พ็อคเก็ตบุ๊ค ซีดีที่อยู่ในตู้กระจก แล้วก็ด้านข้างร้านจะมีลวดขึงอยู่เส้นหนึ่งมีไม้หนีบที่หนีบใบประกาศต่างๆ เช่น โฆษณาหอพัก ประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ การสัมมนา ประมาณนี้ ก็ดีแปลกดี ไม่เคยเห็นที่ร้านไหนมาก่อน



มาดูที่เมนู หลายคงที่ไปอาจจะงงว่าเมนูอยู่ไหน? หรือทำไมมีน้อยจัง เพราะที่เห็นชัดๆ จะเขียนอยู่บนกระดานดำเล็กๆ มีเพียงไม่กี่อย่าง จริงๆ แล้วเมนูเป็นกระดาษสีน้ำตาล เขียนด้วยลายมือ ง่ายดีจังเนอะ มีทั้ง ชา ชาสมุนไพร นม กาแฟ ราคาไม่แพงเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ 25-45 บาท นอกจากนั้นก็ยังมีเค้กให้เลือกสามสี่แบบ ราคาประมาณ 50-60 บาท



   เมนูที่สั่งมาลองเป็นลาเต้ค่ะ ตอนที่ไปไม่มีใครเลย จึงไม่ต้องรอนาน สั่งปุ๊บนั่งรอแป๊บเดียวได้เลย รสชาติก็ตามมาตรฐาน ถือว่าผ่านค่ะ สรุปก็คือใครที่อยากจะหามุมสงบๆ นั่งจิบชา ดื่มกาแฟ นั่งอ่านหนังสือสบายๆ ในซอยวัดอุโมงค์แนะนำให้มาร้านนี้ได้เลยค่ะ ร้านค่อนข้างอยู่ลึกพอสมควรจากปากซอยที่อยู่หลัง มช. จึงทำให้ไม่ค่อยพลุกพล่านมากนัก เป็นร้านที่นิยมของนักศึกษาอีกร้านหนึ่งค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :26:
9  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / ลองลิ้มชิมรสบะหมี่ทำเอง “ส.บะหมี่กวางตุ้ง” เมื่อ: กันยายน 26, 2014, 07:42:26 AM
ลองลิ้มชิมรสบะหมี่ทำเอง “ส.บะหมี่กวางตุ้ง”

บะหมี่ชื่อนี้คุ้นหูคนไทยมาตั้งแต่เกิด เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ทานบะหมี่กัน แต่ส่วนใหญ่มันก็จะเป็นบะหมี่สำเร็จรูป เพียงซื้อมาลวกใส่ชามก๋วยเตี๋ยวก็เรียบร้อยละ แต่เลดี้ดาริกาจะพาไปชิมบะหมี่ทำเอง ซึ่งคงมีไม่กี่ร้านหรอกที่จะมานั่งทำบะหมี่ด้วยตัวเอง เพราะคิดว่ามันยุ่งยาก และเสียเวลา โดยส่วนตัวนะคะบะหมี่ทำเองเนี่ยแหล่ะมันดูมีเอกลักษณ์ดี รสชาติก็ไม่เหมือนใคร


“ส.บะหมี่กวางตุ้ง” ตั้งอยู่บริเวณริมฟุตบาทหน้าตลาดต้นพะยอม หาไม่ยากค่ะเป็นร้านรถเขาป้ายสีเหลืองตัวหนังสือสีแดง จะตั้งคู่กับรถเข็นร้านข้าวมันไก่ มีโต๊ะให้นั่งสามสี่โต๊ะค่ะ แต่ถ้ามากันหลายคนอยากกินทั้งสองอย่างก็นั่งตรงไหนก็ได้ สั่งข้ามร้านได้ค่ะ


ร้านนี้มีเมนูให้เลือกหลากหลายแบบค่ะ ทีเด็ดคือก๋วยเตี๋ยวต้มยำสาหร่าย เรื่องของเรื่องคือตอนที่เพิ่งมาอยู่เชียงใหม่มีเพื่อนเจ้าถิ่นแนะนำให้ลองมาทานร้านนี้ให้สั่งเมนูนี้ บอกว่าอร่อยเด็ดมากๆ เพื่อนในแก๊งมาทีไรก็ต้องสั่งต้มยำสาหร่ายกันแทบทุกคน จึงขอยกให้เมนูนี้เป็น signature ของร้านนี้ก็แล้วกันนะคะ ส่วนเมนูอื่นๆ ก็จะมีบะหมี่เกี๊ยวปู หมู ปลา หมูแดง ทะเล กระดูกอ่อน เครื่องใจ ลูกชิ้นหมู-ปลา เกาเหลาทะเล-กระดูกอ่อน เย็นตาโฟ เรียกได้ว่ามีสารพัดเลยค่ะเลือกได้เลยว่าจะเอาเนื้ออะไรมาใส่กับบะหมี่เกี๊ยว ที่สำคัญเส้นบะหมี่ทำเองค่ะ นี่แหล่ะสเน่ห์ของการทำอะไรด้วยตัวเอง มันก็เป็นสิ่งดึงดูดลุกค้าอย่างหนึ่งนะคะ ลูกค้าก็อยากลองอะไรที่มันไม่เหมือนใครบ้าง


เมนูที่สั่งไปเป็นบะหมี่ต้มยำกระดูกอ่อน กับบะหมี่ต้มยำกระดูกอ่อนสาหร่าย พอดีไปสองวันค่ะ กะลองตั้งแต่วันแรกแต่ไม่ไหว อิอิ มาดูที่ชามแรกบะหมี่ต้มยำกระดูกอ่อน ภาพแรกที่เห็นคือสีสันอันจัดจ้านของน้ำก๋วยเตี๊ยวดูแล้วมันต้องเผ็ดแน่ๆ เลย แต่พอได้ลองชิมแล้ว ไม่ค่อยเผ็ดมากนัก ออกหวานๆ ด้วยซ้ำไปก็แปลกดีคะ รสชาติโดยรวมโอเคนะ ไม่ต้องปรุงเพิ่ม เส้นบะหมี่ที่เขาว่าทำเองชิมแล้วรู้สึกถึงความแตกต่างได้เลยค่ะ ทานแล้วมันไม่เหมือนกับบะหมี่ร้านทั่วไป ของที่นี่จะนุ่มกว่า ลักษณะเส้นก็ไม่ได้สวยงามมากตามสไตล์โฮมเมด ส่วนกระดูกอ่อนก็อ่อนสมชื่อจริงๆ บ้างชิ้นเคี้ยวกรุบๆ จนแหลกเป็นเนื้อได้เลย อีกชามหนึ่งที่ใส่สาหร่ายด้วยรสชาติก็เหมือนกับชามแรกค่ะ เพียงแต่ใส่สาหร่ายเข้าไป ซึ่งตอนคีบสาหร่ายพร้อมกับเส้นบะหมี่หม่ำเข้าปากก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ



   ร้านนี้จึงเป็นร้านบะหมี่ทำเองที่น่าสนใจอีกร้านหนึ่งค่ะ เชื่อว่าในเมืองเชียงใหม่คงมีไม่กี่ร้าน จึงอยากชวนให้เพื่อนๆ มาลองชิมดูค่ะ รับรองติดใจ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :22:
10  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / “ดำเนินสะดวก” อีกหนึ่งร้านกาแฟสบายๆ หลัง มช. เมื่อ: กันยายน 26, 2014, 07:35:37 AM
“ดำเนินสะดวก” อีกหนึ่งร้านกาแฟสบายๆ หลัง มช.

ย่านหลัง มช. นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารยามเย็นแล้ว ก็ยังมีร้านอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วนให้เพื่อนๆ ลองลิ้มชิมรสกัน ครั้งนี้ขอเอาใจนักศึกษา มช. หน่อยนะคะ จะมาแนะนำร้านกาแฟนั่งสบายๆ ที่น่าสนใจอีกร้านหนึ่ง รับรองต้องชอบแน่นอน


“ดำเนินสะดวก” ชื่อนี้หลายคนคงคิดถึงตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่จังหวัดราชบุรี แต่ว่าชื่อนี้เป็นร้านอยู่ที่เชียงใหม่ เป็นร้านกาแฟนั่งสบาย สไตล์บ้านๆ อยู่หลัง มช. ซอยร้านลุ๊คเลยค่ะ น่าจะรู้จักกันใช่ไหม เข้ามาในซอยเพียง 50 เมตรก็จะพบกับร้านอยู่ทางขวามือ มีต้นมะขามใหญ่ๆ อยู่หน้าร้าน


บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างร่มรื่น มีต้นมะขามปกคลุมไปเกือบทั่วทั้งร้าน ตัวร้านน่าจะดัดแปลงมาจากบ้านไม้เก่าชั้นเดียว มีทั้งนั่งให้เลือกหลากหลายแบบมากค่ะ มากกว่า 15 โต๊ะ ใครอยากใกล้ชิดธรรมชาติหน่อยก็นั่งข้างนอกโล่ง อยากมีมุมส่วนตัวคุยกับเพื่อนฝูงหลายๆ คนก็นั่งในเพิงใต้ต้นมะขามหน้าร้าน ใครอยากนั่งซึมซับบรรยากาศบ้านเก่า ที่ตกแต่งด้วยภาพโปสเตอร์ หรือข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ ก็เชิญด้านในร้าน หรือใครอยากมีมุมสงบก็เชิญด้านข้างและด้านหลังร้าน เรียกได้ว่ารองรับทุกแนวเลยค่ะ ชอบๆ


เมนูก็มีให้เลือกมากมาย เครื่องดื่มมีกาแฟดำเนินสะดวกเป็น signature ของร้าน กาแฟอื่นๆ ก็จะเหมือนกับร้านทั่วไป นอกจากนั้นเป็นชาและนมต่างๆ ราคา 35-55 บาทค่ะ พวกเบเกอรี่ก็มีนะคะ เช่น พาย บราวนี่เค้กแบบต่างๆ ราคา 35-65 บาท ส่วนอาหารก็มีทั้งทานเล่น ทานจริง เช่น เฟร้นฟราย ปีกไก่ทอดน้ำปลา ปอเปี๊ยะทอด ข้าวผัด มาม่าต้มยำ สเต็ก ราคาตั้งแต่ 49-159 บาท ราคาโดยรวมถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับร้านอื่น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นร้านนี้คนเต็มตลอด




หลังจากนั่งเลือกอยู่สักพักจึงตัดสินใจสั่งลาเต้สุดโปรดกับ ข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง พอพนักงานเอามาเสริฟชวนให้นึกถึงวันวานจริงๆ ค่ะ ภาชนะที่ใส่กาแฟเป็นโหลค่ะ เหมือนที่ ม.ศิลปากร เลย รสชาติหอม หวาน มัน กำลังดี ส่วนข้าวติดเค็มไปนิดนึง แต่โดยรวมก็รสชาติใช้ได้ค่ะ เหยาะซอสพริกสักหน่อยก็ช่วยเพิ่มความอร่อยได้  ร้านนี้จะแบ่งการบริการออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจนค่ะ คือส่วนที่เป็นเครื่องดื่มและอาหาร จะมีการเก็บเงินแยกกัน สังเกตได้จากป้ายที่มากับเครื่องดื่มและอาหารที่เราสั่ง เครื่องดื่มจะเป็น coffee bar ส่วนอาหารจะเป็น kitchen



ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักศึกษา มช. หรือใครก็ตามที่ได้มีโอกาสมาอ่านรีวิวนี้ ไม่รู้ว่าจะไปนั่งที่ไหนในตอนว่างๆ เบื่อๆ ไม่รู้ว่าจะทานอะไรในตอนกลางวัน แนะนำให้มาที่ร้านนี้เลยค่ะ มีทั้งเมนูเครื่องดื่มและอาหารให้เลือกมากมาย หวังว่าเพื่อนๆ คงจะชอบกันนะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :22:
11  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / “วัดเมืองสาตรหลวง” ความบังเอิญที่สร้างความประทับใจ เมื่อ: กันยายน 26, 2014, 07:28:59 AM
“วัดเมืองสาตรหลวง” ความบังเอิญที่สร้างความประทับใจ

เคยไหมที่คิดจะเดินทางไปสักที่แต่มันมีเหตุบังเอิญให้เราต้องแวะระหว่างทาง จนทำให้เราได้พบอะไรที่แปลกตา ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ไปบังเอิญพบวัดนี้เข้า แม้ว่าจะไม่ได้ดูพิเศษอะไรมากนัก แต่ก็เป็นวัดที่สวยงามวัดหนึ่ง เลดี้ดาริกาจึงอยากมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันค่ะ


   “วัดเมืองสาตรหลวง” ตั้งอยู่ที่ถนนเมืองสาตร ซอยเชียงใหม่-ลำพูน 9 ตำหนองหอย อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ถ้ามาจากสี่แยกหนองหอย ให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 900 เมตร สังเกตด้านขวาจะมีซอยที่อยู่ติดกับสำนักงานขนส่ง ให้เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 600 เมตร ก็จะพบวัดอย่างทางซ้ายมือ


จากหลักฐานตำนานเชียงใหม่ปรากฏชื่อวัดเมืองสาตรหลวง  ได้เล่าตำนานเอาไว้ว่าสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2412 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ กษัตริย์แห่งราชวงศ์ทิพยจักร (พ.ศ. 2317 - พ.ศ. 2482) สร้างโดยพระอธิการเทพ  อินทปัญโญ ร่วมมือกับท้าวเขื่อน และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2518


บรรยากาศภายในวัดดูเงียบสงบ มีต้นไม้น้อยใหญ่อยู่รอบวัด เสนาสนะต่างๆ อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์และสวยงาม อาจเป็นเพราะเพิ่งได้รับการบูรณะเมื่อไม่นานมานี้ สิ่งที่น่าสนในมีอยู่หลายอย่าง เมื่อเราเข้าไปในวัดจะเห็นหอไตรตั้งโดดเด่นอยู่ทางด้านซ้ายมือ เป็นอาคารครึ่งปูน ครึ่งไม้ ตามแบบฉบับล้านนา ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน มีเทพพนมสองตนยืนอยู่ที่พนังด้านหน้า ที่หัวเสาและประตูของหอไตรจะประดับด้วยลายปูนปั้นพรรณพฤกษา ส่วนชั้นสองเป็นไม้ มีเทพพนมนั่งประจำอยู่ทุกหัวเสา ค้ำยันและที่ชายคามีการแกะสลักไม้ที่สวยงาม และที่โดดเด่นไม่เหมือนกับหอไตรที่อื่นคือบริเวณหน้าบันเป็นการดุ้นเงินหรือไม่ก็ดีบุกเป็นลวดลายพรรณพฤกษาที่สวยงาม



พระวิหารสร้างขึ้นพร้อมๆ กับการสร้างวัด เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสถาปัตกรรมล้านนา มีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 20 เมตร เมื่อเรายืนด้านหน้าจะเห็นว่าเป็นลวดลายสีทองตัดกับพื้นสีแดง อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากๆ ช่อฟ้าและใบระกาแกะด้วยไม้ จุดเด่นอยู่ที่หน้าบันที่เป็นช่องสี่เหลี่ยมตามโครงสร้างม้าต่างไหม แต่ละช่องก็จะประดับด้วยอัญมณีสีแดงและสีขาว บานประตูเป็นรูปเทพพนม ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปางมาวิชัยสีทองเป็นพระประธาน  เสาไม้สักเขียนเป็นลวดลายสีทอง มีจิตกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวพุทธประวัติและพระเวสสันดรชาดก



พระเจดีย์ สร้างขึ้นพร้อมกับพระวิหาร อยู่ด้านหลัง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมสามชั้น แต่ละมุมมีฉัตร ซึ่งเป็นอิทธิพลของพม่า เหนือขึ้นไปเป็นฐานย่อมุมยกสูงประมาณ 2.5 เมตร แต่ละด้านมีพระพุทธรูปปางยืนที่มีอิริยาบถแตกต่างกันออกไป ด้านบนเป็นองค์ระฆังสีทอง


วัดนี้อาจจะไม่ใช่วัดที่อยู่ในรายชื่อวัดที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยือน แต่ก็เป็นวัดที่มีสเน่ห์ที่น่าสนใจ  เพื่อนๆ ที่ผ่านไปมาแถวนี้ มีเวลาก็อย่าลืมแวะมาชมวัดนี้ด้วยนะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :22:
12  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / ลิ้มรสเป็ดเน้นๆ ที่ “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นนครปฐม” เมื่อ: กันยายน 19, 2014, 07:03:21 AM
ลิ้มรสเป็ดเน้นๆ ที่ “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นนครปฐม”

   สมัยเรียนปริญญาตรีเราเรียนที่ ม.ศิลปากร ทับแก้ว จ.นครปฐม หลังจากเรียนจบก็หางานทำไปหลายที่ จนกระทั่งได้อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยความที่อยู่นครปฐมหลายปี มีของกินมากมาย พอมาอยู่เหนือ ก็พอได้ลิ้มลองอาหารเหนือเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยถูกปากเสียเท่าไร ติดกับอาหารภาคกลางมากกว่า ก็เลยอดคิดถึงอาหารที่นครปฐมไม่ได้ และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เผอิญไปเจอร้านหนึ่งที่ทำให้หายคิดถึงอาหารที่นครปฐมเลยค่ะ เลดี้ดาริกาจึงอยากมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับร้านนี้


“ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นนครปฐม” ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ทางเข้าร้านอยู่ตรงถนนมณฑลทหารบกที่ 33 ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมกันระหว่างถนนคลองชลประทานกับถนนโชตนา หรือเป็นถนนที่ไปพิพิธภัณฑ์ชาวเขา และสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อธิบายขนาดนี้น่าจะนึกออกกันแล้วใช่ไหมคะว่าอยู่ตรงไหน บริเวณหน้าร้านสามารถจอดรถยนต์และรถมอเตอร์ไซด์ได้อย่างสบายๆ หรือใครที่ขับมาจากแม่ริมและเผลอเลยแยกนี้ไปก็แวะจอดริมฟุตบาทก็ได้ค่ะ


   ร้านนี้เป็นอาคารชั้นเดียว โดดเด่นด้วยอิฐสีส้ม จริงๆ ถ้ามาจากแม่ริมจะเห็นชัดมากกว่านะคะ หน้าร้านเราว่ามันไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร คนผ่านไปผ่านมาอาจจะไม่รู้ว่าตรงนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างโล่ง แต่อาจจะร้อนไปสักนิดในช่วงเวลา 11 โมง ไปจนถึงบ่ายสอง มีโต๊ะให้เลือกนั่งประมาณ 15 โต๊ะ เมนูดูได้เลยทั้งที่เป็นแผ่นพลาสติกบนโต๊ะหรือรูปที่ติดอยู่เหนือตู้ก๋วยเตี๋ยว มีก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น ไก่ตุ๋น บะหมี่เนื้อเป็ด หรือใครที่อยากทานข้าวก็มีข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมู ข้าวไก่อบ ให้เลือกกันตามชอบ ราคาประมาณ 40-60 บาท ราคาก็มาตรฐานเหมือนกันร้านทั่วไปในสมัยนี้



เมนูที่สั่งมาชิมคือก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กเป็ดตุ๋น ทีเด็ดของร้านนี้ รอไม่นานก็ได้ล่ะคะ คนไม่ค่อยเยอะมาก ก๋วยเตี๋ยวชามนี้มาในน้ำซุปเข้มข้น ในชามประกอบไปด้วยเส้นเล็กที่ลวกมากำลังดีไม่จับกันเป็นก้อน เนื้อเป็ดที่ให้มาเยอะพอควร เปื่อยนุ่มละมุนลิ้น มีเครื่องในนิดๆ หน่อยๆ และผักกาดขาด น้ำซุปสีเข้มๆ นี้รสชาติเข้มข้น หอมเครื่องเทศ และกลิ่นเป็ดตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวชามนี้จะติตรงที่มันดูขาดสีสันไปหน่อย ถ้าโรยด้วยผักสีเขียวเข้มๆ พวกต้นหอมหรือผักชี น่าจะทำให้ดูน่าทานขึ้นเยอะเลยค่ะ ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน เช่น ชามะขาว กาแฟเย็น ชาเย็น ฯลฯ



ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นนครปฐม จึงเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น  หรือพี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานที่ศูนย์ราชการ ถ้าเบื่อๆ กับโรงอาหารข้างในก็ออกมาทานร้านนี้ก็น่าสนนะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :5569fb93:
13  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้าน สเต๊ก เชียงใหม่ / อิ่มอร่อยหลากหลายเมนูที่ “ซูโม่สเต็ก” เมื่อ: กันยายน 19, 2014, 06:34:48 AM
อิ่มอร่อยหลากหลายเมนูที่ “ซูโม่สเต็ก”

สเต็กเป็นอาหารอีกแบบหนึ่งที่เลดี้ดาริกาโปรดปราน ตอนเย็นของวันใดก็ตามที่ขับรถไปเรื่อยเปื่อยแล้วไปเจอร้านสเต็กแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ไม่เคยทานมาก่อน เป็นต้องแวะทุกที วันนี้ก็จะมานำเสนอร้านสเต็กที่น่าสนใจร้านหนึ่งอยู่บริเวณย่านประตูสวนดอก


“ซูโม่สเต็ก” ตั้งอยู่ที่ถนนอารักษ์ คูเมืองด้านใน เยื้องๆ กับประตูสวนดอก เป็นร้านขนาดสองห้องแถว บรรยากาศภายในร้านดูเรียบง่าย สบายๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่งประมาณ 10 โต๊ะ มีรูปเมนูตัวอย่างขึ้นป้ายให้เห็นอย่างชัดเจน ช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าอยากจะทานอะไรดี แต่เดิมร้านนี้ตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร แต่ต้องมีเหตุให้ย้ายมีอยู่ที่เชียงใหม่ เดิมทีมีมากกว่า 200 เมนู แต่เกรงว่าจะบริหารจัดการเรื่องวัตถุดิบไม่ดีเท่าที่ควรจึงจำนวนเมนูอยู่ในระดับที่เหมาะสม


มาดูที่เมนูมีให้เลือกหลากหลาย เช่น สเต็กหมู ไก่ ปลา เนื้อ แต่ละอย่างก็มีให้เลือกอีกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น พริกไทยดำ ซอสเห็ด บาร์บีคิวซอส แฮมชีส ราคาตั้งแต่ 69-129 บาท หรือถ้าใครอยากทานข้าวที่นี่ก็มีให้เลือกเช่นกัน ข้าวแซลมอนย่างซีอิ้ว ปลาซาบะย่างซีอิ้ว ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด ฯลฯ ราคา 80-120 บาท หรือถ้าใครกลัวไม่อิ่มและอยากทานหลากหลายก็ยังมียำต่างๆ ให้เลือกสรร ทั้งยำทะเล ยำทูน่า ยำหอยนางรมทรงเครื่อง รวมไปถึงสลัดต่างๆ สนนราคา 40-80 บาท หรือ (อีกแล้ว 55) ระหว่างรอเมนดีสอยากสั่งอะไรง่ายๆ มาทานเล่นก็มีให้เลือกอีกเช่นกัน ขนมปังอบเนยกระเทียม หอมทำ เฟรนซ์ฟราย มันบด ฯลฯ ราคา 39-129 บาท



หลังจากนั่งดูเมนูสักพักจึงสั่งสเต็กหมูพริกไทยดำกับสลัดทูน่า ระหว่ารอก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไปพลางๆ พร้อมกับฟังเพลงหลากหลายแนวที่ทางร้านเปิดขับกล่อม รอไม่นานทางร้านก็เอามาเสริฟ หน้าตาของอาหารดูดีมากเลยค่ะ ไม่แพ้ร้านดังๆ ในห้างเลย มาเริ่มกันที่สเต็กกันก่อน บนจานมีเนื้อหมูพริกไทยดำ สลัดน้อยๆ แตงกวา มะเขือเทศ และขนมปังปิ้ง จัดให้เต็มจานเลยค่ะ ประทับใจตรงที่เนื้อหมูพริกไทยดำมาเป็นชิ้นหนาและใหญ่ในราคาเพียง 69 บาท ซึ่งถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ ในราคาเดียวกันต่างกันเกือบครึ่งเลยแหล่ะค่ะ เนื้อหมูสุกทั่วทั้งชิ้น ได้กลิ่นหอมพริกไทยดำ ราดด้วยซอสเห็ดเลิศรส ราดซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศสักหน่อย อร่อยมากเลย ระหว่างทานก็สลับสับเปลี่ยนกับเครื่องเคียงอื่นด้วยจะช่วยให้เราไม่เอียนจนเกินไป ส่วนสลัดทูน่า ผักสดมากๆ มีหลากหลายชนิด คลุกเคล้ากับทูน่าทานพร้อมกับพักให้ความรู้สึกว่ามันเป็นเมนูที่รักสุขภาพมากๆ เลยค่ะ



ร้านนี้เป็นดั่งสมคำล่ำลือจริงๆ ค่ะ หลายคนบอกว่ารสชาติดี ไม่แพ้ร้านดังในห้างใหญ่ แต่ราคาถูกกว่ากันมากมาย ใครที่ชื่นชอบสเต็กน่าจะโดนใจ และยังมีอาหารอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย อย่าลืมแวะมาอุดหนุนกันเยอะๆ นะคะ

http://i.imgur.com/8ATbspD.jpg

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :5569fb93:
14  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / อร่อยสมชื่อ “ราชาบะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง” เมื่อ: กันยายน 19, 2014, 06:30:55 AM
อร่อยสมชื่อ “ราชาบะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง”

บริเวณย่านหลัง มช. ถนนสุเทพ เป็นแหล่งฝากท้องยามเย็นของนักศึกษาอีกแหล่งที่ได้รับความนิยม นักศึกษาที่พักอาศัยตามหอพักหลัง มช. ก็จะหาอะไรทานตอนเย็นในบริเวณ นอกจากความง่ายและสะดวกแล้ว ยังมีร้านต่างๆ ให้เลือกเยอะแยะมากมาย เรียกได้ว่าถ้าไล่ทานทีละร้านในหนึ่งเดือนก็ยังไม่ครบทุกร้าน ครั้งนี้เลดี้ดาริกาขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับร้านอาหารที่น่าสนใจอีกร้านหนึ่งค่ะ


“ราชาบะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง” ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับร้านกิมง้อ ร้านขายเครื่องดื่มชื่อดัง อยู่ก่อนถึงปากทางเข้าวัดอุโมงค์ประมาณ 100 เมตร ร้านนี้ถ้าไม่สังเกตให้ดีอาจจะขับรถเลยได้นะคะ เพราะบริเวณหน้าร้านไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไรนัก เราขับรถเลยเป็นประจำเลย ถ้าเอารถยนต์มาก็อาจจะหาที่จอดยากนิดนึงนะคะ เป็นร้านธรรมดาๆ มีรถเข็นก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าร้าน บรรยากาศภายในร้านก็ดูเรียบง่าย มีโต๊ะให้นั่งประมาณ 20 โต๊ะ


ทีเด็ดของร้านนี้ก็ตามชื่อร้านเลยค่ะ บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง ซึ่งก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น บะหมี่ปูหมูแดง บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง บะหมี่เกี๊ยวกุ้งสด บะหมี่เกี๊ยวปูหมูกรอบ บะหมี่เกี๊ยวกุ้งหมูกรอบ ซุปซี่โครงหมู  ฯลฯ หรือถ้าใครอยากทานที่มันหนักๆ ท้องหน่อย ก็มีข้าวหมูกรอบกับข้าวหมูแดง เรียกได้ว่าบะหมี่เกี๋ยวปูหมูแดงร้านนี้ดัดแปลงทำได้หลากหลายเมนูจริงๆ



ไม่รอช้า จึงได้สั่งบะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดงไปหนึ่งชาม และเมื่อมันมาอยู่ตรงหน้าก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของสารพัดอย่าง ทั้งเนื้อปู หมูแดง และน้ำซุปกระดูก มันช่างเย้ายวนจริงๆ ในชามก๋วยเตี๋ยวเส้นบะหมี่อยู่ด้านล่างสุด มีหมูแดงและเนื้อปูอยู่ด้านบน โรยด้วยผักชี เห็นแล้วน่าทานมากเลยค่ะ ยิ่งเป็นอะไรที่เกี่ยวกับปูด้วย ยิ่งน่าทานเข้าไปใหญ่ เพราะเนื้อปูเป็นอะไรที่หาทานไม่ได้ง่ายๆ พอปรุงรสเสร็จจึงคลุกเคล้ากัน เนื้อปูกระจายไปทั่วชาม รสชาติของบะหมี่รู้สึกว่ามันพิเศษ เหมือนกับว่าทางร้านทำเองไม่ได้ซื้อมาจากที่อื่น ตรงนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เวลาคีบบะหมี่พร้อมกับหมูแดงพร้อมๆ กัน เคี้ยวในปากรู้สึกเข้ากันดี ตามด้วยเกี๊ยวหมูนุ่มๆ  และตามด้วยน้ำซุปที่มีเนื้อปูอยู่ ขอบอกว่ามันสุดจะบรรยาย ยอดเยี่ยมมากๆ ซดน้ำจนหมดชามกันเลยทีเดียว



ถ้าเกิดทานไม่อิ่มก็จัดข้าวหมูแดงหรือข้าวหมูกรอบมาอีกสักจานก็ดีค่ะ ก่อนหน้านี้เคยมาทานก็อร่อยดีเหมือนกัน เลดี้ดาริกาขอยืนยันอีกครั้งว่าเป็นบะหมี่เกี๊ยวที่อร่อยมากค่ะ จึงอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ มาลองลิ้มชิมรสกันเยอะๆ นะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :5569fb93:
15  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / ซึมซับบรรยากาศเก่าๆ ที่ “ช้างม่อยกาแฟ” เมื่อ: กันยายน 19, 2014, 06:25:37 AM
ซึมซับบรรยากาศเก่าๆ ที่ “ช้างม่อยกาแฟ”

ทุกวันนี้โลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกาภิวัตน์ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตามล้วนมีการเปลี่ยนแปลง ตึกรามบ้านช่องที่เป็นที่ตั้งของร้านต่างๆ ก็ย่อมเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน แต่จะมีสักกี่แห่งที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่มีมาช้านาน


   ในตอนนี้หลายๆ คนอาจจะเห็นว่าร้านอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านเก่าหรือร้านใหม่ก็พยายามสร้างเอกลักษณ์ของความโบร่ำโบราณ หรือที่เรามักเรียกกันติดปากว่าคลาสสิก ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของคนในสมัยนี้ที่เริ่มโหยหาอดีต ดั่งคำคมที่ว่าจุดสูงสุดคืนสู่สามัญ เพื่อเป็นการดึงดูดลูกความตามสมัยนิยม


แต่ที่ร้าน “ช้างม่อยกาแฟ” ไม่ได้เป็นดั่งที่กล่าวมาข้างต้น ร้านนี้เป็นร้านโบราณที่มีมานาน และยังคงความเป็นเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมเอาไว้อยู่ ร้านนี้สภาพภายนอกเป็นบ้านไม้เก่าๆ สองชั้น ถ้าเทียบเป็นตึกแถวก็ประมาณ 3 คูหา แค่เห็นเป็นบ้านไม้ก็ดูเก่าแล้ว แต่นี้มีป้ายเครื่องดื่มเก่ามากๆ ติดเอาไว้ที่ระเบียงชั้นสองยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของร้านนี้ดูเก่าแก่เข้าไปอีก แต่ถึงจะเก่าก็เก่าอย่างมีสไตล์นะคะ คลาสสิกมากๆ

บ้านประตูหน้าร้านยังคงเป็นประตูพับที่เป็นไม้เก่าๆ แต่สภาพแข็งแรง ภายในร้านก็ให้บรรยากาศเดิมๆ เหมือนเข้ามาในร้านกาแฟเมื่อยี่สิบ สามสิบปีที่แล้ว จะมีแต่เก้าอีพลาสติกสีแดงที่ดูเป็นของใหม่เท่านั้นแหล่ะค่ะ นอกนั้นของเก่าทั้งนั้นเลย มีโต๊ะให้นั่งไมเกิน 10 โต๊ะ
   ใครที่ได้ยินหรือเห็นชื่อร้านนี้ก็นึกว่าคงต้องเป็นร้านที่ผู้เฒ่าผู้แก่มานั่งล้อมวงกันกินกาแฟ พร้อมทั้งสนทนาเรื่องราวต่างๆ ก็จริงส่วนหนึ่งค่ะ ร้านนี้คนหนุ่มสาวทั่วไปก็เข้ามาเยอะพอสมควร และที่สำคัญมีก๋วยเตี๋ยวให้ทานด้วยค่ะ ตอนแรกก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีก๋วยเตี๋ยวด้วย เสร็จเราเลยแบบนี้ต้องชิมให้ครบ



มาถึงตรงนี้ก็งงเหมือนกันค่ะว่าจะจัดร้านนี้ให้อยู่ในหมวดหมู่ของร้านอะไรดี เอาเป็นว่าจัดให้เป็นร้านกาแฟก็แล้วกัน ตาชื่อร้านเลยค่ะ ร้านนี้จะเปิดสายหน่อยนะคะ ตั้งแต่ 10.00-14.00 น. เปิดช้าแต่ปิดเร็ว อินดี้จริงๆ เครื่องดื่มก็มีให้เลือกไม่มากนักตามสไตล์ร้านโบราณ มีทั้งร้อน ทั้งเย็น ทั้งกาแฟ ชา และโอเลี้ยง ราคาประมาณ 15-20 บาท ส่วนก๋วยเตี๋ยวเห็นราคาตอนแรกแอบตกใจเล็กน้อยเพราะราคา 50-70 บาท มีทั้งก๋วยเตี๋ยวและเกาเหลา ไม่คิดว่าร้านโบราณจะแพงแบบนี้ แต่ก็เนอะไหนๆ มาแล้วก็จัดสักหน่อยเป็นเกาเหลา ข้าวเปล่า และกาแฟเย็น




เกาเหลารวมชามนี้มีทั้งหมูตุ๋นและเนื้อตุ๋น และเครื่องในต่างๆ กลิ่นหอมมาก น้ำออกสีข้นๆ นิดนึง ท่านคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยจริงๆ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน เพื่อนๆ ต้องลองไปชิมด้วยตัวเอง ส่วนกาแฟก็รสชาติดั้งเดิม ไม่เหมือนกับร้านตามตลาดทั่วไป มันเป็นชุดอาหารที่เข้ากันดีเลยทีเดียว และถ้าใครเกิดติดอกติดใจลูกชิ้น ที่ร้านนี้ก็มีขายเป็นกิโลด้วยนะคะ ตั้งแต่ 160-340 บาท ของเขาคุณภาพจริงๆ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :5569fb93:
16  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / ปล่อยกายสบายใจที่ “8 days a week” เมื่อ: กันยายน 19, 2014, 06:17:47 AM
ปล่อยกายสบายใจที่ “8 days a week”

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนที่เพิ่งมาอยู่เชียงใหม่ เคยได้ยินมาก่อนว่าเมืองเชียงใหม่มีร้านกาแฟเยอะมาก แต่ละร้านน่านั่งทั้งนั่นเลย จึงเริ่มตระเวนไปตามร้านต่างๆ เพื่อไปสัมผัสกับบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละร้าน และมีอยู่ร้านหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากหอเราเท่าไรนัก จึงได้ไปบ่อยอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่ววันหนึ่งร้านนี้ได้ปิดไป เราก็ไม่ได้ไปแถวนั้นนานพอสมควร จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ บริเวณร้านที่เราเคยไปได้ถูกปรับปรุงให้เป็นร้านกาแฟที่มีชีวิตชีวาอีกครั้ง


“8 days a week” หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมชื่อแปลกจัง แต่เราว่าเป็นชื่อที่แนวดีนะคะ ไม่เหมือนใคร เหมือนชื่อต้องการบ่งบอกว่าในหนึ่งสัปดาห์มีแปดวัน ทำให้มีวันหยุดเพิ่มอีกหนึ่งวัน อันนี้คิดเอาเองนะคะ ไมได้ถามเจ้าของร้านโดยตรง


ร้านชื่อแนวนี้ตั้งอยู่ในซอยย่อยของซอยสุขเกษม ซอยนี้เป็นทางเชื่อมกันระหว่างถนนคลองชลประทานกับถนนิมมาน เพื่อนๆ น่าจะรู้จักกันดีนะคะ ถ้ามาจากกาดเชิงดอยตรงวงเวียนช้างเอราวัณให้มุ่งตรงมาที่ถนนสุขเกษมจะเจอสี่แยกขับตรงไปเรื่อยๆ จนพบสามแยกที่มีร้านกาแฟบะเก่าให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยขวา ขับตรงไปประมาณ 100 เมตรก็จะเห็นร้านกาแฟ 8 days a week อยู่ทางขวามือ


ร้านนี้อยู่ใต้ต้นจามจุรีหรือต้นก้ามปูให้ความรู้สึกที่ร่มรื่นมากๆ ตัวร้านเป็นอาคารปูนเปลือยชั้นเดียวตามสมัยนิยม ภายในร้านมีการตกแต่งสไตล์โมเดิน เรียบง่ายแต่ดูทันสมัย โดดเด่นด้วยเชลโล่ตัวใหญ่ ตรงบาร์เราชอบมากเลยเป็นไม้แผ่นตีต่อกันจนเข้ารูปบาร์ ส่วนเมนูก็ครีเอทดีค่ะ เป็นตัวหนังสือสีดำบนผนังเปลือย มีสองส่วนหลักๆ เลยก็คือ กาแฟ ซึ่งก็มีตามมาตรฐานเหมือนร้านทั่วไป มีทั้งร้อนและเย็น ราคาประมาณ 40-60 บาท และอีกส่วนหนึ่งเป็นชา โกโก้ โซดา ราคา 40-60 บาทเช่นกัน หรือถ้าใครอยากทานอะไรหนักๆ ท้องหน่อย ก็จะมีให้เลือกบ้างนิดหน่อย เป็นไก่สมุนไพร ซี่โครงหมูอบซอส และมาม่ามาเต็ม ชื่อหลังนี่ดูแปลกๆ เพื่อนๆ ต้องลองไปพิสูจน์



ที่นั่งภายในร้านมีให้เลือกประมาณ 10 โต๊ะ มีหลากหลายแบบให้เลือก นั่งข้างในตากแอร์เย็นๆ ก็ได้ หรือถ้าอยากสัมผัสธรรมชาติก็ไปนั่งข้างนอกก็ดี ใต้ร่มจามจุรีสบายๆ เครื่องดื่มที่สั่งมาทดลองก็เป็นเจ้าประจำนั่นคือล้าเต้เย็น ของร้านนี้รสจะไม่เข้มข้นมากนัก กาแฟจะอยู่ด้านบน ส่วนนมสดอยู่ด้านล่าง ใครที่ชอบผสมกันออกรสติดหวานนิดๆ ก็คนให้เข้ากันทันทีก็ดี หรือจะปล่อยให้มันผสมกันเองก็แล้วแต่ชอบค่ะ




ใครที่พักอยู่ในย่านซอยสุขเกษม ร้านนี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนั่งทำงานสบายๆ มีเนตให้เล่นด้วยนะคะ ฟรีด้วย

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :5569fb93:
17  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / ผ่านมาสันกำแพง อย่าลืมแวะ “กาแฟหน้าถัง” เมื่อ: กันยายน 19, 2014, 06:10:18 AM
ผ่านมาสันกำแพง อย่าลืมแวะ “กาแฟหน้าถัง”

อำเภอสันกำแพงเป็นอีกอำเภอหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ห่างเพียงประมาณ 20 กิโลเมตร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาในการท่องเที่ยว หรือมีเวลาในการพักผ่อนไม่มากนัก อำเภอนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ถ้าใครมาที่สันกำแพงแล้วรู้สึกอยากจะพักสักหน่อยก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวยังที่ต่างๆ เลดี้ดาริกาขอแนะนำร้านแห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับแวะพักระหว่างทาง



“กาแฟหน้าถัง” ตั้งอยู่บนถนนศรีทรายมูล ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จากถนนเชียงใหม่-สันกำแพง เมื่อมาถึงตัวอำเภอสันกำแพงขับรถมาเรื่อยๆ จะพบกับสามแยกช้างเล่นน้ำพุ ให้เลี้ยวไปซ้ายไปประมาณ 50 เมตร จะพบกับสามแยกที่มีป้ายบอกไปวัดสันก้างปลาและวัดทรายมูล ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 30 เมตร สังเกตบ้านไม้สองชั้นสีแดง มีร่มอยู่หน้าบ้าน นั่นแหล่ะร้านกาแฟหน้าถัง



ร้านนี้ถ้าไม่สังเกตดีๆ อาจจะขับเลยหรือหลงไปเลยก็ได้นะคะ เจอมากับตัวมาแล้ว บรรยากาศภายในร้านรู้สึกเหมือนอยู่บ้านยังไงก็ไม่รูค่ะ อาจเป็นเพราะร้านนี้ดัดแปลงจากบ้านธรรมดาและการตกแต่งภายในร้านเป็นการประยุกต์ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่ใช้ในสมัยก่อนเอามาตกแต่ง ชอบมากเลยคือตะแกรงรูปสี่เหลี่ยมเอามาตีสวมใต้หลอดไฟ แนวมากเลย ส่วนโต๊ะมีให้เลือกนั่งประมาณ 10 โต๊ะ นั่งได้ทั้งในร้านและนอกร้าน แล้วแต่ชอบเลย



เมนูมีให้เลือกหลายหลายทั้งกาแฟ มีมาตรฐานทั่วไป ทั้งร้อนและเย็น ราคา 35-50 บาท นอกจากนั้นก็จะเป็นเมนูปั่น โกโก้ ชา ราคา 35-80 บาท และยังมีเมนูพิเศษด้วยนะคะ ราคาถือว่าไม่แพงเลย หรือใครอยากจะทานเค้ก เบเกอรี่ คู่กับเครื่องดื่มไปด้วย เดินไปดูได้ที่ตู้แช่เลยค่ะ มีให้เลือก 4-5 อย่าง ราคาเริ่มเพียง 15 บาท แพงสุดที่เห็น 55 บาท


หลังจากนั่งพิจารณาอยู่แป๊บนึงจึงสั่งลาเต้เย็นไปหนึ่งแก้ว (เมนูประจำค่ะ …. ไม่รู้ว่าจะนั่งเลือกดูอย่างอื่นทำไม อิอิ) ไม่นานก็ได้ลาเต้เย็น กาแฟอยู่ด้านล่าง ส่วนวสมสดฟองฟอดอยู่ด้านบน อันนี้ก็แล้วแต่สูตรของแต่ละร้านเลยนะคะว่าจะให้อะไรอยู่ล่างหรืออยู่บน แต่สำหรับเราแล้วไม่สน เพราะยังไงๆ ก็คนเข้ามันเข้ากันอยู่ดี เราชอบแบบผสมเข้าด้วยกันค่ะ จะได้ลิ้มรสกาแสที่ออกหวานนิดๆ จากนมค่ะ ส่วนรสชาติเข้มข้นกำลังดี ไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป



ร้านกาแฟหน้าถึงจึงเป็นอีกร้านที่น่าสนใจอีกร้านหนึ่งสำหรับคนต่างถิ่นที่ผ่านมาทางนี้ เพราะถ้าเลยออกไปนอกเมือง ไม่ค่อยเห็นร้านให้แวะนั่งพักเลยค่ะ พักเสียแต่เนิ่นๆ ในเมืองที่ร้านนี้น่าจะดีที่สุด


เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :5569fb93:
18  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / “วัดพระนอนหนองผึ้ง” กราบพระพุทธป้านปิง พระพุทธไสยาสน์สำคัญของวัด เมื่อ: กันยายน 19, 2014, 02:04:06 AM
“วัดพระนอนหนองผึ้ง” กราบพระพุทธป้านปิง พระพุทธไสยาสน์สำคัญของวัด


ถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูนเก่าที่ขนาบข้างไปด้วยต้นยางสูงใหญ่นั้นถือเป็นเส้นทางเก่าแก่ที่ผู้คนในอดีตใช้สัญจรไปมาระหว่างเมืองเชียงใหม่และเมืองลำพูน จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่จะมีโบราณสถาน หรือตำนานต่างๆ เกิดขึ้นในบริเวณพื้นบ้านย่านนี้ ตำนานการสร้างโบราณสถานอย่างวัดพระนอนหนองผึ้งก็เช่นกัน จนถึงวันนี้พระอารามแห่งนี้ยังคงตั้งอยู่ในแนวถนนสายนี้เอง

พระวิหารของวัดหนองผึ้ง

วัดพระนอนหนองผึ้งเป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ บนเส้นทางสายเชียงใหม่ – ลำพูนสายเก่า ห่างจากเขตโบราณสถานเวียงกุมกามเพียง ๑ – ๒ กิโลเมตรเท่านั้น ถือเป็นวัดโบราณที่มีจุดกำเนิดย้อนหลังไปหลายร้อยปี

วิหารพระนอน


ตามตำนานการสร้างวัดแห่งนี้กล่าวไว้ว่า เมื่อพระสุเทวฤๅษีสร้างเมืองหริภุญชัยแล้วเสร็จ ได้เชิญพระนางจามเทวี พระราชธิดาแห่งเจ้าเมืองละโว้ขึ้นมาครองเมืองใหม่นี้ พระนางจามเทวีได้พาข้าทาสบริวาร พร้อมด้วยเหล่าบรรดาช่าง และนักปราชญ์ทั้งหลายมาจากเมืองละโว้ด้วย ในครานี้เองมีพระมหาเถระเจ้าจำนวน ๕ รูปติดตามพระนางมาด้วย



หลังจากนั้นพระมหาเถระทั้ง ๕ รูปดังกล่าวก็ออเดินทางจาริกเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งเป็นถิ่นฐานของชาวลัวะ พวกชาวลัวะเกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงนำน้ำผึ้งป่าที่ขึ้นอยู่ริมบึงใหญ่มาถวาย พร้อมขอให้พระมหาเถระเจ้าจำพรรษาอยู่ในหมู่บ้านนั้น พร้อมสร้างพระอารามขึ้นถวาย ให้ชื่อว่า “วัดหนองผึ้ง” โดยนำพระบรมสารีริกธาตุบรรจุลงในกระบอกไม้ แล้วอัญเชิญไว้ในหลุมลึก ๒๒ ศอก พร้อมสร้างเจดีย์ครอบไว้


กาลเวลาผ่านไปวัดแห่งนี้จึงร้างอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๑๘๓๖ พระมหาเถระและชาวบ้านจากเมืองเชียงแสนได้บูรณะเจดีย์ขึ้นใหม่ พร้อมทั้งสร้างพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขึ้นไว้ภายในวัด ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พญามังรายตีเมืองหริภุญชัยได้สำเร็จ และสถาปนาเวียงกุมกามขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่ของล้านนา พระอารามแห่งนี้จึงถูกผนวกไว้เป็นส่วนหนึ่งของเวียงกุมกามนับแต่นั้น


พระอารามแห่งนี้ได้รับการอุปถัมภ์จากพญามังรายอย่างต่อเนื่องตลอดรัชสมัย ถือเป็นหนึ่งในวัดสำคัญของเวียงกุมกามเลยทีเดียว พร้อมกับจัดให้มีประเพณีสรงน้ำ ปิดทอง และนมัสการพระพุทธไสยาสน์องค์นี้

พระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนวัดหนองผึ้งนี้ถือเป็นหนึ่งในโบราณวัตถุสำคัญของวัด มีลักษณะการนอนแบบหันหัวไปทางทิศตะวันออก เท้าไปทางทิศตะวันตก เป็นลักษณะการนอนแบบขวางเมือง ประกอบกับแต่เดิมบริเวณนี้เป็นท้องแม่น้ำปิง ชาวบ้านจึงเรียกชื่อพระนอนองค์นี้ว่า “พระพุทธป้านปิง”


ภายในบริเวณวัดยังประกอบด้วยอาคารสถานน้อยใหญ่ที่ล้วนแล้วแต่น่าสนใจ อาทิ พระวิหารเรียบง่าย สร้างด้วยสถาปัตยกรมล้านนาท้องถิ่น และพระอุโบสถหลังเก่าที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมงดงามแปลกตายิ่ง ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกของท้องถิ่นสืบต่อไป รวมไปถึงพระธาตุเจดีย์ขนาดเล็กสีทองสุกปลั่ง สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนา เป็นสง่าแก่ชุมชนและเป็นที่สักการะของผู้คนทั่วไป

พระอารามแห่งนี้เดินทางมาไม่ยาก หากใครผ่านไปมาระหว่างเมืองลำพูน – เชียงใหม่สนใจอยากเยี่มชมวัดก็เข้าชมได้ง่าย หรือใครมาเทียวโบราณสถานเวียงกุมกาม ก็อย่าลืมเข้ามากราบพระนอนที่วัดพระนอนหนองผึ้งกันให้ได้นะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา 908
19  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / “บ้านสวนกาแฟ” ใช้เวลาวันหยุดสบายๆ กับสีเขียวและสายน้ำ เมื่อ: กันยายน 19, 2014, 01:09:39 AM
“บ้านสวนกาแฟ” ใช้เวลาวันหยุดสบายๆ กับสีเขียวและสายน้ำ


ถนนเส้นเล็กๆ ที่พาเราลัดเลาะเรือกสวนของคนท้องถิ่น ผ่านเขตป่าชุมชนที่เขียวชอุ่มเพราะได้สายฝนพร่ำๆ ในฤดูฝนมาเติมความชุ่มชื้นให้ผืนดินและหมู่แมกไม้ เลียบเลาะ “ดอยคำ” ภูเขาขนาดย่อมซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุดอยคำมาเล็กน้อยเราก็จะพบกับร้านกาแฟ วิวสวย บรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการพักผ่อนกายใจในวันหยุดที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ “บ้านสวนกาแฟ”


สำหรับคอกาแฟ นักเดินทาง คนชอบเที่ยว และผู้ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ชิคๆ ชิวๆ แล้ว “บ้านสวนกาแฟ” ไม่ใช่ชื่อใหม่สำหรับพวกเขา เพราะด้วยชื่อเสียงเรื่องบรรยากาศและเอกลักษณ์ของร้านแห่งนี้ ทำให้บ้านสวนกาแฟมีชื่อเสียงกว้างขวาง แม้ว่าจะติดรายการต้องไปของเว็บไซต์ท่องเที่ยวหลายๆ แห่ง เป็นหัวข้อสนทนาในเว็บบอร์ดสำหรับคนรักการเดินทางอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่เลดี้ดาริกาก็เชื่อว่ายังมีเพื่อนๆ อีกหลายคนที่ยังไม่รู้จัก และเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสนี้ เราจะมาทำความรู้จักบ้านสวนกาแฟแห่งนี้พร้อมๆ กัน



การเดินทางมาบ้านสวนกาแฟไม่ยากเลยค่ะ เพื่อนๆ ที่มาเที่ยวเชียงใหม่หลายๆ คนคงจะต้องไปเที่ยวอุทยานราชพฤกษ์และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกันแน่ๆ หรือหากไม่ไป ถามใครในเชียงใหม่ก็ต้องรู้จัก เพราะถือว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียง และเป็นอีกตัวชูโรงสำคัญของวงการท่องเที่ยวเชียงใหม่ เมื่อเพื่อนๆ มาถึงอุทยานราชพฤกษ์แล้ว ให้ขับรถลัดเลาะไปตามเส้นทางที่มุ่งสู่พระธาตุดอยคำ ขับรถเลยทางเข้าพระธาตุดอยคำไปเรื่อยๆ ผ่านป่าไม้และสวนของชาวบ้าน ไม่นานก็จะพบร้านสวนบรรยากาศดีๆ แห่งนี้


บ้านสวนกาแฟ มีลักษณะเป็นร้านนั่งเล่นพักผ่อน ที่เน้นบริการกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ และขนมเค้กหลากหลายชนิด แต่ก็มีอาหารจานเดียวเมนูง่ายๆ ไว้คอยบริการลูกด้วยเช่นกัน หากใครเดินทางท่องเที่ยวมาเหนื่อยๆ อยากหาที่พักรับประทานอาหาร และนั่งเล่นบรรยากาศดีๆ ก็สามารถมาที่นี่ได้



บรรยากาศของร้านเป็นโรงเรือนไม้ตกแต่งสวยงาม ตั้งอยู่ท่ามกลางสีเขียวของต้นไม้ มีลำธารเล็กๆ น้ำใสแจ๋วไหลผ่าน ถือเป็นบรรยากาศที่สวยงามมากๆ เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างยิ่ง ที่สำคัญบริเวณที่ตั้งของร้านนั้นอับสัญญาณมือถือ และไม่มีอินเตอร์เน็ตไวไฟไว้บริการ ผิดกับร้านกาแฟหลายๆ แห่งที่เน้นเอาใจลูกค้าด้วยอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ดังนั้นที่นี่จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการติดต่องาน หรือต้องรอคอยโทรศัพท์ตลอดเวลา แต่ในทางกลับกัน กลับเหมาะอย่างยิ่งต่อผู้ต้องการพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง



บ้านสวนกาแฟ เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาร้านเก๋ๆ ไว้สำหรับพักผ่อนในวันหยุด ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสีเขียวของต้นไม้และเสียงบรรเลงของสายน้ำ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 08:00 – 17:00 น แต่ช่วงวันหยุดจะมีลูกค้าแน่นร้านมาก บางทีอาจไม่มีโต๊ะนั่งหรือที่จอดรถนะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  913
20  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / หอมกลิ่นดิน กรุ่นกลิ่นกาแฟ รับไอแดดที่ “ศาลากาแฟ” เมื่อ: กันยายน 18, 2014, 10:18:59 PM
หอมกลิ่นดิน กรุ่นกลิ่นกาแฟ รับไอแดดที่ “ศาลากาแฟ”


แม่ริมมีอะไรแปลกใหม่ให้เราต้องทึ่งและตกหลุมรักเสมอๆ ก่อนหน้านี้เลดี้ดาริกาเคยพาเพื่อนๆ ไปนั่งเล่นร้านกาแฟบ้าง ร้านอาหารบ้าง ซึ่งหลายๆ ร้านที่ฉันประทับใจและอยากจะมักจะกลับไปเยือนหลายๆ ครั้งก็ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ อย่างแม่ริม “หลงป่า” ร้านอาหารกลางป่ายางใหญ่ “ทีการ์เด็น” ที่ถูกแอบซ่อนไว้หลังกำแพงต้นตีนตุ๊กแก และล่าสุดกับ “ติตาแกลเลอรี่” ร้านกาแฟวาวีที่มาพร้อมกับแกลเลอรี่เล็กๆ ในอาคารรูปทรงเก๋ไก๋ สถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ของแม่ริม



“ศาลากาแฟ” เป็นร้านนั่งเล่น รับประทานอาหาร ดื่มกาแฟ พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาตินอกเมืองอีกแห่งหนึ่ง ที่เพื่อนๆ บางคนอาจรู้จักดี เพราะถือว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งของแม่ริม และจังหวัดเชียงใหม่ ถึงขนาดที่นักท่องเที่ยวชาวกรุงเทพบางคนเดินทางมาแม่ริมโดยมี “ศาลากาแฟ” เป็นจุดหมายปลายทางกันเลยทีเดียว


“ศาลากาแฟ” เป็นร้านกาแฟที่มีพร้อมสรรพให้คุณเลือกสรร เครื่องดื่มหลากหลายชนิด กาแฟหลากหลายสูตรรสชาติละมุนละไม หรือจะลิ้มลองชาต่างๆ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ รับประทานคู่กับของว่างเล็กๆ น้อยๆ หรือขนมเค้กสดใหม่ หรืออยากจะรับประทานอาหารมื้อหนักที่นี่ก็มีให้บริการ



ทำเลที่ตั้งของร้านแห่งนี้ หากใครไม่ตั้งใจมาก็คงหาไม่พบ เพราะต้องลัดเลาะเข้าไปในถนนสายเล็กๆ แคบๆ ผ่านหมู่บ้านและเรือกสวนของคนท้องที่ ไต่เนินขึ้นไปเล็กน้อย ก็จะพบกับบ้านสองชั้นน่ารักๆ ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินแห่งนั้น ล้อมรอบด้วยสวนไม้ดอกไม้ประดับงดงาม ทำให้ผู้มาเยือนหายเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางได้ดีทีเดียว



ภายในร้านจัดสรรปันส่วนได้อย่างดี มีชุดโต๊ะเก้าอี้คอยรับรองลูกค้าทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง หรือใครชอบบรรยากาศโล่งๆ จะเขยิบออกจากชายคาให้ร่างกายได้รับไอแดดและสายลมเต็มที่ขึ้นหน่อย ก็มีโต๊ะเก้าอี้ไว้บริการลูกค้านอกชายคาด้วย แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ตอนช่วงกลางวันและบ่ายจัดแดดค่อนข้างแรงค่ะ สาวๆ ที่ห่วงผิวพรรณต้องระมัดระวังกันหน่อย แต่สถานที่แห่งนี้กลับเหมาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาหน้าหนาว ซึ่งถือว่าเป็นไฮซีซั่นของเมืองเชียงใหม่ เพราะอากาศกำลังดี และมีไอแดดอ่อนๆ มีเสื้อสเวตเตอร์สักตัวก็อุ่นทั้งกายและจิตใจทีเดียว



ด้วยความที่เป็นร้านมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยว จึงมีลูกค้ามาใช้บริการมากจนบ้างครั้งก็ไม่มีที่นั่งเพียงพอสำหรับรับรองลูกค้า หรือต้องรอคิวอาหารเครื่องดื่มนานๆ อาจเสียอารมณ์และทำลายบรรณยากาศอันงดงามรอบตัว เลดี้ดาริกาจึงแนะนำเพื่อนๆ ให้หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีลุกค้ามาก คือช่วงกลางวัน และวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะจะมีคนเยอะ ทำให้ไม้สามารถนั่งทอดอารมณ์ชมวิว ซึมซับบรรยากาศที่สวยงามได้นานๆ ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดคือวันธรรมดา ยามสาย หรือบ่ายคล้อยไปแล้ว

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  917
21  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / ปล่อยใจไปกับแมกไม้ งานศิลปะ และกาแฟที่ “ติตาแกลเลอรี่” เมื่อ: กันยายน 18, 2014, 10:11:43 PM
ปล่อยใจไปกับแมกไม้ งานศิลปะ และกาแฟที่ “ติตาแกลเลอรี่”


“แม่ริม” อำเภอเล็กๆ ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเมืองเชียงใหม่แห่งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นจุดหมายปลายฝันของใครต่อใครหลายคน ที่นี่เป็นทั้งแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและผจญภัยหลากหลายรูปแบบ โรงแรมสวยๆ ที่สร้างอยู่แอบอิงแนบชิดแมกไม้และสายน้ำ รวมไปถึงร้านอาหาร ร้านนั่งเล่น และร้านกาแฟน่ารักๆ



เลดี้ดาริกาเองหากมีเวลาว่างก็เลือกที่จะแวะมาที่นี่ และมักจะกลับไปพร้อมความประทับใจ เรื่องราวดีๆ ที่จะนำไปเล่าสู่กันฝังในหมู่เพื่อนพ้องพี่น้องนักเดินทาง วันนี้เลดี้ดาริกามีร้านกาแฟสวยๆ น่ารักๆ มีสไตล์เก๋ไก๋ในแบบของตัวเองมาแนะนำเพื่อนๆ “ติตาแกลเลอรี่ (Tita Gallery)”



ใต้ร่มเงาแมกไม้ใหญ่ที่เขียวครึ้มตลอดฤดูฝน หรือจะเรียกว่าตลอดปีก็ไม่น่าจะผิด บนถนนสายเล็กๆ ที่ตัดแยกมาจากถนนสายแม่ริม – สะเมิง เลาะเลียบชุมชน ธารน้ำ และเนินเขาไปยังด้านหลังตัวอำเภอ เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟวาวีเล็กๆ เมื่อเทียบกันร้านสาขาบางแห่งในเมืองเชียงใหม่ แต่ที่นี่กลับมีผู้คนมาเยือนอยู่ไม่ขาด นั่นก็เพราะเอกลักษณ์ของร้านนี้ที่สร้างสรรค์ไว้ได้โดนใจผู้มาเยือน



อาคารสีส้มแกมน้ำตาลดินทรงตึกแบบยุโรป แต่โปร่งโล่งสบายด้วยประตูไม้ตีเกล็ดทาสีเขียวสด แต่ซีดเซียวลงเพราะผ่านลมผ่านฝน ให้ความรู้สึกถึงบ้านเรือนในอิตาลี แต่ก็ได้รับกลิ่นอายแบบไทยประยุกต์ เพราะเห็นบานประตูไม้ตีเกล็ดแบบนี้ทีไรทำให้อดนึกถึงเรือนไทยปั้นหยาของปักษ์ใต้บ้านเราไม่ได้


ภายในร้านโปร่งโล่ง ตกแต่งด้วยโต๊ะนั่งและโซฟาหลากสีที่ไม่เข้าเซ็ตเข้าพวกกัน แต่กลับดูเบาสบาย เรียบง่าย และเก๋อย่างมีเอกลักษณ์ มีทั้งที่นั่งในอาคาร และลานโล่งๆ ด้านนอก หากใครอยากรับไอแดดอ่อนๆ ที่สาดผ่านแมกไม้เข้ามาทักทาย ได้ขนมอร่อยๆ กาแฟร้อนๆ หรือเย็นๆ ตามใจชอบสักแก้ว ก็เพลิดเพลินได้จนลืมเวลา 



ติตาแกลเลอรี่ ชื่อก็บอกอยู่ว่า “แกลเลอรี่” สถานที่จัดแสดงงานศิลปะ เพื่อที่จะไม่หลุดคอนเซ็ปต์จริงๆ ของสถานที่แห่งนี้ ซึ่งตั้งใจสรรค์สร้างให้เป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะเล็กๆ ในชุมชนเล็กห่างไกลจากตัวเมือง จึงไม่ควรพลาดชมห้องจัดแสดงที่ตั้งอยู่ติดๆ กัน


ภาพเขียนหลากหลายฝีมือ ต่างศิลปิน ต่างสไตล์ ต่างแนวความคิด ถูกแวนประดับบนฝาผนังได้สัดส่วน อยู่ภายในอาคารปูนที่ก่อสร้างขึ้นด้วยดีไซน์ง่ายๆ หลังคาแบบบ้านล้านนา ทำให้ดูทันสมัย และสอดรับกับความเป็นท้องถิ่นได้อย่างดี ใกล้กันมีร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ เผื่อใครเดินทางมาไกลอยากจะหาอะไรติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่รัก หรือจะเก็บไว้ลำลึกถึงร้านเล็กๆ กลางป่าแห่งนี้ก็ได้

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :5569fb93:
22  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / “วิกุลพานิช” ตำนานซาลาเปาของเชียงใหม่ เมื่อ: กันยายน 12, 2014, 02:30:31 AM
“วิกุลพานิช” ตำนานซาลาเปาของเชียงใหม่

ซาลาเปาอีกหนึ่งอาหารที่คนไทยคุ้นเคยกันมานาน จะทานเป็นของว่าง หรือจะเป็นอาหารมือหลักก็ยังได้ สำหรับเชียงใหม่แล้ว ถ้าพูดถึงร้านซาลาเปามั่นใจว่าแทบทุกคนจะต้องเอ่ยถึงร้านวิกุลพานิช ย่านสันป่าข่อย ร้านซาลาเปาที่อยู่คู่เมืองเชียงใหม่มาร่วมร้อยปี



ร้านวิกุลพานิชตั้งอยู่ที่ตึกแถวริมถนนเจริญเมือง ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงสันป่าข่อย ห่างจากสะพานนวรัฐประมาณ 600 เมตร ร้านนี้เป็นกิจการภายในของครอบครัวคุณป้าวิกุล เกียรติพจนานันท์ เป็นกิจการในครอบครัว ที่เริ่มทำขายมาตั้งแต่สมัยอาเตี่ย มาจนถึงยุคปัจจุบันก็ร่วมๆ ร้อยปีค่ะ นับว่าเป็นอาหารโฮมเมดที่ทำการมานานมาก ขายดิบขายดี โดยที่ไม่ต้องขยายกิจการ


ซาลาเปามีให้เลือกหลากลายไส้ เช่น ไส้หมู ไส้ถั่วดำ ไส้ครีม ลูกใหญ่ราคา 30 บาท ลูกเล็กราคา 15 นาท นอกจากนั้นก็มีขนมจีบ อร่อยไม่แพ้กันลูกละ 5 บาท อีกทั้งขนมเปี๊ยะ และจันอับ ทางร้านจะใส่ของที่เราสั่งในถุงกระดาษสีน้ำตาลอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน รองด้วยใบตอง



เชื่อว่าหลายๆ คนเห็นราคาอาจจะรู้สึกว่าทำไมแพงจัง ร้านทั่วไปขายลูกละ 5-15 บาท แต่ทำไมร้านนี้ขาย 15 กับ 30 บาท เมื่อได้ลองไปซื้อและมาชิมด้วยตัวเองแล้วจะเข้าใจค่ะ เราจัดมาสองลูกเป็นไส้หมูลูกใหญ่หนึ่งลูกและไส้ถั่วดำลูกเล็กอีกหนึ่งลูก มาดูที่ขนาดก่อนแนะนำว่าถ้าใครทานเล่นแนะนำแค่ลูกเล็กก็พอค่ะ แต่ถ้าใครอยากทานเป็นมื้อหลักเลยละก็แนะนำลูกใหญ่เลย ลูกใหญ่มาก ใหญ่กว่าฝ่ามือเสียอีก



เนื้อซาลาเปาอาจจะดูไม่เหมือนร้านอื่น เพราะสีจะออกหม่นๆ หน่อย ไม่ได้ขาวๆ เป็นเนื้อซาลาเปาสูตรแต้จิ๋ว เนื้อจะเหนียว หนา นุ่ม แค่กินเปล่าๆ ยังอร่อยเลยค่ะ ส่วนไส้ก็จัดมาให้แบบเต็มๆ ไม่มีกั๊กเหมือนกับร้านทั่วไปที่ชอบใส่ไส้มานิดเดียว ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นคงประมาณได้ว่าซาลาเปาร้านวิกุลไส้ 40% เนื้อซาลาเปา 60% ไส้ถั่วดำหวานอร่อย ไม่เลี่ยน ส่วนไส้หมูก็จะเป็นหมูสูตรพิเศษ ยังสอดไว้ไข่เค็มกับกุนเชียงข้างใจอีกด้วย ทั้งสองไส้อร่อยมากๆ เลยค่ะ



ใครที่ยังไม่เคยลอง หรือเป็นนักท่องเที่ยวขาจร เมื่อเห็นรีวิวนี้แล้วอย่าลืมแวะไปชิมกันนะคะ ร้านหาไม่ยากเลย แต่ขอเตือนว่าต้องรีบไปหน่อยนะ เปิดตั้งแต่แปดโมงเช้าเป็นต้นไป วันๆ ทำแค่ 100 ลูกเท่านั้น เพราะเป็นกิจการในครอบครัวมีกำลังทำแค่นี้หมดแล้วหมดเลย ถ้าใครอยากจะสั่งไปเป็นเบรกระหว่างประชุมก็ได้นะคะแต่ต้องไปบอกแต่เนิ่นๆ ทางร้านจะได้เตรียมให้ทัน เพื่อนเราเคยสั่งไปแล้ว คนในที่ประชุมประทับใจกันมากค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :5569fb93:
23  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / แวะชิม “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเชียงใหม่” ย่านสันป่าข่อย เมื่อ: กันยายน 12, 2014, 01:16:56 AM
แวะชิม “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเชียงใหม่” ย่านสันป่าข่อย

ยอมรับเลยนะคะว่าเราเป็นสาวกของก๋วยเตี๋ยว ผ่านไปทางไหนเจอร้านก๋วยเตี๋ยวแปลกๆ ร้านดูน่าสนใจ  และยังไม่เลยลองชิม ต้องแวะให้ได้ ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ไปเจอร้านนี้โดยบังเอิญ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ดูโมเดินสไตล์มากๆ อยู่แถวย่านสันป่าข่อย



“ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเชียงใหม่” ชื่อนี้อาจจะฟังดูแล้วธรรมดาๆ ดูไม่ค่อยมีเอกลักษณ์อะไร เพราะที่อื่นก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แต่ป้ายที่ร้านนี้เขาติดเอาไว้แบบนี้จริงๆ ค่ะ เป็นตึกแถวอยู่ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงสันป่าข่อย ใกล้ๆ กับร้านวิกุลพานิช ร้านซาลาเปาชื่อดังของเมืองเชียงใหม่ จริงๆ วันนั้นไปซื้อซาลาเปาค่ะแต่เผอิญรู้สึกหิวๆ เลยเดินหาร้านอาหาร เลยมาเจอร้านนี้พอดี


ร้านนี้ตั้งอยู่ในตึกแถวเก่าๆ แต่ภายในมีการรีโนเวทนิดๆ หน่อยๆ สภาพผนังปูนดูเก่าและโทรมมาก แต่มีการตกแต่งโดยใช้รูปภาพแนวโมเดิล สถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่ และภาพก๋วยเตี๋ยวของร้าน ก็ช่วยให้ดูดีขึ้นมาถนัดตา โต๊ะและเก้าอี้ก็ดูเรียบง่าย เราชอบเก้าอี้มากค่ะ เป็นเก้าอี้ไม้ทรงกลมแบบเก้าอี้ร้านก๋วยเตี๋ยวโบราณๆ เข้ากับบรรยากาศของร้านมาก ภายในร้านแบ่งออกเป็นสองส่วน ด้านนอกเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ด้านในเป็นที่นั่งของร้านการแฟสด พอดูในภาพรวมแล้วก็เลยทำให้ร้านนี้ดูแนวๆ สไตล์โมเดินไม่เหมือนใคร


เมนูก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทีเด็ดของร้านนี้คือก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แล้วก็มีหมูตุ๋นด้วย มีเส้นให้เลือกมากมาย ทั้งเส้นเล็ก ใหญ่ หมี่ขาว หมี่เหลือง และวุ้นเส้น ราคาตั้งแต่ 50-100 บาท อีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือหม้อไฟเนื้อ มีทั้งสารพัดเนื้อและเครื่องใน รวมเล็ก 250 บาท รวมใหญ่ 350 บาท นอกจากนั้นก็มีข้าวซอย เนื้อ หมู ไก่ ข้าวแกงกะหรี่เนื้อ หมู่ ไก่ ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งน้ำสมุนไพรและน้ำอัดลมราคาตั้งแต่ 15-20 บาท



เราสั่งเส้นเล็กรวมเนื้อพิเศษ ระหว่างรอพนักงานก็เอาน้ำแข็งเปล่ามาเสริฟ เป็นขันแสตนเลสลายไทยใบเล็กๆ น่ารักๆ รอประมาณ 5 นาที ก๋วยเตี๋ยวก็มา ตอนแรกก็ตกใจว่าทำไมพนักงานถือหม้อไฟเหมือนที่เขาใส่กุ้งอบวุ้นเส้น พอมาอยู่ตรงหน้าเราก็เข้าใจเลยค่ะว่าเขาใช้เป็นชามก๋วยเตี๋ยว ยอมรับเลยค่ะว่าร้านนี้แนวจริงๆ ตั้งแต่การตกแต่งร้านไปจนถึงภาชนะ



สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นหอมเครื่องเทศของน้ำก๋วยเตี๋ยว ในชามประกอบไปด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กที่ไม่จับเป็นก้อนๆ ส่วนรวมเนื้อก็มีไส้อ่อน เครื่องในอื่นๆ ลูกชิ้นเนื้อ และเนื้อก๋วยเตี๋ยว หลากหลายแบบพอสมควร โรยด้วยผักชี รสชาติน้ำก๋วยเตี๋ยวไม่เข้มข้นมากนักแต่ก็กลมกล่อมดี เนื้อต่างๆ ก็ตุ๋นและลวกมาแบบสุกกำลังดี เมื่อทุกอย่างมารวมกันในชามนี้ก็ลงตัวดีค่ะ



ระหว่างทานก็เหลือไปเห็นคนปรุงก๋วยเตี๋ยว ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นเจ้าของร้าน ขณะทำงานแกใส่ผ้าปิดปากตลอดเลย ต้องขอชื่นชมค่ะ โดยรวมร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร มีการตกแต่งที่น่าสนใจและใส่ใจเรื่องความสะอาดภายในร้าน เลดี้ดาริกาจึงอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ มาพิสูจน์ด้วยตาและปากเลยแหล่ะค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  916
24  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / "ก๋วยเตี๋ยวเป็ดน้ำแดง" ย่านสามกษัตริย์ เมื่อ: สิงหาคม 22, 2014, 06:18:49 AM
"ก๋วยเตี๋ยวเป็ดน้ำแดง" ย่านสามกษัตริย์
 
บริเวณอนุสาวรีสามกษัตริย์เป็นอีกย่านหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก เลดี้ดาริกาก็เป็นคนหนึ่งที่ไปเยือนบริเวณนั้นอยู่บ่อยๆ ทั้งในตอนกลางวัน และในยามที่มีถนนคนเดิน แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ไปทำธุระแถวนั้นประมาณเที่ยงวัน เริ่มหิวข้าว สายตาจอมซนของเราก็ไปสะดุดตากับร้านหนึ่ง ก็คิดอยู่ในใจว่าทำไมร้านนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงตัดสินใสฝากท้องกับร้านนี้ค่ะ


ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดน้ำแดงเจ๊หลีตั้งอยู่ริมถนนอินทรวโรรส ถนนเส้นนี้เป็นวันเวย์ วางแผนการเดินทางให้ดีเดี๋ยวจะต้องวนไปวนมาเสียเวลา เป็นร้านห้องแถวหนึ่งคูหา อยู่ระหว่างร้านข้าวมันไก่ชื่อดังของเชียงใหม่ คือ ร้านเกียรติโอชา และกฤษโอชา อยู่ทางทิศใต้ของอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ละเอียดขนาดนี้ไม่น่าจะหลงแล้วนะคะ อิอิ


ภายในร้านก็ตกแต่งแบบธรรมดาๆ เหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไป มีโต๊ะให้นั่งประมาณ 10 โต๊ะ มาดูที่เมนูกันค่ะ เมนูเด่น ซิกเนอเจอร์ของร้านนี้คงหนีไม่พ้นก๋วยเตี๋ยวเป็ดน้ำแดง ส่วนเมนูก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ ก็จะมี ก๋วยเตี๋ยวไก่ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เกี๊ยวน้ำ บะหมี่หมูแดง เกาเหลา ส่วนใครที่ชอบหนักๆ ท้อง ชอบทานข้าว ก็มีข้าวสารพัดหน้าให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวหน้าไก่ ข้าวต้มเป็ด ไก่ หมู ราคา 40-50 บาท



   แน่นอนว่าเราสั่งก๋วยเตี๋ยวเป็ดน้ำแดง เมนูเด็ดของร้านนี้ ตรงป้ายเมนูเขียนบอกเอาไว้ว่า ตำนานเป็ดพะโล้เจ๊หลี แห่งตลาดมะลิทอง 2499 ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นมาอย่างไร ชื่อเสียงโด่งดังแค่ไหน แต่ในเมื่อมีให้เราได้ลองชิมในตอนนี้ก็ต้องไม่พลาดค่ะ


รอไม่นานพ่อค้าก็เอามาเสริฟ กลิ่นหอมด้วยเครื่องเทศสารพัดชนิด ตอนแรกก็สงสัยว่าน้ำแดงเป็นอย่างไร พอได้เห็นจริงๆ ก็แดงอย่างที่เขาบอก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเขาใส่อะไรลงไป ไม่รอช้าตักน้ำซดก่อนเป็นอันดับแรก รสชาติกลมกล่อม ตามด้วยเนื้อเป็ด ตุ๋นมากำลังดี ไม่เหนียว เนื้อยุ่ยเคี้ยวง่าย มีกระดูกเป็ดให้ได้กัดกรุบๆ กรอบๆ เพลินดีไปอีกแบบ ส่วนเส้นลวกมาสุกพอดี สรุปก็คือ ชิมเนื้อเป็ดตามด้วยเส้น ปิดท้ายด้วยซดน้ำ อร่อยจริงๆ ค่ะ อร่อยจนซดน้ำหมดชามเลย


สำหรับเพื่อนๆ คนใดที่กำลังมองหาก๋วยเตี๋ยวที่ไม่ได้มีหาทานกันได้ง่ายๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวเป็ดน้ำแดง จริงๆ แค่เป็ดก็หาทานยากแล้ว นี่เป็นเป็ดน้ำแดงด้วย ไม่ธรรมดาเลย เพื่อนๆ ลองมาชิมพิสูจน์กันด้วยตัวเองนะคะ จะได้รู้ว่าเลดี้ดาริกาไม่ได้โม้จนเกินเหตุ 555

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  915
25  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / อร่อยแบบมีสไตล์กับ “ชามุกมงชูชู” (Mon Chu Chu) เมื่อ: สิงหาคม 21, 2014, 12:14:17 AM
อร่อยแบบมีสไตล์กับ “ชามุกมงชูชู” (Mon Chu Chu)

ดูเหมือนว่าทุกวันนี้เราจะพบร้านชานมไข่มุกได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นร้านระดับไฮโซในห้างชื่อดังกลางเมืองใหญ่ บูธขายเครื่องดื่มในสวนสาธารณะ ริมทางเท้า ไปจนถึงร้านเล็กๆ ในตลาด เรียกได้ว่าคนไทยทุกคนสามารถเอร็ดอร่อยกับเครื่องดื่มชนิดนี้ได้ในหลากหลายราคา หลากหลายคุณภาพ ตามแต่ความสะดวก


แต่เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ช่วงที่ชานมไข่มุกเริ่มบูมในบ้านเราเป็นครั้งแรก เลดี้ดาริกายังเป็นแค่เด็กมัธยมปลายอยู่เลย โดยเครื่องดื่มสไตล์ไต้หวันนี้เป็นที่นิยมครั้งแรกในหมู่วัยรุ่นกรุงเทพ ซึ่งเลดี้ดาริกาเองก็ได้แต่ดูทีวีตาปริบๆ เพราะบ้านก็แสนจะกันดาร ไม่คิดว่าจะได้ลองกินกับเขาหรอกค่ะ แต่โชคยังเข้าข้างที่กระแสชานมไข่มุกเริ่มร้อนแรงขึ้น มีร้านมากมายพากันออกมาขายเครื่องดื่มแนวใหม่ที่มีวุ้นสีดำๆ กลมๆ นี้ ไม่นานเครื่องดื่มชนิดนี้ก็ไปกวักประตูเรียกเงินเลดี้ดาริกาถึงหน้าประตูโรงเรียน


จนถึงตอนนี้ชานมไข่มุก และเครื่องดื่มประเภทชานมต่างๆ ก็ยังคงมีให้เห็นทั่วไปในบ้านเรา ไม่ใช่ของแปลกใหม่ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำอีกแล้วก็จริง แต่ร้านเครื่องดื่มลักษณะนี้ก็พัฒนาการเพื่อให้เข้ายุคเข้าสมัย และถูกปากถูกใจคนไทยมากขึ้น จนทุกวันนี้ไม่ได้มีแค่ชานมไข่มุกพื้นๆ อย่างที่เคยกินตอนเด็กๆ อีกแล้ว แต่มีรสชาติ สีสัน และความสนุกให้เลือกมากมายในแก้วเครื่องดื่ม



“ชามุกมงชูชู” คือร้านชานมไข่มุกที่เราขอแนะนำเพื่อนๆ ในวันนี้ และเป็นร้านที่เลดี้ดาริกาเองก็ติดใจในรสชาติเอามากๆ ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยกลมกล่อมแบบที่เลดี้ดาริกาชอบ แต่ยังมีเมนูเครื่องดื่มให้เราเลือกได้หลากหลาย ทำให้การดื่มอะไรเย็นๆ สักครั้งของเลดี้ดาริกาสนุกขึ้นมาก ปัจจุบันร้านชามุกมงชูชูนี้มีสาขามากมายในเมืองเชียงใหม่ เช่น สาขาหน้าโรงพยาบาลสวนดอก สาขามีโชคพลาซ่า สาขาเมญ่า เป็นต้น แต่ร้านดั้งเดิมที่เลดี้ดาริกาไปเป็นประจำคือสาขาหน้าโรงพญาบาลสวนดอก ติดๆ กับร้านข้าวแกงลุงไทยที่เคยรีวิวไปแล้ว



ความโดดเด่นของร้านชามุกมงชูชูอย่างแรกที่ต้องชมเชยคือรสชาติที่ไม่หวานจนกลายเป็นน้ำเชื่อม แต่มีความกลมกล่อม เข้มข้น ได้กลิ่นและรสชาติฝาดๆ ของชา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้รสชาติดูมีมิติ ในเวลาเดียวกันก็ไม่ทิ้งความหอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มชนิด แต่ก็ไม่หวานแหลมจัดจนแสบคอ


เมนูของร้านก็มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ชานมแบบเบสิกๆ ไปจนถึงชานมรสผลไม้ต่างๆ รสโปรดของเลดี้ดาริกาที่อยากจะเร็คคอมเม้นต์ให้เพื่อนๆ ลองดื่มดูบ้างคือ “รสกล้วย” ที่หวานมันและมีกลิ่นกล้วยอ่อนๆ อร่อยมากๆ จนถึงทุกวันนี้ทางร้านก็มีการปรับปรุงและเพิ่มเมนูฟิวชั่นใหม่ๆ อยู่เสมอ การดื่มชานมไข่มุกจากร้านมงชูชูแต่ละครั้งจึงเป็นเรื่องแปลกใหม่ น่าลอง ไม่น่าเบื่อเลย เรียกได้ว่าเพิ่มความสนุกในการดื่มเครื่องดื่มสักอย่างไปได้อีกมากพอสมควร

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :5569fb93:
26  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / อร่อยแซ่บจัดจ้าน “ภูตะวันก๋วยเตี๋ยวฟ้าผ่า” เมื่อ: สิงหาคม 20, 2014, 11:15:18 PM
อร่อยแซ่บจัดจ้าน “ภูตะวันก๋วยเตี๋ยวฟ้าผ่า”


“อย่าดูถูกอาหารริมทาง” เป็นคำที่เลดี้ดาริกาใช้เตือนตัวเองเสมอค่ะ เพราะหลายๆ ครั้งก็พิสูจน์แล้วว่าอาหารริมทางนั้นอร่อยมากจริงๆ หลายๆ คนอาจยังไม่เชื่อใจในเรื่องของความปลอดภัยและสุขลักษณะของร้านอาหารริมถนน แต่แท้จริงแล้วอาหารในร้านดีๆ ก็ไม่ได้การันตีความสะอาดเหมือนกัน เรียกได้ว่าต้องเป็นคนช่างสังเกตสังกาและสอดส่องให้ดีในเรื่องสุขอนามัยอาหารไม่ว่าจะรับประทานในร้านหรู หรือริมถนนก็ตาม แต่รีวิวที่เลดี้ดาริกานำเสนอเพื่อนๆ นี้ ก็พอจะเชื่อถือได้บ้างแล้วว่าอร่อยเด็ด และรับประทานได้ เพราะเลดี้ดาริกาเองปลอดภัย และกินมาจนหนำใจแล้วหลายครั้ง


ร้าอาหารอร่อยที่เลดี้ดาริกาจะแนะนำเพื่อนๆ ในวันนี้เป็นก๋วยเตี๋ยว อาหารจานเส้นรสแซ่บ อร่อยเด็ด ถูกใจคนชอบรสจัดแน่ๆ เพราะรายการของร้านนี้ที่ขึ้นชื่อคือก๋วยเตี๋ยวรสจัด แต่คนไม่รับประทานรสจัดก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ เพราะมีให้เลือกหลายเมนู อร่อยหายห่วงทุกเมนูทีเดียว ร้านนี้คือ “ภูตะวันก๋วยเตี๋ยวฟ้าผ่า” ตั้งอยู่ริมถนนเลียบคลองชลประทาน ฝั่งที่จะขึ้นไปอำเภอแม่ริม หากขับรถมาจากแยกต้นพะยอม ก็ขับตรงไปอย่างเดียว และคอยสังเกตหอพักภูตะวันเอาไว้นะคะ มีเซเว่นอยู่ใกล้ๆ


ภูตะวันก๋วยเตี๋ยวฟ้าผ่าเป็นร้านอาหารริมถนนค่ะ โต๊ะที่จัดไว้ให้ลูกค้าก็วางเรียงรายอยู่ติดกับถนนนั่นเอง นั่งกินไปแรกๆ ก็แอบเสียวไส้เล็กน้อย เพราะมีรถยนต์วิ่งผ่านไปมาตลอดเวลา แต่ก็มีโต๊ะบางส่วนที่ตั้งอยู่บนยกพื้นใต้หลังคา ก็นั่งสะดวกดี สำหรับเพื่อนๆ ขวัญอ่อน (เพราะเลดี้ดาริกาก็เป็นค่ะ รถผ่านมาทีไรตกใจทุกครั้งกันทีเดียว)



อาหารหลักๆ ของร้านนี้คือเมนูก๋วยเตี๋ยวหลากหลายประเภท เลือกเส้นได้ตามชอบเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไป เส้นหมี่ บะหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่มีหมด และร้านนี้เน้นขายลูกชิ้นปลา และเนื้อปลา ถือว่าเป็นอาหารแนะนำของทางร้าน และมีเนื้อปลาแท้ 100% เป็นจุดขายค่ะ ดั้งนั้นหากมาร้านนี้แนะนำให้เพื่อนๆ ลองจัดก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา หรือเนื้อปลาดู อร่อย และดีต่อสุขภาพอีกด้วย ส่วนก๋วยเตี๋ยวนั้นมีทั้งเย็นตาโฟ ต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวแห้งหรือน้ำก็สั่งได้


เมนูแนะนำร้านนี้คงไม่พ้น “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อปลาฟ้าผ่า” ใช่แล้วค่ะ...ฟ้าผ่า อ่านไม่ผิดแน่ๆ คำนี้เป็นเหมือนเครื่องการันตีความแซ่บเผ็ดร้อนของร้าน ใครที่ลิ้นยังแข็งแรงก็จัดไปเลย เพราะรสชาติเผ็ดแซ่บแสบทรวงมากๆ และอร่อยสุดๆ ไปพร้อมๆ กัน ยิ่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อปลาด้วยแล้วก็ยิ่งอร่อยครบสูตร


หากเพื่อนๆ ไม่ชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวทางร้านก็ยังมีเมนูอาหารอื่นๆ มานำเสนอ พวกอาหารจานเดียว เช่น ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ และข้าวขาหมู  สนนราคาอาหารของร้านก็ไม่แพงค่ะ อยู่ในระดับของราคาร้านอาหารทั่วๆ ไป ร้านจะเปิดแต่เฉพาะตอนเย็นๆ นะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  915
27  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมูเชียงใหม่ / อร่อยอาหารจานด่วน “ข้าวหมูแดงนครปฐม” เมื่อ: สิงหาคม 20, 2014, 11:09:13 PM
อร่อยอาหารจานด่วน “ข้าวหมูแดงนครปฐม”


วันนี้เลดี้ดาริกาจะพาเพื่อนๆ ชาวทริปเชียงใหม่ตระเวนชิมของอร่อยๆ ในเมืองเชียงใหม่กันอีกครั้ง เพื่อนๆ คะ เมนูที่เรียกได้ว่ายอดฮิต เพราะปรุงง่าย รับประทานง่าย อิ่มอร่อยได้โดยใช้เวลาไม่นานมีอะไรกันบ้าง? พอนึกออกไหมคะ...คำตอบของคนส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้น ข้าวผัดกะเพราะ (กลายเป็นอาหารประจำชาติไปเสียแล้ว) ข้าวผัด ข้าวมันไก่ เป็นต้น แต่อีกเมนูหนึ่งที่อยู่คู่ชีวิตของคนไทยมายาวนานคือ “ข้าวหมูแดง” และอาหารประเภทหมูแดงและหมูกรอบทั้งหลายนั่นเอง


เมื่อพูดถึงอาหารจานหมู ไม่ว่าจะเป็นหมูแดง หมูกรอบ เราก็มักนึกถึงจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูที่สำคัญของประเทศ จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่อาหารจานหมูทั้งหลายจะปะยี่ห้อ การันตีคุณภาพกันด้วยชื่อ “นครปฐม” เปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้าที่การันตีความอร่อยไปในตัว คอนเซ็ปต์เดียวกับก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ฯ ก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิต หรืออยุธยา


“ร้านข้าวหมูแดงนครปฐม” คือร้านอาหารจานหมูที่เราอยากแนะนำเพื่อนๆ ในวันนี้ ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนห้วยแก้วค่ะ ตรงข้ามกับวิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ เยื้องๆ กับกาดรินคำ ถือเป็นอีกร้านหนึ่งที่เลดี้ดาริกาไปรับประทานบ่อยๆ เนื่องจากอาหารจานเด็ด “ข้าวหมูแดง” ของที่นี่ราดน้ำซอสหมูแดงที่รสชาติไม่เข้มจัดเกินไป แบบที่เลดี้ดาริกาชอบ และสีก็อ่อน ไม่จัดจนน่ากลัวเหมือนบ้างร้าน (น่ากลัว เพราะไม่รู้ว่าผสมสีอะไรลงไปบ้าง จึงมีสีออกแดงจัดขนาดนั้น เดี๋ยวนี้อาจจะใช้สีผสมอาหาร แต่ก็ใช่ว่าการใช้สีในปริมาณมากจะดีต่อสุขภาพ ดังนั้นการเลือกปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุดค่ะ)



นอกจากข้าวหมูแดงแล้ว ยังมีเมนูหมูๆ อื่นๆ ให้เพื่อนๆ ได้เลือกรับประทานอีก ทั้งประเภทข้าว และประเภทเส้น มีข้าวหน้าหมูกรอบ หรือใครอยากรับประทานควบสองจะสั่งข้าวหมูแดงกับหมูกรอบมาในจานเดี๋ยวก็ได้ อาหารประเภทเส้นที่นี่เน้นก๋วยเตี๋ยวหมูแดง มี่เส้นทุกชนิด ตั้งแต่เส้นหมี่ บะหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ และเกี้ยว แต่ดูเหมือนเส้นที่เหมาะกับหมูแดงหมูกรอบคงจะหนีไม่พ้น “เส้นบะหมี่” ทำจากแป้งผสมไข่สีเหลืองนวล น่ารับประทาน หรือจะเลือกเป็นเมนูข้าวขาหมู เกาเหลาเลือดหมู รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ที่นี่ก็มีให้เลือกรับประทานเหมือนกันค่ะ


นอกจากนี้ราคาอาหารที่นี่ก็ยังไม่แพงจนเกินไป เป็นราคากลางๆ 30 – 40 บาทเท่านั้น ร้านมีโต๊ะให้นั่งมาก แต่ในช่วงเวลาสายๆ ถึงพักเที่ยง บางทีคนเยอะ ต้องรอจังหวะเวลากันหน่อย หากเพื่อนๆ กำลังมองหาร้านอาหาร เป็นคนอยากสัมผัสรสชาติอาหารที่หลากหลาย หรืออยากรับประทานอาหารจานหมูต้นตำหรับนครปฐม ก็เชิญได้ที่นี่เลยค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  905
28  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / เที่ยว “วัดพระพุทธบาทสี่รอย” เล่าตำนานการเกิดพระพุทธบาท เมื่อ: สิงหาคม 20, 2014, 11:03:03 PM
เที่ยว “วัดพระพุทธบาทสี่รอย” เล่าตำนานการเกิดพระพุทธบาท


สวัสดีเพื่อนๆ ชาวทริปเชียงใหม่อีกครั้ง วันนี้เลดี้ดาริกาจะขอพาเพื่อนๆ ไปเยี่ยมชมพระอารามแห่งหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญในระดับต้นๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดีพอสมควรในหมู่นักท่องเที่ยว และผู้เลื่อมใสศรัทธา ปลายทางของเราในวันนี้อยู่ที่ “วัดพระพุทธบาทสี่รอย” พระอารามนอกเมืองเชียงใหม่



ที่กล่าวว่าวัดพระพุทธบาทสี่รอยนี้เป็นพระอารามนอกเมืองนั้น ก็เนื่องจากวัดสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ส่วนใหญ่เป็นวัดที่ได้รับการทำนุบำรุงรักษาโดยพระเจ้าแผ่นดิน และตั้งอยู่ภายในเขตเมืองเชียงใหม่ อาทิ วัดพระสิงห์ และวัดเจดีย์หลวง เป็นต้น แต่วัดพระพุทธบาทสี่รอยที่เรากำลังพาเพื่อนๆ ไปเยี่ยมชมอยู่นี้ ตั้งอยู่ที่ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ ๓๒ กิโลเมตร



การเดินทางจากเมืองเชียงใหม่ทำได้โดยการขับรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์หากชำนาญเส้นทาง และชอบการผจญภัย โดยใช้เส้นทางเชียงใหม่ – เชียงดาว จนถึงเขตตำบลสะลวง เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางลาดยาง จนถึงวัดป่าตึง ไปตามป้ายบอกทางเรื่อยๆ (เส้นทางบังคับอยู่แล้ว เข้าใจง่าย) พ้นเขตหมู่บ้านเส้นทางจะเปลี่ยนเป็นถนนลูกรัง และลัดเลาะผ่านแนวภูเขา เส้นทางค่อนข้างเปลี่ยว ควรระมัดระวัง




ตามตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จออกโปรดสัตว์และเผยแผ่พระธรรมคำสอนมายังดินแดนที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบันพร้อมด้วยพระสาวกประมาณ ๕๐๐ รูปมาจนถึงภูเขาลูกหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศไทยปัจจุบัน เรียกว่า “ภูเขาเวภารบรรพต” พระพุทธองค์ก็ได้รู้ด้วยญาณว่าบนเทือกเขาแห่งนี้เคยมีพระพุทธเจ้าอีก ๓ พระองค์เสด็จมาเยือนแล้ว ได้แก่ พระพุทะเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ และพระพุทธเจ้ากัสสปะ และทุกพระองค์ประทับพระบาทลงบนก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งบนภูเขาลูกนี้


พระพุทธองค์จึงกล่าวกับพระอานนท์ว่าในเมื่อพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์เสด็จประทับรอยพระพุทธบาทบนหินทั้งสิ้น แม้แต่พระศรีอาริยเมตไตรซึ่งจะเสด็จมาตรัสรู้ในอนาคตก็จะมาประทับรอยพระบาทลงบนรอยเท้าทั้งหมดเพื่อให้กลายเป็นรอยเท้าเดียว พระพุทธองค์จึงประทับรอยพระบาทของตนซ้อนลงบนรอยเดิมทั้งสาม กลายเป็น “พระพุทธบาทสี่รอย” พร้อมทั้งอธิฐานจิตว่าเมื่อตนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว ให้เทวดาทั้งหลายนำพระธาตุมาบรรจุที่พระพุทธบาทองค์นี้ เดิมมีชื่อเรียกตามตำนานว่า “พระพุทธบาทรุงรัง” หรือ “พระพุทธบาทรังเหยี่ยว”



ตามที่เล่าให้ฟังไปแล้วนั้น “โบราณวัตถุ” ชิ้นสำคัญของพระอารามแห่งนี้คือ “พระพุทธบาท” ซึ้งมีรอยประทับทั้งสิ้น ๔ รอย รอยแรกยาว ๑๒ ศอก เป็นของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยที่สองยาว ๙ ศอก เป็นของพระพุทธเจ้ากัสสปะ รอยถัดมายาว ๗ ศอกเป็นของพระพุทธเจ้าโกนาคม และรอยสุดท้ายเป็นรอยที่มีความยาว ๔ ศอก เป็นของพระพุทธเจ้าโคตม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน


นอกจากโบราณสถานที่สำคัญแล้วยังมีสถาปัตยกรรมอื่นๆ ภายในวัดที่สวยงามและน่าสนใจอีก โดยเฉพาะวิหารจตุรมุข ทรงมณฑป คือมีหน้ามุขยื่นออกไปสี่ทิศ เรือนยอดเป็นยอดปราสาท ยกฉัตร โดดเด่นและสง่างาม ตัวอาคารประดับประดาด้วยลวดลายวิจิตรงดงาม ทางเข้าขนาบด้วยปูนปั้นมกรคายนาคทุกด้าน ภายในวิหารก็วิจิตรงดงามด้วยการประดับประดาลวดลาย และงานจิตรกรรมไม่แพ้ภายนอก ประดิษฐานพระประธานของวัดเอาไว้ ส่วนรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ในวิหารครึ่งไม้ครึ่งหินอ่อน สร้างขึ้นเรียบง่าย หน้าบันประดับลวดลายพรรณพฤกษา ต้นเสาภายในและบางส่วนของหน้าบันตกแต่งด้วยกระจกสีสวยงาม


แม้การเดินทางมายังพระอารามแห่งนี้จะเป็นเรื่องลำบากสำหรับคนไม่ชำนาญเส้นทาง แต่ภายในวัดก็ไม่เคยว่างเว้นจากผู้ศรัทธาด้วยหัวใจที่พากันเดินทางมากราบไหว้พระพุทธบาทเพื่อความเป็นสิริมงคล เพื่อนๆ ควรหาโอกาสมาเยี่ยมชมสักครั้งหากมีเวลา

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :01:
29  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / เที่ยว “วัดสันก้างปลา” ชมงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่รับใช้พระศาสนา เมื่อ: สิงหาคม 13, 2014, 10:22:20 PM
เที่ยว “วัดสันก้างปลา” ชมงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่รับใช้พระศาสนา

หวังว่าเพื่อนๆ คงจะไม่เบื่อกันเสียก่อน เพราะวันนี้เลดี้ดาริกาจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยววัดกันอีกแล้ว อย่างที่พูดๆ มาแล้วหลายครั้ง “วัด” กับเมืองเชียงใหม่เป็นของคู่กัน นั่นแสดงให้เห็นว่าดินเดนล้านนามีพระพุทธศาสนาเป็นแกนกลางของสังคม แต่ในมิติปัจจุบันวัดไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานอีกต่อไป แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีของคนท้องถิ่นอีกด้วย


ในบทความนี้เป็นการเขียนเรื่องราวต่อเนื่องจากการเดินทางไปเที่ยวย่านสันกำแพงครั้งก่อน และมีวัดที่น่าสนใจเก็บไว้หลายแห่ง ตั้งใจจะมารีวิวเล่าขานให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไป “วัดสันก้างปลา” ค่ะ ก่อนจะเข้าไปเที่ยวกัน ต้องบอกกล่าวเพื่อนๆ ไว้ก่อนตรงนี้เลยนะคะว่าที่นี่เป็นสถานปฏิบัติธรรม แต่งกายเรียบร้อย และระวังสำรวมกิริยาวาจาเสมอ



วัดสันก้างปลา ตั้งอยู่ที่ตำบลทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดสังกัดมหานิกายที่เน้นการเจริญจิตภาวนาและปฏิบัติธรรมค่ะ มีทั้งการอบรมธรรมให้เยาวชน และบุคคลทั่วไปที่สนใจ แต่ที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันในวันนี้คือสถานที่สวยๆ ภายในวัดค่ะ



เข้ามาในเขตวัดแล้วพบกับต้นไม้ ทำให้รู้สึกร่มรื่น และสงบมากๆ เหมาะกับการปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง สถาปัตยกรรมภายในวัดไม่ได้เป็นแนวประเพณีนิยม แต่เป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่ออกแบบได้น่าสนใจ น่าเที่ยวชมมากๆ เพราะไม่เพียงแค่ความร่วมสมัยเท่านั้นที่ดึงดูดให้เราเข้าไปหา แต่สถาปัตยกรรมเหล่านี้ยังคงรักษาเอกลักษณ์และความรู้สึกของท้องถิ่นเอาไว้ สอดประสานสวยงามและลงตัวทีเดียว พร้อมแล้วเข้าไปเยี่ยมชมกันเลย



สถานที่แรกที่จะนำเสนอคือ “พระวิหารวัดสันก้างปลา” เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทรงไทยประยุกต์ มองภายนอกเรียบง่าย ไม่ตกแต่งลวดลายจนวิจิตรพิสดาร แต่ก็สวยงามด้วยลายเส้นของงานสถาปัตยกรรม โครงสร้างดูแข็งแกร่งแบบสมัยนิยม แต่จั่วโค้งของพระวิหารก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อ่อนไหว และอารมณ์ของงานสถาปัตยกรรมท้องถิ่นได้ดี


ภายในพระวิหารตกแต่งอย่างเรียบง่าย เส้นโค้งของอาคารให้ความรู้สึกสงบและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน พระประธานในพระอุโบสถขนาดไม่ใหญ่โตเหมือนวัดอื่นๆ แต่ก็เป็นงานประติมากรรมที่สวยงามสมยุคสมัย ตั้งอยู่บนฐานชุกชีหินแกรนิตสีดำสนิท ขนาบข้างด้วยประติมากรรมพระสาวกเบื้องซ้ายและขวา ฉากหลังดูเป็นคลื่นมีมิติ ไล่สีน้ำเงิน ยอดฉากสีแดงสดใส กระจกหน้าต่างประดับลวดลายเทวดาสีสันสดใส แต่ไม่รกตาจนเกินไป ทำให้ดูเป็นงานอาร์ตร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น


เพื่อนๆ หลายๆ คนเมื่อไปวัดก็มังจะคุ้นเคยกับความวิจิตรอลังการของสถาปัตยกรรม นั่นก็เพราะในอดีตเราให้ความสำคัญกับพระศาสนามากและทุ่มเทพลังแรงกายแรงใจ รวมไปถึงกำลังทรัพย์ที่มีเพื่องานพระศาสนา แต่สำหรับปัจจุบัน สังคมวุ่นวาย ทำให้เรื่องทางใจสำคัญกว่า งานสถาปัตยกรรมก็ผันแปรไปตามยุคสมัยที่หลงใหลในความเรียบง่าย และคลาสสิกกันมากขึ้น

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :111:
30  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำ ตลาดเชียงใหม่ กาดเจียงใหม่ กาดหมั้ว / ดินเนอร์เรียบๆ ราคาประหยักที่ “กาดฝายหิน มอชอ” เมื่อ: สิงหาคม 13, 2014, 10:16:14 PM
ดินเนอร์เรียบๆ ราคาประหยักที่ “กาดฝายหิน มอชอ”

มอชอ (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ไม่ได้เป็นเพียงแค่มหาวิทยาลัยที่มีคนอยากเข้าศึกษาเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่ที่นี่ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่ม หลายปีที่ผ่านมามอชอมีโอกาสต้อนรับผู้มาเยือนหลากหลายเชื้อชาติและภาษา ไม่ใช่แค่นักศึกษา แต่รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ เพราะที่นี่คือมหาวิทยาลัยที่มีเสน่ห์ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ และสงบงามตามแบบฉบับล้านนา



ก่อนหน้านี้เลดี้ดาริกาเคยพาเพื่อนๆ ไปชิมกาแฟริมอ่างแก้ว สัญลักษณ์สำคัญอีกแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ครั้งนี้จึงอยากพาเพื่อนๆ ไปหาของกินอร่อยๆ ที่ “กาดฝายหิน” หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “ตลาดร่มสัก” เพื่อนๆ นักศึกษาชาวมอชอคงคุ้นเคยกันดีแล้ว แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นนักท่องเที่ยว จะลองมาสัมผัสวิถีแบบนักศึกษามอชอกันก็น่าสนใจไม่น้อย



กาดฝายหิน หรือตลาดร่มสัก ไม่ใช่ตลาดสด หรือตลาดนัดตามคำเรียกขานอย่างที่เราคุ้นเคย แรกๆ เลดี้ดาริกาเองก็มีภาพตลาดแบบนั้นอยู่ในหัวไม่ต่างจากหลายๆ คนที่ได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรก แต่ที่นี่คือศูนย์อาหาร แหล่งรวมของกินเล่นยามว่าง หรือจะเป็นอาหารมื้อหนัก บางคนเรียกว่า “กาดแลง” ที่เรียกแบบนี้ก็เพราะเปิดเฉพาะตอนเย็นๆ (“แลง” ภาษาเหนือและภาษาอีสานแปลว่า “ตอนเย็น”)



“ตลาด” (อืม...หรือจะเรียกว่าศูนย์อาหารก็คงจะได้) แห่งนี้เกิดขึ้นจากเหตุผลง่ายๆ แสนคลาสสิก คือเพื่อรองรับนักศึกษาและบุคลากรที่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัย เป็นสวัสดิการที่คัดเลือกร้านอาหารคุณภาพ ควบคุมราคาโดยมหาวิทยาลัย จึงอิ่มท้องได้แบบราคานักศึกษา สบายกระเป๋า และอร่อยคลาสสิก ฮ่าๆ



อาหารขึ้นชื่อของกาดแห่งนี้ที่ใครๆ ในมอชอก็อยากลิ้มลอง แถมยักแนะนำต่อๆ กันจนกลายเป็นจุดขายของตลาดก็คือ “สลัด” หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ “สลัดฝายหิน” สลัดคุณภาพ รสชาติอร่อย มีทั้งสลัดผัก และผลไม้ให้เลือกตามชอบ เหมาะสำหรับสาวๆ นักศึกษาที่รักษารูปร่าง และคนรักสุขภาพอย่างยิ่ง ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่บอกต่อ แต่มีลงในเว็บไซต์แนะนำอาหารหลายแห่ง ไว้ครั้งหน้าเลดี้ดาริกาจะไม่พลาดพาเพื่อนๆ ไปชิม เจาะลึกเก็บรายละเอียดมาฝากว่ามันอร่อยอย่างไร


อาหารที่ขายที่นี่มีทั้งอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ของหวาน ผลไม้ และเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ ตามสไตล์ศูนย์อาหาร มีทั้งอาหารมาตรฐานทั่วไปและอาหารเหนือ มีหลากหลายให้เลือกชิมตามความชอบของเพื่อนๆ แน่นอน ลูกค้าของที่นี่มักเป็นนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัย แต่ไม่เพียงแค่นั้น คนจากภายนอกก็มีเข้ามาแจมมาอร่อยกับเขาด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าบริการทุกระดับประทับใจ


นอกจากอาหารจะมีให้เลือกมากมาย ราคาถูกแล้ว เรายังนั่งรับประทานอาหารกันสบายใต้ร่มสักและต้นไม้นานาชนิด อิ่มเอมใจไปกับธรรมชาติ และอิ่มท้องกับอาหารมื้อเย็นอีกด้วย

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  904
31  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / นั่งเล่นคลายร้อน ชมวิวแม่ปิงที่ “กาแฟวาวี ฮิมปิง” เมื่อ: สิงหาคม 13, 2014, 10:09:00 PM
นั่งเล่นคลายร้อน ชมวิวแม่ปิงที่ “กาแฟวาวี ฮิมปิง”

“กาแฟวาวี” คือชื่อแบรนด์ที่เรียกได้ว่ามีอิทธิพลต่อเลดี้ดาริกามากๆ ค่ะ เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เลดี้ดาริกาเป็นแบรนด์ลอยัลตี้ หรือเรียกกันเข้าใจง่ายๆ ว่า “ลูกค้า” ขาประจำของกาแฟแบรนด์นี้ล่ะสิคะ เป็นขาประจำขนาดที่หากวาวีมีโล้ประกาศเกียรติคุณลูกค้าจากการสะสมจำนวนแก้วแล้วล่ะก็ เลดี้ดาริกาคิดว่าไม่แพ้ใครแน่ๆ เพราะโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นกาแฟที่รสชาติดีถูกปาก เข้มข้นกำลังดี อิอิ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวมากๆ ค่ะ) ตอนนี้ย้ายมาอยู่กรุงเทพแล้ว กาแฟวาวีหาดื่มยาก (เค้าว่ามีสาขาแต่ยังหาไม่เจอเลย) คิดถึงมากๆ กลับเชียงใหม่ก็ต้องแวะไปเติมพลังกันทุกครั้งไป


เรียกได้ว่ากาแฟแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ไทยในภาคเหนือขนาดแท้ เพราะมีสาขาเยอะมากในเมืองเชียงใหม่ ราคาอยู่ในระดับกลางถึงสูง แต่ก็ไม่ได้แพงมหาโหดเหมือนกับกาแฟเจ้าดังจากแดนมะกัน (เจ้านั้นนานๆ จะได้กินสักครั้ง เงินไม่ถึงจริงๆ อิอิ) ล่าสุดไม่นานมานี้ ก็เพิ่งเปิดสาขาใหม่ไป ริมแม่น้ำปิงใกล้ๆ กับกาดหลวง



วันนี้เลดี้ดาริกาขอพาเพื่อนๆ มานั่งเล่นจิบเครื่องดื่มคลายร้อนแก้ง่วงหงาวหาวนอน สร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับชีวิตกันที่กาแฟวาวีสาขา “ฮิมปิง” หรือจะออกเสียงแบบคนภาคกลางว่า “ริมปิง” นั่นแหละค่ะ เพราะว่าร้านนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิงฝั่งตะวันออก ใกล้วัดเกตุการาม ตรงข้ามกับกาดหลวงนั่นเอง เป็นสาขาที่เลดี้ดาริกาชอบมากๆ ยามว่างหากมีเวลาก็จะมานั่งชมแม่น้ำปิง มองผู้คนเดินไปมา อิ่มเอมไปกับสายน้ำเส้นเลือดของเชียงใหม่และอีกหลายๆ จังหวัดภาคเหนือ เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญของประเทศ



แน่นอนว่าพูดถึงร้านกาแฟก็ควรจะมีเมนูเด็ดมานำเสนอเพื่อนๆ และเมนูแรกก็คงไม่พ้น “ลาเต้เย็น” เมนูโปรดของเลดี้ดาริกา ลาเต้เย็นตามสูตรของวาวีคืออันดับหนึ่งของเลดี้ดาริกามาตลอดค่ะ เพราะลาเต้ที่นี้มาแบบแยกชั้นกาแฟกับนม ทำให้เราสามารถละเลียดสัมผัสรสชาติอันละมุนละไมของลาเต้ได้อย่างเต็มที่ เป็นแบบที่เลดี้ดาริกาชอบมากๆ



อีกอย่างหนึ่งคือ “วาวีลาเต้” ซิกเนเจอร์หนึ่งของร้านที่ต้องลองสั่งมาดื่ม เพราะมีค่า “วาวี” การันตีเอาไว้ และแน่นอนว่าไม่ผิดหวังในเรื่องรสชาติ หากถามว่าต่างจากลาเต้เย็นอย่างไร วาวีลาเต้จะมาแบบไม่แยกชั้นกาแฟกับนมค่ะ แต่ก็อร่อยเข้ากันดี อีกเมนูหนึ่งเห็นในบ้างสาขา แต่บางสาขาก็ไม่มี นั้นก็คือลาเต้ชาเขียวรสกลมกล่อมนั่นเอง หรือเพื่อนๆ อยากจะดื่มเมนูอื่นๆ ร้านกาแฟวาวีก็มีเมนูให้เพื่อนๆ เลือก จะรับประทานของหวานไปด้วยก็อร่อยไม่น้อย



กาแฟวาวี ฮิมปิงสร้างเป็นกระท่อมสไตล์ล้านนาขนาดกะทัดรัดริมฝั่งน้ำปิง มีความทันสมัยและเอกลักษณ์แบบล้านนาสอดประสานอย่างลงตัว พื้นที่นั่งในห้องแอร์มีเล็กน้อย แต่ให้ความสำคัญกับชานเรือนด้านหลังร้านแบบโอเพ่นแอร์ ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ อาบไล้แสงอาทิตย์ ชมแม่น้ำไหลเอื่อยๆ เรือหางแมงป่องที่พานั่งท่องเที่ยวล่องชมแม่น้ำลำแล้วลำเล่า ไม่ไกลกันนักก็มองเห็นสะพานนวรัฐเชื่อมสองฟากฝั่งแม่น้ำเอาไว้ ประตูแห่งเมืองเชียงใหม่ยุคใหม่ ช่างเป็นภาพบรรยกาศคลาสสิกที่ใครไม่ได้ไปสัมผัสก็คงไม่เข้าใจ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :26:
32  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / “ก๋วยเตี๋ยวเรือโกเฮง” อร่อยเด็ดก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตในเมืองเชียงใหม่ เมื่อ: สิงหาคม 13, 2014, 10:02:44 PM
“ก๋วยเตี๋ยวเรือโกเฮง” อร่อยเด็ดก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตในเมืองเชียงใหม่

พักหลังมานี้เลดี้ดาริกามีโอกาสรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือบ่อยมากๆ เพราะใกล้ๆ ที่พักในกรุงเทพมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดอยู่เหมือนกัน มีโอกาสได้กินทุกอาทิตย์ ทุกครั้งที่ไปกินที่ร้านก็พาให้นึกถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าประจำในเมืองเชียงใหม่ “ก๋วยเตี๋ยวเรือโกเฮง”


เพราะอะไร? มันอร่อยมากขนาดนั้นเลยหรือ? ขอตอบว่าอร่อยมากๆ ทีเดียวค่ะ เมื่อตอนยังทำงานอยู่ที่ถนนห้วยแก้ว ก่อนเริ่มงานตอนเช้าต้องแวะรับประทานอาหารเช้าที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนี้เป็นประจำค่ะ ตอนแรกๆ ก็เพราะใกล้ที่ทำงาน แต่หลังๆ ไปรับประทานเพราะติดใจรสชาติเด็ดๆ ของร้านเสียแล้ว


ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือโกเฮงอยู่ที่ไหน? ใครผ่านไปผ่านมา ใช้ถนนห้วยแก้วเป็นประจำอาจจะสังเกตเห็นร้านนี้ เพราะตั้งอยู่ใกล้ๆ ร้านมอเตอร์ไซค์ตรงข้ามมหาวิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่พอดี


เมนูของทางร้านมีทั้งหมูและเนื้อ จะเลือกสดหรือเปื่อยก็ได้ตามชอบ หรือใครชอบรับประทานเครื่องในที่นี่ก็มีเหมือนกันนะคะ มีเส้นหลากหลายชนิดให้เลือก ทั้งเส้นหมี่ วุ้นเส้น บะหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เป็นต้น ก๋วยเตี๋ยวเรือจะเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปเข้มข้นที่ไม่ต้องปรุงก็อร่อยได้ เครื่องเน้นๆ ไม่เหนียวเครื่อง ผักคะน้าหั้นเป็นชิ้นรับประทานงาน ลวกสุกกำลังพอดี เคี้ยวแล้วกรุบๆ กรอบๆ อร่อยมากๆ


อาหารประจำยามเช้าของเลดี้ดาริกาที่รับประทานทุกวันคือ “เกาเหลาเนี้อ” กับข้าวสวยร้อนๆ น้ำซุปเข้มไม่ต้องพูดถึง รสชาติกลมกล่อม รับประทานอิ่มท้องพอดี ราคาไม่แพงเลยค่ะ มาตรฐานทั่วๆ ไป แต่คุณภาพและรสชาติต้องยกนิ้วให้ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่กลายเป็นขาประจำหรอกจริงไหม


ที่ร้านหากมาตอนเช้าจะมีที่นั่งว่างมากมาย ร้ายเปิดตั้งแต่เช้าเลยค่ะ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนชอบรับประทานอาหารเช้ารสเข้มข้นแบบไทยๆ เหมือนเลดี้ดาริกา คนจะเริ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเที่ยงจะเยอะมากๆ เพราะคนที่มำงานใกล้ๆ แถวนั้น และนักเรียนสารพัดช่างจะมารับประทานอาหารกลางวันกันค่ะ ใครอยากกินสบายๆ พอมีเวลา ไม่ต้องรีบร้อนมาก แนะนำให้ไปช่วงที่คนน้อยๆ เพราะจะได้ค่อยๆ ลิ้มรสชาติของก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าอร่อย


พูดถึงก๋วยเตี๋ยวเรือตรงนี้ เพื่อนๆ พอจะนึกออกไหมคะว่าพื้นที่ไหนในเมืองไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องก๋วยเตี๋ยวเรือ สำหรับเพื่อนๆ ที่คิดไม่ออกตอบไม่ถูก เลดี้ดาริกาขอบอกว่าต้องเป็น “อยุธยา” และ “รังสิต” ค่ะ ว่ากันว่าก๋วยเตี๋ยวเรือเริ่มมีชื่อเสียงจากแถบนี้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือทั่วประเทศเคลมว่าเป็นต้นตำรับจากกรุงเก่า “อยุธยา” หรือจะเป็น “รังสิต” ที่ไหนอดีตเต็มไปด้วยคูคลอง (ก็น่าจะมีก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่หรอก...จริงไหม)

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  902
33  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว ในตัวเมืองเชียงใหม่ / เดินเล่น Star Avenue ชิวแหล่งช้อปฯ พักผ่อนหย่อนใจใกล้อาเขต เมื่อ: สิงหาคม 13, 2014, 09:56:18 PM
เดินเล่น Star Avenue ชิวแหล่งช้อปฯ พักผ่อนหย่อนใจใกล้อาเขต

เชียงใหม่ยุคหลังๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ชุมชนในเขตเมืองมีการพัฒนาตัวเอง รวดเร็ว มีความเป็นเมืองมากขึ้น มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างไปจากแต่ก่อน เห็นได้จากการเพิ่มปริมาณของศูนย์การค้า ช้อปปิ้งมอลล์ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจประเภทจับจ่ายซื้อของ นั่งรับประทานอาหารในร้านสาขาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีโครงการต่างๆ ผุดมาให้เห็นตลอดเวลา ที่พูดนี่ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร มันก็เป็นเพียงกระแสสังคมที่เปลี่ยนผ่านไปตามยุคสมัย เป็นเรื่องธรรมชาติ


เลดี้ดาริกาในบทความนี้ขอทำตัวชิคๆ พาเพื่อนๆ ไปเดินเล่นที่ Star Avenue แปลแบบไทยๆ ว่าถนนสายดวงดาว (โก้เก๋มากๆ ฮ่าๆ) ช้อปปิ้งมอลล์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อไม่นานนี้ รองรับไลฟ์สไตล์คนเมือง ที่เรียกกันว่า “เมือง” จริงๆ ไม่ใช่คนเมืองในความหมายของ “คนล้านนา”



Star Avenue ตั้งอยู่บนถนนซุปเปอร์ไอเวย์ ใกล้ๆ กับสถานีขนส่งอาเขตที่ชาวเชียงใหม่รู้จักกันดี เมื่อก่อนมาเที่ยวเชียงใหม่ นั่งรอรถเป็นเวลาหลายชั่วโมงก็ไม่รู้จะไปเดินเล่นที่ไหนกันดี ตอนนี้ปัญหานั้นลืมไปได้เลยเพราะ Star Avenue กลายเป็นสถานที่ทางเลือกสำหรับคนที่อยากหากิจกรรมทำฆ่าเวลา



ภายในสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ ที่ออกแบบให้สะดุดตาดึงดูดลุกค้า แม้แต่ตัวอาคารเองก็เป็นแบบที่ทันสมัยเอาใจคนเจเนอเรชั่นนี้เสียจริงๆ มาดูกันว่าข้างในมีร้านอะไรน่าสนใจบ้าง


ที่นี่เป็นแหล่งรวมของอาหาร ทั้งอาหารหลักและอาหารว่าง พร้อมด้วยเครื่องดื่มเสร็จสรรพ มีทั้งร้านกาแฟ และร้านชานมไข่มุกอร่อยๆ เพื่อเติมความหวานให้กับวันที่เหนื่อยล้า ของกินก็มีหลากหลาย ที่น่าสนใจเห็นจะมี “ตำแซ่บเวอร์  by พี่แมว” สำหรับคนชอบรับประทาส้มตำตำหรับไฮโซ ที่มีให้เลือกหลากหลายเมนูครบสูตรส้มตำ เลดี้ดาริกาลองชิมดูแล้ว อร่อยเหมือนกันนะคะ นอกจากนี้ยังมี “ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัย” ใช้ชื่ออนุสาวรีย์ชัยการันตีความอร่อย เพราะเป็นย่านขึ้นชื่อเรื่องก๋วยเตี๋ยวเรือของบ้านเราเลยทีเดียว หลายๆ เดี๋ยวนี้นอกจากอยุธยากับรังสิตแล้ว ก็เคลมว่ามาจากอนุสาวรียชัยฯ กันด้วย ว้าว...แบบนี้คงจะต้องไปลองจัดกันดูว่าสมคำล่ำลือไหม



นอกจากนี้ยังมีสินค้าแฟชั่นมากมาย ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของน่ารักๆ และของจิปาถะอีกหลายร้าน โดยเฉพาะ DAISO (ไดโซะ) ร้านขายของมาตรฐานญี่ปุ่น ในญี่ปุ่นเรียกได้ว่าเป็นร้านร้อยเยนที่มีชื่อเสียงมากๆ ข้อมูลสำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่คุ้นว่าร้านนี้เขาขายอะไรกัน ขอเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่าเป็นของใช้จิปาถะหลายหลายชนิด มีเกือบทุกอย่างที่คุณอยากได้จริงๆ สนนราคาชิ้นละ 60 บาท แพงกว่าญี่ปุ่นหนึ่งเท่าทีเดียว เวลาช้อปแนะนำว่าให้เลือกดูว่าสินค้าชิ้นไหนที่คุ้มกับราคาก็จัดไปได้เลย


ชั้นบนของมอลล์จัดเป็นลานโล่งปูหญ้าเทียมสำหรับนั่งพักผ่อนสบายๆ ด้วย ครั้งหน้าเพื่อนๆ คนไหนที่ใช้บริการสถานีขนส่งอาเขต มีเวลาเหลือเฟือและเบื่อการคอยรถนานๆ ลองไปเดินเล่นกันดูนะคะ แต่อย่าเพลินจนลืมเวลารถออกล่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :22:
34  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำ ตลาดเชียงใหม่ กาดเจียงใหม่ กาดหมั้ว / เดินเล่นช้อปปิ้งยามเย็นที่ “กาดมาลินพลาซ่า” เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 02:01:45 AM
เดินเล่นช้อปปิ้งยามเย็นที่ “กาดมาลินพลาซ่า”

ตอนสมัยลงหลักปักฐานอยู่ที่กรุงเทพฯ เลดี้ดาริกามีแหล่งช้อปปิ้งประจำราคาสบายกระเป๋าให้เลือกมากมายหลายที่ แต่พอมาเชียงใหม่ก็เพราๆ เรื่องช้อปปิ้งไปมาก เหตุผลหนึ่งก็เพราะไม่รู้ว่าควรจะไปเดินเล่นช้อปปิ้งที่ไหนกันดี วันนี้เลดี้ดาริกาจึงขันอาสาพาเพื่อนๆ ไปเดินเล่นกาดมาลินพลาซ่า แหล่งช้อปปิ้งของคนหนุ่มสาวในเมืองเชียงใหม่กันค่ะ


“มาลินพลาซ่า” อยู่ใกล้ๆ กับกาดหน้ามอชอ ตรงข้ามกับด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถนนห้วยแก้ว ถ้าเป็นหนุ่มสาวเชียงใหม่ ยิ่งเป็นนักศึกษามอชอด้วยแล้วคงจะรู้จักกันดี สำหรับมือใหม่หัดเที่ยวเมืองเชียงใหม่ ก็ไม่ยากอะไรค่ะ โบกรถแดงแล้วบอกว่าไปหน้ามอชอ หรือขับรถไปตามถนนห้วยแก้ว มุ่งไปทางดอยสุเทพ บริเวณหน้ามอชอมีคนพลุกพล่าน เป็นสัญญาณว่าถึงที่หมายแล้ว



กาดมาลินพลาซ่าแห่งนี้สร้างขึ้นบนเนื้อที่กว้างใหญ่ แบ่งเป็นโซนๆ เพื่อจำหน่ายสินค้าแต่ละประเภท โซนโรงอาหารที่มีร้านอาหารมากมายเรียงรายให้เลือกรับประทาน โซนร้านอาหารที่ส่วนใหญ่ก็เป็นประเภทปิ้งย่าง หรืออาหารประเภทที่ควรรับประทานกันหลายคนเพื่อความสนุกสนาน และโซนช้อปปิ้ง ซึ่งมีสินค้ามากมาย ราคาย่อมเยา และต่อรองราคาได้ วางเรียงรายให้คุณเลือกซื้อหาได้อย่างเพลิดเพลินทีเดียว



ตะวันตกติด เย็นย่ำลงหน่อย กาดมาลินพลาซ่าก็จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะนักศึกษาที่ออกมาเดินเล่น ซื้อของบ้าง หาอาหารเย็นรับประทานกันบ้าง หรือพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้าง ช่างเป็นบรรยากาศที่ทำให้คนเลยวัยเรียนอย่างเลดี้ดาริกากระชุ่มกระชวย พาให้นึกถึงเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ชีวิตช่วงนั้นมีความสุขมากๆ เลยค่ะ



สินค้าที่วางขายในกาดแห่งนี้ ก็เป็นสินค้าทั่วไปที่เราต้องใช้ หรือสินค้าแฟชั่นต่างๆ อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง มีทั้งของใหม่ มือสอง และของทำมือที่มีในปริมาณจำกัด ราคาสินค้าแตกต่างหลากหลาย มีตั้งแต่ถูกๆ ไปจนถึงราคาแพง แต่ก็ไม่ได้แพงขนาดของขึ้นห้าง ที่สำคญตลาดแบบนี้ต่อรองราคากันได้ ถูกใจเลดี้ดาริกามากๆ มาเดินเล่นทีไรนอกจากอิ่มจนท้องปลิ้นแล้ว ยังได้ของติดไม้ติดมือกลับไป กระเป๋าปลิ้นทีเดียวค่ะ (ฮา)



เพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหาแหล่งช้อปปิ้ง เดินเล่นกินลมยามเย็น หาของทานเล่น หรืออาหารมื้อใหญ่สุดแสนอร่อยๆ รับรองว่าเพื่อนๆ จะไม่พลาดถ้าได้มาเดินที่มาลินพลาซ่า เพราะที่นี่นอกจากจะอิ่มท้องแล้ว ยังมีที่ให้เดินเล่นย่อยอาหาร หาของติดไม้ติดมือกลับไปบ้าน แต่ต้องแอบเตือนเพื่อนไว้สักนิดว่าอย่ามาช่วงไม่มีตังค์นะคะ เพราะมันจะทำให้หงุดหงิดมากที่ไม่ได้ช้อปปิ้ง

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :111:
35  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / เที่ยววัดต้นเหียว ชมหอธรรมหลังเก่าอันทรงคุณค่า เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 01:52:35 AM
เที่ยววัดต้นเหียว ชมหอธรรมหลังเก่าอันทรงคุณค่า

ขับรถไปตามถนนสายเชียงใหม่-ลำพูนสายเก่า ที่ขนาบข้างด้วยต้นยางสูงใหญ่เก่าแก่ คอยให้ความร่มรื่นกับผู้สัญจรไปมา บนถนนเก่าแก่สายนี้ เป็นที่ตั้งของวัดวาอารามที่น่าสนใจหลายแห่ง และเมื่อถึงเขตตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี ก่อนถึงเขตจังหวัดลำพูนไม่ไกลนัก มีพระอารามแห่งหนึ่งตั้งอยู่ มีความน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว “วัดต้นเหียว” คือสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเลดี้ดาริกาจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกันวันนี้


วัดต้นเหียว เป็นวัดราษฎร์เล็กๆ ตั้งอยู่ในเขตตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ตามประวัติทราบว่าสร้างขึ้นราวๆ ปี พ.ศ. ๒๓๘๖ อายุเก่าแก่ประมาณ ๑๗๑ ปี หากเทียบกับวัดวาอารามหลายๆ แห่งในเมืองเชียงใหม่ วัดต้นเหียวอาจมีความเก่าแก่น้อยกว่า แต่อย่างไรก็ตามภายในบริเวณวัดแห่งนี้ มีสถาปัตยกรรมและโบราณวัตถุที่น่าสนใจ น่าศึกษาเรียนรู้ซ่อนอยู่


“หอธรรม” หรือที่คนภาคกลางรู้จักกันในชื่อ “หอไตร” สถานที่เก็บรวบรวมพระไตรปิฎก หัวใจของคำสอนในพระพุทธศาสนาเอาไว้ คือโบราณวัตถุทรงคุณค่าชิ้นแรกของวัด หอธรรมแห่งนี้ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นพร้อมๆ กับวัดต้นเหียว สร้างขึ้นราวๆ ปี พ.ศ. ๒๔๕๒ อายุประมาณ ๑๐๕ ปี



ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของหอธรรมวัดต้นเหียวนั้นมีความพิเศษกว่าวัดทั่วไปในล้านนา เพราะวัดทั่วไปส่วนใหญ่นิยมสร้างหอธรรมเป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่างก่ออิฐถือปูนเพื่อความแข็งแรง ส่วนชั้นบนนิยมสร้างด้วยไม้ในลักษณะของสถาปัตยกรรมล้านนาย่อส่วน



หอธรรมวัดต้นเหียวเป็นอาคารปูนชั้นเดียว เสาสี่เหลี่ยม ต้นใหญ่และทึบตัน ทางเข้าด้านหน้าเป็นมุขยื่นออกมาเล็กน้อย ประตูโค้ง กรอบประตูประดับด้วยกระจกสีเรียบง่าย คล้ายลักษณะสถาปัตยกรรมยุโรป โครงสร้างหลังคาสร้างด้วยไม้แบบเรียบๆ หน้าบันกรอบกลางประดับกระจกสีเป็นลายเลขาคณิต รอบๆ เป็นไม้แกะสลักลายลายพรรณพฤกษา มองแล้วแปลกตาดี


พระวิหารของวัดต้นเหียวเป็นพระวิหารสร้างใหม่ตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์ ลวดลายวิจิตรงดงาม ตัวอาคารเน้นโทนสีเขียวและทอง บันไดทางขึ้นพระวิหารด้านหน้าขนาบด้วยปูนปั้นพญานาคตามแบบธรรมเนียมนิยม หน้าบันประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษา ฝาผนังเขียนลวดลายจิตรกรรม เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ


ด้านหลังพระวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ประธานของวัด เป็นเจดีย์ขนาดเล็ก ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาผสมไทยใหญ่ ตัวฐานเจดีย์ย่อเก็จแบบล้านนา รองรับองค์ระฆังขนาดเล็ก ประดับกระจกสีสวยงาม ปล่องไฉนและยอดฉัตรมีกลิ่นอายของศิลปะพม่าชัดเจน ที่ฐานเจดีย์ทั้งสี่ด้านมีเจดีย์บริวารขนาดเล็กประดับอยู่


นอกจากสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจแล้ว วัดต้นเหียวยังเก็บรักษาโบราณวัตถุอื่นๆ ที่น่าสนใจไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและเป็นสมบัติของท้องถิ่นสืบไป อาทิ หน้าจั่ว นาคกระตันของวิหารหลังเก่า และกลองหลวง ซึ่งในอดีตใช้ในงานเฉลิมฉลองต่างๆ ผู้ตีจะต้องเป็นชายที่มีรูปร่างกำยำ เพราะต้องออกแรงมากเวลาตี ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของชุมชนชาวเหนือ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  902
36  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / เที่ยววัดทรายมูลเมือง เคียงคู่วัดทรายมูลพม่า เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 01:45:49 AM
เที่ยววัดทรายมูลเมือง เคียงคู่วัดทรายมูลพม่า

หากเพื่อนๆ คนไหนติดตามรีวิววัดวาอารามต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่ของเลดี้ดาริกา ก็คงจะพอจำกันได้ว่า ครั้งหนึ่งเราเคยนำเสนอเรื่องราวของวัดทรายมูลไปแล้ว แต่วัดนั้นมีชื่อเต็มๆ ว่า “วัดทรายมูลพม่า” ซึ่งมีบรรยากาศเหมือนวัดในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของเรา แต่วัดทรายมูลจริงๆ แล้วมี ๒ วัดค่ะ วัดหนึ่งคือทรายมูลพม่าอย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปแล้ว ส่วนอีกวัดหนึ่งชื่อว่า “วัดทรายมูลเมือง” เป็นพระอารามที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกันค่ะ


วัดทรายมูลเมือง เป็นวัดเล็กๆ ตั้งอยู่บนถนนมูลเมือง ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ให้หน้าให้กลับคูเมืองเชียงใหม่ บริเวณใกล้ๆ กับแจ่งคูเมือง วัดทรายมูลเมืองมีขนาดเล็ก และมีบริเวณติดกันวัดทรายมูลพม่า ราวกับเป็นพี่น้องกัน วัดทรายมูลเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๐๓๐ มีอายุเก่าแก่กว่า ๕๒๗ ปีแล้ว ตามประวัติของวัดกล่าวถึงที่มาของชื่อ “ทรายมูล” ว่าในอดีตบริเวณนี้มีหนองน้ำเรียกว่า “หนองทรายมูล” เป็นจุดที่ลำน้ำจากดอยสุเทพไหลลงมาบรรจบกัน บางตำรากล่าวว่าเดิมชื่อว่า “อารามบ้านปะ” ซึ่งหมายถึงจุดที่น้ำหลายสายไหลมาบรรจบกัน คำว่า “ปะ” ภาษาเหนือหมายถึง “พบ”



วัดทรายมูลเมืองดูผิวเผินก็เป็นเพียงวัดเล็กๆ ที่ไม่ได้มีความวิจิตรพิสดารเป็นพิเศษแต่อย่างใด แต่เรื่องราวของวัดวาอารามในเมืองเชียงใหม่นั้นล้วนแล้วแต่น่าสนใจและน่าค้าหา เลดี้ดาริกาจึงไม่พลาดที่จะพาเพื่อนๆ เดินเข้าไปเที่ยวชมภายในบริเวณวัดด้วยกัน


พระวิหารของวัดแห่งนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ฝีมือช่างท้องถิ่น เรียบง่าย ไม่วิจิตรอลังการเหมือนพระอารามสำคัญๆ ในเมืองเชียงใหม่แห่งอื่นๆ เสาเป็นเสาปูนสี่เหลี่ยมเรียบๆ รองรับหลังคาซ้อนลดหลั่นกันสองชั้น หน้าบันประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษา ด้านบนประดับด้วยปูนปั้นพระพุทธรูปในท่าประทับยืน ทวารบาลไม่ใช้พญานาคหรือสิงห์ล้านนาตามแบบที่นิยมกันทั่วไป แต่เป็นยักษ์สองตน ซึ่งน่าจะเป็นอิทธิพลความเชื่อจากภาคกลาง


พระอุโบสถเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดเล็ก เรียบง่าย ด้านหน้ามีสิงห์แบบล้านนาสองตัวยืนขนาดบันทางขึ้น โครงสร้างหลังคาตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนาทั่วไป หน้าบันประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษา



พระเจดีย์ประธานของวัดเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมย่อเก็จ รองรับฐานทรงกลมซ้อนลดหลั่นกันสามชั้น ต่อด้วยองค์ระฆัง บัลลังก์แปดเหลี่ยม และยกยอดฉัตร ลักษณะคล้ายพระธาตุหริภุญไชยที่จังหวัดลำพูน แต่มีขนาดเล็กกว่า สัดส่วนสวยงามดี



นอกจากสถาปัตยกรรมต่างๆ ในเขตพุทธาวาสแล้ว ในส่วนของกุฏิหรืออาคารที่ทำการต่างๆ ของวัดก็ยังน่าสนใจ แม้ว่าจะดูผ่านๆ แล้วเป็นเพียงอาคารไม้ธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่นหรือน่าสะดุดตา แต่หากสักเกตบริเวณหน้าจั่วของอาคารดีๆ จะพบว่าประดับด้วยงานแกะสลักไม้ และฉลุลายไม้อันวิจิตรงดงาม เก่าแก่ควรค่าแก่การอนุรักษณ์เอาไว้


แม้วัดทรายมูลเมืองจะเป็นเพียงวัดเล็กๆ แต่หากเพื่อนๆ มีเวลาก็อยากให้ลองเข้าไปสัมผัสความเรียบง่ายแบบวัดท้องถิ่นกันดูบ้าง เข้ามาวัดทรายมูลเมือง แล้วเลยไปนิดเดียวเที่ยววัดทรายมูลพม่าได้ด้วย

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onion2012:
37  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / ตามรอยภาพยนตร์ เยี่มชม “วัดเชตุพน” เมืองเชียงใหม่ เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 01:36:14 AM
ตามรอยภาพยนตร์ เยี่มชม “วัดเชตุพน” เมืองเชียงใหม่

เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ทำรายในระดับดี “Suckseed” เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นวัยเรียน ความรัก และการตามความฝัน ฉากของหนังเรื่องนี้คือเมืองเชียงใหม่ และโรงเรียนของตัวเอกในบทภาพยนตร์มีชื่อว่า “โรงเรียนเชตุพนศึกษา” ด้วยไม่ใช่คนเชียงใหม่แต่อ้อนแต่ออก จึงไม่เคยรู้เลยว่าจริงๆ แล้วมีสถานศึกษาชื่อนี้อยู่จริงๆ จนกระทั่งวันหนึ่งขับรถผ่านไปทางถนนแก้วนวรัฐ จึงสังเกตเห็นป้ายชื่อ “วัดเชตุพน” และมีป้ายชื่อโรงเรียนอยู่ด้วย จึงตั้งใจว่าจะต้องเข้าไปสำรวจวัดแห่งนั้นให้ได้ (ตามรอยหนังเหมือนแฟนคลับซีรีส์เกาหลีกันทีเดียวค่ะ ฮ่าๆ)


ใช่แล้วค่ะ วันนี้เลดี้ดาริกาจะพาเพื่อนๆ ไปเยือนวัดเชตุพนกันค่ะ วันเชตุพนตั้งอยู่ในเขตตำบลวัดเกต อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง หากเพื่อนๆ ขับรถมาจากตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ข้ามสะพานแก้วนวรัฐ และวิ่งตรงไปตามถนนไม่นานก็จะเห็นป้ายบอกทางไปวัดและโรงเรียนชัดเจน การเดินทางไม่ยากเลยค่ะ



ว่ากันว่าพระอารามแห่งนี้มีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี แต่ก็ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างแน่ชัด พระอารามแห่งนี้ได้รับการบูรณะฟื้นฟูครั้งยิ่งใหญ่ในสมัยของเจ้าหลวงอินทวิชยานนท์แห่งราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน หรือทิพยจักราธิราชย์ ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 160 ปีแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้พระอารามแห่งนี้ก็คงจะสร้างขึ้นแล้ว เพราะปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีหลายจุดภายในบริเวณวัด อาทิ แนวกำแพงเก่า ฐานวิหารโบราณ ฐานพระอุโบสถ เป็นต้น


มาเที่ยวชมความงดงามของสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัดกันบ้าง เริ่มต้นด้วยพระวิหารของวัด สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนา หลังคาซ้อนชั้นลาดต่ำลง หน้าบันประดับลวยลวดลายพรรณพฤกษาสีทองสดใส พระอุโบสถของวัดก็สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนาเช่นเดียวกัน เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีบันไดนาคทอดขึ้นไปยังตัวพระอุโบสถ หน้าบันประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษาสวยงามมาก ใบเสมาตั้งอยู่จนชิดกับฐานของพระอุโบสถ ดูแล้วแปลกตา ไม่ค่อยพบเห็นที่ไหน



สถานที่สำคัญหรือเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของวัดเชตุพนคือพระเจดีย์วัดเชตุพน เพราะมีรูปแบบการสร้างที่ต่างจากเจดีย์ทั่วไป กล่าวคือส่วนฐานของพระเจดีย์สร้างเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมขึ้นรองรับองค์เจดีย์ สามารถเข้าไปภายในได้ ผนังของอาคารล้อมรอบด้วยซุ้มเรือนแก้วประดิษฐานพระพุทธรูป และบานหน้าต่างเขียนลวดลายวิจิตรงดงาม  องค์เจดีย์มีสีทอง ทรงแปดเหลี่ยมย่อเก็จ รองรับองค์ระฆังแปดเหลี่ยมแบบล้านนา ยอดยกฉัตรสีทองสวยงาม ถือเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมที่แปลกตาอีกแห่งหนึ่ง



วัดเชตุพน นอกจากจะทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนแล้ว ยังมีหน้าที่ให้การศึกษา โดยจัดตั้งเป็นโรงเรียนทางธรรมขึ้น รวมไปถึงโรงเรียนเชตุพนศึกษาที่รองรับนักเรียนทั่วๆ ไปอีกด้วย

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  914
38  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / วัดพวกเปีย ชมภาพจิตรกรรมอันงดงามภายในวิหาร เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 01:29:27 AM
วัดพวกเปีย ชมภาพจิตรกรรมอันงดงามภายในวิหาร

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวทริปเชียงใหม่ค่ะ วันนี้เลดี้ดาริกายังคงพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับวัดในเมืองเชียงใหม่กันต่อ เพราะเรื่องราวของวัดต่างๆ ในเมืองแห่งนี้คงยังไม่จบง่ายๆ โดยวันนี้เลดี้ดาริกาจะขอพาเพื่อนๆ ไปเยี่ยมชม “วัดพวกเปีย” กันค่ะ


วัดพวกเปีย เป็นวัดราษฎ์ ตั้งอยู่บนถนนทิพย์เนตร ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ๆ กับถนนคนเดินวัวลาย ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อมาเยือนย่านนี้ก็จะนิยมเที่ยววัดศรีสุพรรณ ที่มาของชื่อวัดพวกเปีย กล่าวคือ คำว่า “พวก” ใช้เรียกหัวหน้าช่างหรือกลุ่มคนผู้มีอาชีพต่างๆ ในสมัยก่อน ซึ่งมีอยู่หลายวัดในเมืองเชียงใหม่ที่ตั้งชื่อด้วยคำว่า “พวก” เช่น พวกช้าง พวกหงส์ เป็นต้น ส่วนคำว่า “เปีย” น่าจะมาจากคำว่า “เปี๊ยะ” คือชื่อเรียกเครื่องดนตรีประเภทสายชนิดหนึ่งของชาวล้านนา “พินเปี๊ยะ”



ไม่มีหลักฐานการสร้างวัดแน่ชัด แต่คาดว่าชาวบ้านน่าจะร่วมกันสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นราวๆ ปี พ.ศ. ๒๐๔๐ พระอารามแห่งนี้มีอายุเก่าแก่ประมาณ ๕๐๐ กว่าปีแล้ว ต่อมาจึงถูกทิ้งให้รกร้างไปเมื่อครั้งพม่าปกครองเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. ๒๓๔๒ เมื่อพระเจ้ากาวิละสร้างบ้านแปลงเมืองขึ้นมาใหม่ ได้อพยพเทครัวชาวคงมาอาศัยอยู่ทางทิศตะวันออกของวัด และให้ชาวเชียงรุ้งจากสิบสองปันนาอาศัยอยู่บริเวณที่เป็นโรงพยาบาลสวนปรุงปัจจุบัน ในปี พ.ศ. ๒๔๔๖ ตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ พระองค์ทรงโปรดให้บูรณะฟื้นฟูวัดพวกเปียขึ้นมาใหม่อีกครั้ง



วิหารหลวงวัดพวกเปีย สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนา หลังคาลดหลั่นกันสองชั้น หน้าบรรณประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษาบนพื้นกระจกสีฟ้า ด้านในพระวิหารประดิษฐานพระเจดีย์และพระเจ้าทันใจ ที่ว่าประดิษฐานพระเจดีย์นั่นอาจฟังเป็นเรื่องแปลก แต่พระเจดีย์ของวัดตั้งอยู่ด้านหลังพระประธานในพระวิหารจริงๆ แตกต่างจากวัดแห่งอื่นๆ ผนังด้านหลังพระประธานตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรม และปูนปั้นลายเทพพนม อ่อนช้อยและสวยงามมาก


พระอุโบสถของวัดเป็นอาคารอีกหลังหนึ่งที่น่าสนใจ สถาปัตยกรรมแบบล้านนาประยุกต์ ก่ออิฐถือปูน บันไดด้านหน้าขนาบข้างด้วยปูนปั้นพญานาค หน้าบันประดับลวดลายพรรณพฤกษา


หอพระไตรปิฎกเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแบบสมัยใหม่ ด้านบนเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ นอกจากที่กล่าวมานี้แล้วก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อีกด้วย


เพื่อนๆ หลายคนอาจมองข้ามวัดเล็กๆ อย่างวัดพวกเปียแห่งนี้ แต่จริงๆ แล้วอาจมีสิ่งที่น่าสนใจ น่าค้นหาซ่อนอยู่ เหมือนกับคำเปรียบเปรยที่ว่าอย่าตัดสินสิ่งต่างๆ จากรูปลักษณ์ภายนอก เพราะจริงๆ แล้วมันต้องมีอะไรดีๆ ที่น่าค้นหาซ่อนอยู่

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  903
39  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / ก๋วยเตี่ยวเรือเจ็ดยอด เริ่มต้นเพียง 15 บาท! เมื่อ: สิงหาคม 01, 2014, 02:50:45 AM
ก๋วยเตี่ยวเรือเจ็ดยอด เริ่มต้นเพียง 15 บาท!

ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิมอย่างมากในสังคมไทย รองจากอาหารตามสั่ง ด้วยความที่ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็มักจะเจอแต่ร้านก๋วยเตี๋ยว ดังนั้นผู้ประกอบการร้านก๋วยเตี๋ยวจึงต้องหากลยุทธที่จะสร้างความแตกต่างอันมีเอกลักษณ์เพื่อดึงดูลูกค้า วันนี้เลดี้ดาริการขอนำเสนอร้านก๋วยเตี๋ยวอีกร้านหนึ่ง มีชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวเรือเจ็ดยอด”



ก๋วยเตี๋ยวเรือเจ็ดยอดตั้งอยู่ในย่านซอยวัดเจ็ดยอด ถ้ามาจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ให้เลี้ยวมาทางแยกซ้ายมือ ขับมาเรื่อยๆ จะพบกับ 7-11 อยู่ทางซ้าย เลยไปนิดหนึ่งจะพบสี่แยกให้เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 150 เมตร ก็จะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ็ดยอดป้ายสีแดงๆ

ร้านนี้ดัดแปลงจากห้องแถวหนึ่งคูหา เปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว การตกแต่งภายในร้านเน้นเรียบง่าย แต่ดูคลาสสิค อุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ เป็นของโบราณ ทั้งรูปภาพหรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ โต๊ะมีให้เลือกนั่งประมาณ 15 โต๊ะ โต๊ะที่ร้านใช้เราชอบมากเป็นโต๊ะไม้ที่นั่งแล้วรู้สึกว่ามันเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว เพื่อนๆ ต้องไปลองนั่งดูเองค่ะ อิอิ


มาดูที่เมนู ก๋วยเตี๋ยวมีให้เลือกสี่แบบ คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เย็นตาโฟต้มยำ และก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่หวาน ส่วนมีเส้นให้เลือกทั้งหมดหกเส้น ได้แก่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ หมี่ขาว หมี่เหลือง วุ้นเว้น และมาม่า ก๋วยเตี๋ยวทุกแบบขนาดธรรมดา 15 บาท ขนาดพิเศษเพียง 30 บาท ถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับราคาก๋วยเตี๋ยวในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีโปรมีชั่นทานครบ 10 ชาม ทั้งธรรมดา พิเศษ และใส่ถุง รับไปเลย pepsi 1 ลิตร ส่วนเมนูทานเล่นก็จะเป็นพวกของลวกต่างๆ เช่น หมูนิ่มลวก ตับหมูลวก ลูกชิ้นรวมลวก ราคา 25 บาท ทางด้านเครื่องดื่มก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งสารพัดชา นม กาแฟ น้ำอัดลม มีหมด ราคา



หลังจากพิจารณาอยู่สักแป๊บว่าจะทานอะไรดี จึงตัดสินใจสั่งหมี่ขาวหมูน้ำตกพิเศษหนึ่งชามและหมี่เหลืองต้มยำไข่หวานหนึ่งชาม รอไม่นานก็ได้ทานแล้วค่ะ หน้าตาก๋วยเตี๋ยวชวนนึกถึงก๋วยเตี๋ยวเรือแถวบ้านที่ภาคกลางเลย แบบธรรมดาสั่งมาชามเดียวคงทานไม่อิ่มแน่ๆ เพราะปริมาณก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่ถ้าให้เด็กๆ ทานน่าจะกำลังดี สำหรับผู้ใหญ่ต้องแบบธรรมดาสองชามกำลังดี ได้ทานสองรสชาติสองชามก็ดีไปอีกแบบ


เริ่มที่ชามแรกหมี่ขาวลูกชิ้นน้ำตก รสชาติน้ำก๋วยเตี๋ยวเข้มข้นกำลังดี เส้นก๋วยเตี๋ยวลวกมาอย่างพอเหมาะ ลูกชิ้นใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ชามนี้ทางร้านปรุงรสมานิดๆ หน่อยๆ ถ้าคนที่ไม่ทานรสจัดก็ไม่ต้องปรุง ทานได้เลยค่ะ ส่วนหมีเหลืองต้มยำไข่หวาน มีไข่นกกระทาสองฟอง เส้นหมี่เหลืองเป็นเส้นกลมที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ น้ำก๋วยเตี๋ยวต้มยำปรุงมาดีแล้ว ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยค่ะ ที่ชอบมากๆ อีกเรื่องหนึ่งก็คือถั่วฝักยาวที่ใส่ลงมาในก๋วยเตี๋ยวกรุบๆ กรอบๆ ดีจริงๆ



ร้านนี้เปิดตั้งแต่เวลา 9.00 น. – 20.00 น. ปิดทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน ใครที่ชอบก๋วยเตี๋ยวเรือต้องมาลองชิมค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :22:
40  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / กราบสังขารครูบาอุ่นเพื่อความเป็นสิริมงคล ณ "วัดป่าแดง" เมื่อ: สิงหาคม 01, 2014, 02:06:35 AM
กราบสังขารครูบาอุ่นเพื่อความเป็นสิริมงคล ณ "วัดป่าแดง"

อำเภอสันกำแพงเป็นอีกอำเภอหนึ่งที่มีชื่อเสียงทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักดีว่ายังมีศาสนสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่งอีกด้วย วันนี้เลดี้ดาริกาขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับวัดที่ตั้งอยู่ในชุมชนเล็กๆ แห่งหนึ่งของอำเภอสันกำแพง


วัดป่าแดง ตั้งอยู่ที่บ้านป่าสักขวาง ตำบลสันกำแพง อ.สันกำแพง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร การเดินทางไปสู่วัดนี้ให้ใช้เส้นทางหมายเลข ๑๐๐๖ เชียงใหม่-สันกำแพง จากแยกร่มบ่อสร้างประมาณ ๔.๕ กิโลเมตร จะพบกับสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร วัดป่าแดงอยู่ทางขวามือ


วัดนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนลำไย มีทุ่งนาล้อมรอบ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ ๒๐๐ ปีที่แล้ว จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ทราบว่าเดิมเป็นวัดร้าง มีเจดีย์เก่าที่ชำรุดทรุดโทรม มีซากโบราณสถานอยู่โดยรอบ ต่อมาได้สร้างเจดีย์องค์ใหม่ครอบเจดีย์องค์เก่า และบูรณปฏิสังขรณ์ซากโบราณสถานต่างๆ ขึ้นมา ส่วนที่มาของชื่อวัดนั้นมาจากบริเวณโดยรอบวัดมีไม้แดงขึ้นอยู่ จึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดป่าแดง”


บรรยากาศภายในวัดค่อนข้างเปิดโล่ง มีแต่ต้นไม้ขนาดเล็ก พื้นปูด้วยอิฐตัวหนอทั้งหมด ถ้ามาตอนกลางวัดแดดแรงๆ คงจะร้อนน่าดู จุดประสงค์ของการมาเยือนวัดนี้คือการกราบสังขารของครูบาอุ่น อดีตเกจิชื่อดังอันเป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนชาวเชียงใหม่ ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๔ สิริรวมอายุได ๗๙ ปี ๕๕ พรรษา


ในวันที่ท่านมรณภาพได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น ขณะที่บรรดาศิษย์กำลังจัดระเบียบให้สรีระของท่าน ที่ศีรษะของครูบาอุ่นมีรอยนูนเล็กๆ เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ใบหูของท่านก็ยาวขึ้นด้วย เป็นที่อัศจรรย์ใจต่อเหล่าศิษย์มาก ต่อมาวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๔๕ เป็นวันประกอบพิธีบรรจุสรีสระลงในปีบแก้ว เหตุการณ์เดิมได้เกิดขึ้นอีก อีกทั้งร่างกายของท่านยังคงอ่อนนุ่มดั่งคนมีชีวิต และไม่ส่งกลิ่นเน่าเหม็นอีกด้วย ในเวลาต่อมาอีก ๑๑ ปี เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๑๕๕๖ ได้มีพิธีเปลี่ยนผ้าจีวรของครูบาอุ่น ร่างกายยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ไม่ต่างจากเมื่อ ๑๑ ปีที่แล้วมากนัก นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง จึงทำให้มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบสังขารครูบาอุ่นกันอย่างต่อเนื่อง


   หีบแก้วที่บรรจุสังขารครูบาอุ่นอยู่ในศาลาจัตุรมุข เป็นอาคารปูนทั้งหลัง สถาปัตยกรรมล้านนา หน้าบันประดับด้วยลายปูนปั้นพรรณพฤกษา ตรงกลางเป็นรูปนกหัสดีลิงค์และเทวดา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่ดูแปลกตา เพราะเป็นเรื่องราวของยุคปัจจุบัน เป็นรูปสถานที่สำคัญต่างๆ ทั้งของประเทศไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ และรูปสัตว์ป่าต่างๆ อีกด้วย



นอกจากนั้นภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมอื่นที่น่าสนใจคือพระวิหารสถาปัตยกรรมล้านนาโดดเด่นด้วยลวดลายบนหน้าบันที่ทำจากโลหะ ตอก ดุน ตัด เป็นลายพรรณพฤกษา รูปเทวดา และดอกบัว ได้อย่างสวยงาม นับว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร



เพื่อนๆ อย่าลืมแวะเวียนมากราบสังขารครูบาอื่นเพื่อความเป็นสิริมงคลกันด้วยนะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :22:
41  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว ในตัวเมืองเชียงใหม่ / เดินเล่นกินลม ชิมขนม ช้อปปิ้ง @ ตลาดนัด THINK PARK ยามเย็น เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2014, 12:24:50 AM
เดินเล่นกินลม ชิมขนม ช้อปปิ้ง @ ตลาดนัด THINK PARK ยามเย็น

เลดี้ดาริกาไม่ได้พาเพื่อนๆ ไปตระเวนเดินเล่นตลาดมาพักใหญ่ ครั้งนี้จึงเอาสถานที่เดินเล่นยามเย็นเก๋ๆ แกะกล่องมาใหม่ๆ มาแนะนำเพื่อนๆ เผื่อใครกำลังมองหากิจกรรมยามว่าง หรือเบื่อช่วงเวลาโพล้เพล้ ก็มาที่นี่ได้เลย THINK PARK สถานที่พักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของคนเมือง


พื้นที่ 5 ไร่บริเวณแยกรินคำ ถนนนิมมานเหมินทร์ตัดกับถนนห้วยแก้ว แต่ก่อนเป็นเพียงที่รกร้างไร้ประโยชน์ก็จริง แต่ในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มันถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสถานที่เพื่อนทำกิจกรรมต่างๆ มากมายหมุนเวียนไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุด “THINK PARK” ก็ถือกำเนิดขึ้นบนที่ดินผืนนี้เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเชียงใหม่ยุคใหม่ รวมไปถึงบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลายทั้งไทยและต่างชาติที่ตบเท้าเข้าเยือนถนนนิมมานเหมินทร์อย่างไม่ขาดสาย


THINK PARK ถูกออกแบบมาให้เป็นย่านเมือง มีตึกรามและร้านรวงที่มีเอกลักษณ์ เนรมิตให้มีบรรยากาศแบบบ้านย้อนยุค มีร้านค้ามากมาย อาทิ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร เสื้อผ้า เครื่องประดับต่างๆ เป็นต้น ตัวอย่างร้านที่น่าสนใจ เช่น ไทโชเคนราเม็ง การันตีความอร่อยด้วยรายการทีวีแชมป์เปี้ยนของญี่ปุ่น ร้านกาแฟโบราณพิมพ์นิยม Season Café ไอศกรีมโฮมเมดสุดอินดี้ และร้านอื่นๆ อีกมาก นี่เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น


นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมสัญจรต่างๆ โดยเน้นไปที่การแสดงงานศิลปะทุกรูปแบบ บางโอกาศทาง THINK PARK ก็จะมีกิจกรรมใหญ่ๆ ที่มีคอนเซ็ปและชื่อกิจกรรมเก๋ไก๋ เพื่อให้โอกาสหนุ่มสาวรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถ ประกอบกับนำสินค้าแฮนเมดน่ารักๆ น่าสนใจออกมานำเสนอให้กับคนทั่วไปได้รู้จัก



“กาดนัดมืด” หรือ “ตลาดนัดกลางคืน” หรือ Night Market เป็นกิจกรรมน่ารักๆ ที่เปิดพื้นที่บริเวณ THINK PARK ให้พ่อค้าแม่ขายนำสินค้าน่าสนใจมาวางขาย ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าแฮนเมด สินค้าน่ารักๆ ของหายาก ขนมอร่อยๆ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับธีมของสถานที่ และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่



เลดี้ดาริกามีโอกาสมาเดินเล่นกินลมชมวิวยามเย็นที่ตลาดนัดกลางคืนอยู่หลายครั้งค่ะ บ้างก็หาอะไรอร่อยๆ รับประทาน บ้างก็มาเดินเล่นดูของน่ารักๆ ที่เอามาวางขาย ราคาไม่แพง แต่ต้องบอกว่าบางวันมีของขายเยอะมาก แต่บางทีก็น้อยมากเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนอย่างนี้ ร้านรวงอาจจะบางตาไปเสียหน่อย แต่ร้านประจำทั้งหลายยังคงเปิดบริการ สามารถมาเดินเล่นได้ไม่แกร่วแน่นอน


ตลาดนัดกลางคืน THINK PARK มีเป็นประจำทุกสัปดาห์ค่ะ วันศุกร์และวันเสาร์ เพื่อนๆ คนไหนสนใจก็มาเดินเล่นรับลมกันได้ จะมาเป็นแพ็คคู่คนรักกัน ก๊วนเพื่อนฝูง ครอบครัวสุขสันต์ หรือว่าอยู่คนเดียวมันเหงาเลยออกมานั่งมองผู้คนอันนี้ไม่ว่ากันค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :1001:
42  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / วัดหม้อคำตวง เยือนศูนย์กลางโหราศาสตร์ภาคเหนือ เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2014, 12:17:09 AM
วัดหม้อคำตวง เยือนศูนย์กลางโหราศาสตร์ภาคเหนือ


คนไทยแม้จะนับถือพระพุทธศาสนาเป็นหลัก แต่เรื่องดวงชะตาโหราศาสตร์ก็อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน เรียกได้ว่าบางบ้านก็ขาดไม่ได้เลยทีเดียว โหราศาสตร์ผูกพันกับชีวิตของคนไทยตั้งแต่เกิดจนตายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระพุทธศาสนา เราดูฤกษ์พานาทีเมื่อจะจัดพิธีมงคล แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการใหม่ ไปจนถึงการทำนายอนาคต และในบ้างครั้งผู้ทำหน้าที่โหราจารย์ที่ดูฤกษ์งามยามดีนี้ก็เป็นพระสงฆ์ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่และเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับสังคมบ้านเรามาอย่างยาวนาน

หม้อน้ำสีทองสัญลักษณ์ของวัด

วันนี้เลดี้ดาริกาจะพาเพื่อนไปเยี่ยมชม “วัดหม้อคำตวง” พระอารามในเขตเมืองเก่าเชียงใหม่ อยู่ริมคลองคูเมืองเลย บนถนนศรีภูมิ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านโหราศาสตร์ของภาคเหนือ และเป็นที่ตั้งของสมาคมโหราศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย

บริเวณวัด

วัดหม้อคำตวง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๐๑๙ มีอายุเก่าแก่กว่า ๕๓๐ ปี เดิมมีชื่อว่า “วัดหมื่นคำตวง” และเพี้ยนเสียงมาเป็น “หม้อคำตวง” ในภายหลัง จุดเด่นของวัดคือกำแพงของวัดที่ประดับด้วยกระจกสีเงินระยิบระยับ มีสัญลักษณ์หม้อทองคำประดับอยู่แต่ละช่องกำแพง เสาประตูทางเข้าวัดประดับด้วยปูนปั้นหม้อทองคำเป็นสัญลักษณ์ของวัด ซึ่งต่างจากวัดทั่วไปในภาคเหนือที่นิยมประดับหัวเสาร์ด้วยรูปสัตว์ โดยเฉพาะสิงห์แบบล้านนา

พระวิหารของวัด

วัดหม้อคำตวงเป็นวัดเล็กๆ ไม่ได้มีบริเวณกว้างขวางเหมือนวัดใหญ่ๆ ภายในวัดประกอบด้วยอาคารต่างๆ ที่มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแตกต่างกันไป เมื่อเข้ามาภายในบริเวณวัดสิ่งหนึ่งที่เราจะสังเกตเห็นเป็นจุดเด่นของวัดคือหม้อปูนปั้นทาสีทองขนาดใหญ่ มีลายปูนปั้นพญานาคราชขดอยู่รอบหม้อ หม้อนี้คือบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์

พระประธานภายในพระวิหาร

พระวิหารของวัดเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา โครงสร้างค่อนข้างเตี้ย และหลังคาซ้อนชั้นลาดต่ำ หน้าบันประดับด้วยลายพรรณพฤกษาอ่อนช้อยสีทอง บนพื้นสีฟ้าสดใสสะท้อนแสงอาทิตย์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย ฝาผนังเขียนภาพจิตรกรรมสวยงาม

ภาพจิตรกรรมภายในวิหาร

ด้านหลังพระวิหารเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์ประธานของวัดหม้อคำตวง ลักษณะเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมย่อเก็จ รองรับบัวถลาสามชั้น ถัดขึ้นไปเป็นองค์ระฆังขนาดเล็ก ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของเจดีย์ล้านนาในยุคหลัง ถัดจากองค์ระฆังคือบัลลังก์สี่เหลี่ยม ปล่องไฉน ยกยอดฉัตรตามแบบล้านนา

พระเจดีย์ประธานของวัด

ด้านข้างพระเจดีย์มีอาคารสถาปัตยกรรมล้านนาสร้างใหม่ ขนาดไม่ใหญ่นัก นี่คือพระอุโบสถของวัด ทางขึ้นไปสู่ทางเข้าพระอุโบสถขนาบด้วยนาคปูนปั้น หน้าบันของพระอุโบสถหลังนี้มีปูพื้นด้วยกระจกสีฟ้าเช่นเดียวกับพระวิหารของวัด ประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษาสีทอง ด้านบนมีลายเทพพนมประดับอยู่ ตามความเชื่อที่ว่ามักมีเทพเทวดาลงมาฟังพระธรรมเทศนา และร่วมงานบุญของมนุษย์

พระอุโบสถ

วัดหม้อคำตวงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเล็กๆ ที่น่าสนใจของเมืองเชียงใหม่ ไม่ใช่แค่เรื่องโหราศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สืบทอดพระศาสนาของชาวล้านนา และแหล่งรวมศิลปะวัตถุที่ทรงคุณค่าของยุคสมัย

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :22:
43  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมูเชียงใหม่ / ชิมขาหมูทอดเลิศรสที่ “บ้านดินเผา ข้าวราดแกง” เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 12:18:14 AM
ชิมขาหมูทอดเลิศรสที่ “บ้านดินเผา ข้าวราดแกง”

ย่านหลัง มช. เป็นอีกย่านหนึ่งที่นักศึกษา มช. มีความผูกพันเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นทั้งที่อยู่ ที่กิน เรียกได้ว่าใช้ชีวิตอยู่แถวนี้โดยไม่ต้องไปไหนได้สบายๆ แต่ปัญหาหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว มช. ก็คือเมื่อถึงเวลาทานข้าวมักจะหันหน้าเข้าหาเพื่อนแล้วถามว่า “กินอะไรกันดี” คำถามโลกแตกที่เจอกันทุกคน วันนี้เลดี้ดาริกาขอนำเสนอร้านอาหารย่านหลัง มช. ร้านหนึ่งที่ใครๆ หลายๆ คนอาจจะไม่เคยไปมาก่อนก็ได้ นั่นคือร้าน “บ้านดินเผา ข้าวราดแกง”


ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอย 7 บ้าใหม่หลังมอ หมู่ที่ 14 เพิ่งทราบว่าซอยนี้ชื่อนี้ ไม่คุ้นเลยค่ะ เรียกง่ายๆ ว่าซอยร้านลุ๊คก็แล้วกัน น่าจะเข้าใจกันง่ายกว่า เยื้องๆ กับประตูวิศวะหลัง มช. เข้าไปในซอยประมาณ 250 เมตร สังเกตทางด้านขวามือจะมีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่ดัดแปลงเป็นร้านค้ามีป้ายเล็กๆ อยู่หน้าร้านห้อยบอกอยู่ว่าร้านนี้ชื่อ บ้านดินเผานะ อิอิ


แม้จะชื่อว่า บ้านดินเผา ข้าวราดแกง แต่ก็ไม่เห็นมีหม้อแกงเหมือนร้านข้าวแกงอื่นๆ อันนี้ก็ไม่แน่ใจนะคะว่าที่ชื่อนี้เพราะอะไร เดาว่าอาจจะเคยขายข้าวราดแกงมาก่อน ตอนนี้หันมาขายอาหารตามสั่งแทน บรรยากาศภายในร้านก็สบายๆ ตามประสาบ้านที่ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร มีโต๊ะให้เลือกนั่งประมาณ 10 โต๊ะ พระเอกของร้านนี้ก็คือข้าวขาหมูทอดแสนอร่อยค่ะ นอกจากนั้นก็ยังมีก๋วยเตี๋ยว น้ำปั่น ของทอดต่างๆ เช่น พวกปอเปี๊ยะทอด เกี๊ยวทอด เผือกทอด ซึ่งอาหารแต่ละอย่างก็จะอยู่ที่ราคา 20-40 บาท



แน่นอนว่าเราสั่งพระเอกของร้านนี้ นั่นคือ ข้าวหมูทอด ขาหมูทอดกรอบสีสันน่าทาน กลิ่นก็ชวนทานมากเช่นกัน มาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ น้ำจิ้มเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ และมีเครื่องเคียงเป็นผักกาดดอง เนื้อขาหมูสีชมพูอ่อนๆ สุกทั่วทั้งชิ้นมีมันติดมานิดหน่อย ไม่เยอะมาก และไม่เยิ้มเหมือนร้านอื่นๆ ด้วยค่ะ ตรงนี้ชอบมากๆ หนังหมูกรอบกำลังดี ไม่เหนียวจนเกินไป ตักน้ำจิ้มราด แกล้มด้วยผักกาดดอง ตักข้าวเข้าปาก มันเป็นอะไรที่เข้ากันสุดๆ เลยแหล่ะค่ะ


สังเกตบริเวณฝาพนังด้านนอกของบ้านจะมีกระดาษแปะอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ เราก็ลองไล่ๆ อ่านดู เป็นกระดาษที่นักศึกษาหรือคนทั่วไปเคยมาทานร้านนี้แล้วเขียนเล่าประสบการณ์ความประทับใจในความอร่อยของเมนูต่างๆ ของร้านนี้


   เป็นไงบ้างค่ะเพื่อนๆ กับรีวิวน้อยๆ ของเลดี้ดาริกา หวังว่าจะถูกใจกันนะคะ และอย่าลืมแวะเวียนไปลองชิมความอร่อยของข้าวขาหมูทอดกันด้วยนะคะ ถ้ากลัวอ้วนสั่งอย่างอื่นก็ได้มีให้เลือกหลายอย่าง อร่อยแน่นอน

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :16:
44  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / แนะนำที่เที่ยว เส้นทางสาย บ่อสร้าง-สันกำแพง-แม่ออน-แม่กำปอง / เที่ยวถ้ำเมืองออน ถิ่นตำนานพระธาตุนมผา เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2014, 12:00:27 AM
เที่ยวถ้ำเมืองออน ถิ่นตำนานพระธาตุนมผา

“แม่ออน” อำเภอเล็กๆ ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงเป็นชุมชนของคนพื้นเมืองที่ดำรงวิถีชีวิตเรียบง่าย มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พรั่งพร้อมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ บนเส้นทางสายเชียงใหม่ – สันกำแพง – แม่ออน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางบนถนนสายนี้ มักมีปลายทางอยู่ที่หมู่บ้านบ่อสร้าง แหล่งหัตกรรมทำร่มกระดาษ เอกลักษณ์ของเชียงใหม่ และน้ำพุร้อนสันกำแพง แต่แท้ที่จริงแล้วถนนสายนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจให้เพื่อนๆ นักเดินทางได้ออกมาค้นหาอีกมาก


“ถ้ำเมืองออน” คือจุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้ ถ้ำขนาดใหญ่บนภูเขาหินปูน เขตบ้านสหกรณ์ ๒ ตำบลบ้านสหกรณ์ อำเภอแม่ออนแห่งนี้ แม้ไม่ใช่ถ้ำที่ยังมีชีวิต มีหินงอกหินย้อยสวยสดงดงาม แต่ก็เป็นถ้ำเก่าแก่ที่มีเรื่องเล่าและตำนานที่น่าสนใจเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา วันนี้เลดี้ ดาริกาจะขออนุญาตพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักถ้ำแห่งนี้กัน



การเดินทางสู่ถ้ำแม่ออนนั้นสะดวกและง่ายดาย ไม่ลำบากอย่างที่คิด เพราะเป็นถ้ำในป่าชุมชน ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่สันกำแพง มุ่งหน้าไปทางตะวันออกของตัวเมืองเชียงใหม่ เส้นทางเดียวกันกับน้ำพุร้อนสันกำแพง ขับตรงขึ้นเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงเขตอำเภอแม่ออน สังเกตป้ายบอกทางไปถ้ำเมืองออนซึ่งมีอยู่เป็นระยะๆ ทางเข้าถ้ำอยู่ทางซ้ายมือ ลัดเลาะไปตามเส้นทางเล็กๆ อีกประมาณหนึ่งกิโลเมตร เลยสำนักสงฆ์วัดถ้ำเมืองออนไปเล็กน้อยก็ถึงทางเข้าถ้ำ การเดินทางมาที่นี่ทำได้ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ เพราะมีระยะทางไม่ไกลจากเมืองเชียงใหม่ ถนนสะดวกสบาย และไม่อันตราย



มาถึงทางขึ้นถ้ำ จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมคนละ ๒๐ บาท เพื่อให้ชาวบ้านนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาสถานที่ ติดๆ กันนั้นมีบันไดนาคทอดยาวตั้งแต่ลานจอดรถ ลัดเลาะไปตามเนินเขาจนถึงปากทางเข้าถ้ำ บันไดสู่ปากถ้ำมีทั้งหมด ๑๘๗ ขั้น ทางเข้าเป็นเพียงช่องเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวต้องก้มศีรษะเข้าไป แล้วจึงพบว่าถ้ำภายในนั้นเป็นห้องโถงกว้างขวางมาก ลักษณะของถ้ำคือเป็นถ้ำปิด ไม่มีทางออกอื่น และต้องไต่บันไดลึกลงไปตลอด แบ่งออกเป็นห้องกว้างๆ ประมาณ ๓ ห้อง




โถงถ้ำห้องแรกนั้นมีชื่อเรียกว่า “ถ้ำฤๅษี”  เพราะชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่จำศีลของฤๅษีในอดีต มองเห็นหินงอกหินยอยหลากหลายลักษณะ แต่ก็ไม่สวยงามอีกแล้ว เพราะเป็นถ้ำที่ตายแล้ว (ไม่มีหยดน้ำตามธรรมชาติเพื่อสร้างหินงอกหินย้อย) เพราะมีผู้คนมาใช้ประโยชน์จากถ้ำแห่งนี้มากตั้งแต่อดีต เดินลงไปลึกอีกหนึ่งชั้นจะพบห้องโถงที่สองซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า โอ่อ่า อากาศเย็นและมีกลิ่นชื้นของดิน ห้องโถงนี้เราจะเห็นประติมากรรมพระนอนที่ช่างชาวบ้านสร้างขึ้นไว้เพื่อสักการบูชา และพระพุทธรูปนั่งสมาธิตั้งอยู่บนหิ้งเพดานถ้ำ




หน้าพระพุทธรูปนั่งขัตสมาธิมีแท่งหินสีขาวระยิบระยับขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ชาวบ้านเรียกกันว่า “พระธาตุนมผา” ตามตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่าเมื่อพระพุทธองค์เสด็จออกเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนมายังอาณาจักรหริภุญไชย พระพุทธองค์ได้มีโอกาสเดินทางมายังถ้ำแห่งนี้ด้วย เมื่อพญานาคผู้เฝ้าถ้ำอยู่นั้นทราบว่าพระพุทธองค์เสด็จมา จึงแปลงกายเป็นมนุษย์และเข้าเฝ้าเพื่อถวายน้ำผึ้งป่าแก่พระพุทธองค์ ในคราวเดียวกันนั้นก็ได้ขอเส้นพระเกศา (ผม) ของพระพุทธเจ้า แล้วนำมาประดิษฐานไว้ที่พระธาตุนมผาภายในถ้ำแห่งนี้ ชาวบ้านแถบนี้ให้ความเคารพบูชาสืบเนื่องกันมา




นอกจากห้องหลักๆ ที่น่าสนใจแล้วประติมากรรมหินงอกหินย้อยที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดจินตนาการ พ่อแม่ที่พาเด็กมาเที่ยวถ้ำแห่งนี้จะมีความสุขกับการชี้ชวนให้ดูหินรูปร่างต่างๆ และจินตนาการเรื่องราวของมันไปพร้อมๆ กัน เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เหมาะกับครอบครัวอย่างยิ่ง

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  915
45  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / เยือนวัดป่าตึง กราบหลวงปู่หล้า ชมความงดงามอ่อนช้อยของสถาปัตยกรรม เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2014, 11:49:56 PM
เยือนวัดป่าตึง กราบหลวงปู่หล้า ชมความงดงามอ่อนช้อยของสถาปัตยกรรม


ออกมาเยือนวันนอกเมือง ตระเวนย่างอำเภอสันกำแพงทั้งที ถ้าไม่ได้มากราบสักการะหลวงปู่หล้าที่วัดป่าตึงคงไม่ได้ หลวงปู่หล้าที่เลดี้ดาริกาจะพาเพื่อนๆ ไปกราบนั้นไม่ใช่พระสงฆ์ที่ยังมีชีวิต แต่เป็นร่างสังขารของพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งในภาคเหนือที่ยังไม่เน่าเปื่อย แค่นี้ก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะคะ

หลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง

วัดป่าตึงเป็นวัดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตชนบท ล้อมรอบด้วยชุมชนเล็กๆ และไร่นาป่าเขาของชาวบ้าน ถนนที่จะพาเราไปยังวัดแห่งนี้ยังเป็นเพียงถนนสายเล็กๆ ที่คนในหมู่บ้านใช้สัญจรไปมาหาสู่กัน วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ว่ากันว่าเป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสันกำแพงและจังหวัดเชียงใหม่

เรือนไม้สักหลังใหญ่ที่เก็บร่างสังขารของหลวงปู่


ประวัติของวัดกล่าวว่าวัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๕ จนถึงตอนนี้ก็อายุกว่า ๑๓๒ ปีแล้ว ว่ากันว่าก่อนการบูรณะวัดครั้งใหญ่นั้น มีการค้นพบพระบรมสารีริกธาตุ และของมีค่ามากมาย อาทิ เครื่องถ้วยชามสังคโลก พระพุทธรูปต่างๆ และโบราณวัตถุอื่นๆ บริเวณรอบๆ วัด

ร่างสังขารหลวงปู่หล้าในโลงแก้ว

อย่างที่เกริ่นไว้กับเพื่อนๆ ตอนต้นว่าพระอารามแห่งนี้เป็นที่เก็บร่างสังขารของ “หลวงปู่หล้า” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงปู่หล้าตาทิพย์” เพราะท่านสามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ต่างๆ ล่วงหน้าได้ ถือเป็นนักบุญล้านนาร่วมสมัยกับครูบาศรีวิชัย ว่ากันว่าในสมัยที่ครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพนั้น หลวงปู่หล้าก็ได้นำกองบุญส่วนหนึ่งไปรวมกับครูบาฯ เพื่อสร้างทางขึ้นสู่ดอยสุเทพด้วย



เมื่อท่านมรณภาพลง สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา ศิษยานุศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านได้ร่วมกันเก็บร่างสังขารของท่านไว้ในโลงแก้ว ภายในเรือนไม้สักขนาดใหญ่ ที่ต้องทึ่งเมื่อได้พบเห็นครั้งแรก เป็นเป็นเรือนไม่สักที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมทางเหนือ หลังใหญ่ ประดับด้วยลายฉลุไม้งดงามและโอ่อ่ามาก ผู้เลื่อมใสศรัทธาและนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปกราบร่างสังขารของหลวงปู่หล้าด้านบนได้

พระวิหารของวัด

สถูปเจดีย์ด้านหลังพระวิหาร

นอกจากเรือนไม้สักแล้ว ภายในวัดป่าตึงยังมีอาคารอีกหลายหลังที่น่าสนใจ ซึ่งล้วนแล้วแต่ตกแต่งประดับประดาด้วยลายไม้ฉลุสวยงามมาก อาทิ อาคารไม้ลักษณะเป็นเรือนยาว เรียกว่า “อาคารหลวงปู่หล้า” สร้างขึ้นใหม่ แต่มีลักษณะสถาปัตยกรรมโดดเด่น และสวยงามด้วยลวดลายฉลุสีทอง

อาคารหลวงปู่หล้า


วิหารของวัดป่าตึงเป็นอาคารหลังเก่า ทรงเตี้ย สถาปัตยกรรมล้านนา โครงสร้างอาคารเรียบง่าย หน้าบันประดับลวดลายพรรณพฤกษาสวยงาม ยังไม่ได้ยกช่อฟ้า แต่ผนังอาคารเป็นเพียงอาคารปูนสีขาวเรียบๆ ฝีมือช่างชาวบ้าน ด้านหลังพระวิหารมีสถูปเจดีย์เก่าแก่ขนาดเล็กตั้งอยู่

พระอุโบสถ

อุโบสถของวัดเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจ เป็นสถาปัตยกรรมสร้างใหม่ แบบล้านนาประยุกต์ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์จากภาคกลาง ซึ่งนิยมสร้างเสาสูงๆ ต่างจากสถาปัตยกรรมของทางภาคเหนือที่ส่วนใหญ่เป็นอาคารหลังคาเตี้ย ด้านหน้ามีบันไดนาคดูโอ่อ่า

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  903
46  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / อี๊ดผัดไทย ผัดไทยอร่อยย่านช้างม่อย เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2014, 11:37:21 PM
อี๊ดผัดไทย ผัดไทยอร่อยย่านช้างม่อย

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวทริปเชียงใหม่ค่ะ ก่อนหน้านี้เลดี้ดาริกาพาเพื่อนๆ ไปชิมผัดไทยกันมาแล้วร้านหนึ่ง วันนี้มีร้านผัดไทยอีกแห่งหนึ่งมานำเสนอค่ะ ขับรถผ่านอยู่บ่อยๆ แต่ไม่มีโอกาสได้แวะชิมเสียที ได้ฤกษ์งามยามดีมาตามคำโฆษณาของร้านแสนเก๋ไก๋ที่ว่า “ระวังจะติดใจ” ว้าว....อย่างนี้ต้องลองสินะ “อี๊ดผัดไทย”


ก่อนไปชิมฝีมือการปรุงของพ่อครัวร้านนี้ว่าอร่อยสมชื่อหรือไม่ มาทำความรู้จักอาหารจานนี้กันสักเล็กน้อย แบบสั้นๆ ได้ใจความไม่เสียเวลามาก “ผัดไทย” ชื่อนี้คงได้ยินกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออด ลืมตาเกิดมาก็มี “ผัดไทย” เป็นเมนูที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายเรากินกันอยู่เป็นประจำ ชาวต่างชาติรู้จักผัดไทยดีกว่าอาหารอีกหลายๆ ชนิด บ้างก็ยกย่องให้อาหารจานนี้เป็นอาหารประจำชาติกันเลยทีเดียว เพื่อนๆ รู้ไหมว่าผัดไทยมาจากไหน??


“ผัดไทย” ไม่ใช่อาหารไทยแต่โบราณ ไม่ได้มีมาแต่สมัยสุโขทัยหรืออยุธยาแต่อย่างใด ในทางกลับกันเป็นเมนูใหม่ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นเมื่อไม่กี่สิบปีมานี่เอง อาหารชนิดนี้เกิดขึ้นในยุคที่ข้าวสารในประเทศขาดแคลนค่ะ ผู้นำประเทศในสมัยนั้น จอมพล ป. พิบูลสงครามจึงรณรงค์ให้คนไทยหันมารับประทานก๋วยเตี๋ยวแทนข้าว “ผัดไทย” เป็นอาหารประเภทเส้นอีกเมนูหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมานำเสนอเป็นทางเลือกในการรับประทานของคนไทยสมัยนั้น จนฮิตติดลมบน และกลายเป็นอาหารขึ้นชื่อของประเทศเรื่อยมา


“อี๊ดผัดไทย” ที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปชิมวันนี้เป็นร้านห้องแถว ตั้งอยู่บนถนนช้างม่อย ทางเข้าตลาดวโรรส (จากคูเมืองเชียงใหม่) เป็นย่านที่อยู่อาศัยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งระยะยาวและระยะสั้น เพื่อนๆ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยค่ะที่ร้านนี้มีภาษาอังกฤษติดอยู่เต็มร้าน แต่ออกจะขัดใจนิดหน่อยที่ชื่อเมนูมันทะแม่งๆ ไม่รื่นหูเอาเสียเลย เรื่องนี้คงต้องโทษกูเกิลทรานสเลทค่ะ แต่มองเจตนารมณ์ที่ดีของทางร้านที่อยากสื่อสารกับลูกค้าต่างๆ ชาติก็แอบเห็นใจ อ้าว...หยวนๆ น่า


ร้านนี้มีเมนูอะไรน่าสนใจมานำเสนอกันบ้าง อันดับแรกคงต้องพูดถึง “ผัดไทย” ผัดเส้นได้กำลังดีไม่แข็งและไม่เหลวจนเกินไปถือเป็นข้อแรกที่จะทำให้ผัดไทยมีรสชาติอร่อยประทับใจลูกค้า เครื่องจัดมาแบบไม่งง ไข่เป็นไข่ หมูเป็นหมู กุ้งเป็นกุ้ง ผัดกับต้นหอมหั่นชิ้นพอดีและถั่วงอก สีสันกำลังดี รสชาติอร่อยค่ะ


นอกจากผัดไทยแล้ว ทางร้านก็มีเมนูอาหารอื่นๆ ที่เป็นประเภทผัดเส้นเหมือนกันมานำเสนอด้วย อาทิ มาม่าผัดขี้เมา ผัดซีอิ้ว ราดหน้า มักกะโรนีผัด เรียกว่าเป็นร้านผัดสารพัดให้เพื่อนๆ เลือกรับประทานตามใจชอบได้เลย หรือใครอยากรับประทานอาหารตามสั่งก็มีนะคะ


แม้ว่าจะเป็นร้านอาหารในย่านที่พักนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ราคาอาหารก็ไม่ได้สูงลิบลิ้วจนลูกค้าคนไทยเบือนหน้าหนีเหมือนหลายๆ ที่ ราคาอยู่ที่ 30 – 50 บาท ไม่แพงเลยค่ะ ปกติมากๆ ร้าน “อี๊ดผัดไทย” เปิดบริการทุกวัน 09:00 – 21:00 ร้านอยู่ใกล้ๆ ธนาคารทหารไทยค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :16:
47  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านอาหารเช้า โจ๊ก กาแฟ เกาเหลาเลือดหมู เชียงใหม่ / ร้านไข่กระทะและโจ๊กไม่ทราบชื่อ ความทรงจำเมื่อแรกเยือนเชียงใหม่ เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2014, 11:30:55 PM
ร้านไข่กระทะและโจ๊กไม่ทราบชื่อ ความทรงจำเมื่อแรกเยือนเชียงใหม่


เลดี้ดาริกาไม่ใช่คนเชียงใหม่ ไม่ใช่แม้แต่คนเหนือสักจังหวัดหนึ่ง แต่ตลอดช่วงวัยเด็กนั้น ใฝ่ฝันเสมอว่าอยากเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่สักครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาส จนกระทั่งเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง ซึ่งตรงกับช่วงที่เชียงใหม่จัดงานพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ “ราชพฤกษ์” อย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก นั่นเป็นแรงบันดาลใจแรกที่ทำให้เลดี้ดาริกากับเพื่อนจับรถไฟชั้น ๓ เพื่อมาเยือนเชียงใหม่ เมืองหลวงของล้านนาสักครั้ง


จำได้ดีว่าตอนนั้นเราได้ที่พักเปิดใหม่ย่านถนนรัตนโกสินทร์ ความทรงจำดีๆ และความประทับใจเมืองเชียงใหม่ของเลดี้ดาริกากับเพื่อนๆ เกิดขึ้นครั้งแรกที่นั่น และทำให้รู้สึกอยากมาใช้ชีวิตที่เชียงใหม่ ไปๆ มาๆ อยู่หลายปีจนกระทั่งได้มาอยู่จริงๆ


ร้านโจ๊กและไข่กระทะตรงข้ามโรงแรมที่พัก (Inspire House) ในสมัยนั้นยังเป็นเพียงรถเข็นเล็กๆ ที่พ่อค้าจะเข็นมาตั้งขายและรอลูกค้าแต่ชาว ฉันและเพื่อนๆ ฝากท้องอาหารเช้าไว้กับร้านนี้ทุกๆ วัน และเมนูที่เราสั่งกินทุกวันก็คือไข่กระทะ อร่อยมากๆ จนเราประทับใจ (สมัยก่อนได้เครื่องเยอะมากๆ ครบเครื่องจริงๆ) เมื่อฉันมีโอกาสกลับมาเยือนเชียงใหม่ทีไรก็อดนึกถึงร้านไข่กระทะเจ้าประจำนั้นไม่ได้ แต่การมาเที่ยวด้วยเวลาที่จำกัดทำให้ฉันไม่มีโอกาสที่จะออกไปรับประทานอาหารเช้าไกลขนาดนั้นอีกแล้ว (พักหลังๆ พักในเมืองตลอดค่ะ)


เมื่อได้มาอยู่เชียงใหม่สมใจก็มีโอกาสแอบย่องไปร้านไข่กระทะและโจ๊กเจ้าประจำนี้บ้าง ร้านเปลี่ยนไปจากเดิม จากรถเข็นกลายมาเป็นร้านที่มีบริเวณ มีโต๊ะนั่งสำหรับลูกค้ามากกว่าเดิม และเมื่อไม่นานนี้เพื่อนๆ ที่เคยมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกันครั้งแรกกลับมาเยี่ยมฉันที่นี่อีกครั้ง และมีโอกาสกลับไปนั่งกินไข่กระทะและโจ๊กย้อนวันวานกันเหมือนเมื่อก่อน


ร้านไข่กระทะและโจ๊กนี้ไม่มีชื่อค่ะ บอกพิกัดได้เพียงว่าตั้งอยู่ตรงข้ามพอดีกับโรงแรมอินสไปร์เฮาส์ บนถนนรัตนโกสินทร์ หาโรงแรมเจอก็รับรองว่าเจอร้านแน่ๆ ร้านนี้ขายอาหารเช้าง่ายๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้มเลือดหมู และอาหารจานโปรดของฉัน “ไข่กระทะ” แต่ไข่กระทะตอนนี้เมื่อเทียบกับแต่ก่อนรู้สึกว่าเครื่องน้อยลงหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม เพราะเวลาก็ห่างกันนานมากๆ แล้ว


ราคาอาหารไม่แพงค่ะ 30 – 40 บาท รสชาติไม่อร่อยเลิศ แต่ก็ถือเป็นอาหารเช้าง่ายๆ ที่น่าประทับใจ จนถึงตอนนี้เลดี้ดาริกายังหาร้านที่ขายไข่กระทะเป็นอาหารเช้าร้านอื่นๆ ไม่ได้เลย ส่วนใหญ่เห็นมีแต่ในร้านอาหารเวียดนาม กลายเป็นของหากินยาก หรือเพราะไม่มีใครชอบกินเหมือนเราก็ไม่รู้ เพื่อนๆ คนไหนพอจะรู้เบาะแสร้านไข่กระทะอร่อยๆ ก็แนะนำกันมาได้นะคะ จะลองตามไปรับประทานดู

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onion2012:
48  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / วันสบายๆ กับ Baristro by Guu JJ Market เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2014, 03:06:19 AM
วันสบายๆ กับ Baristro by Guu JJ Market

หลังจากที่เลดี้ดาริกาได้เขียนรีวิวเกี่ยวกับร้านชา กาแฟไปหลายร้าน คราวนี้ขอเอาใจเพื่อนๆ ชาวราชภัฎเชียงใหม่ ด้วยการนำเสนอร้านนั่งเล่นสบายๆ อีกร้านหนึ่งอยู่ใกล้ๆ กับราชภัฎเชียงใหม่เลยแหล่ะค่ะ เหมาะสำหรับคนที่อยากพักผ่อนสบายๆ ในวันหยุดหรือจะนัดเพื่อนๆ ไปนั่งคุยกันชิลๆ ก็ได้ ที่ร้าน Baristro


ร้าน Baristro เป็นร้านนั่งชิลที่แตกออกมาจากร้าน Guu โรตี ที่มีสาขาอยู่หลายแห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ JJ Market หรือตลาดจริงใจ อยู่ติดกับถนนอัษฎาธร ใกล้กับสามแยกโลตัสคำเที่ยง ใครมาที่นี่มีที่จอดรถสะดวกสบายมากเลยค่ะ สามารถเอาไปจอดที่ที่จอดรถของตลาดจริงใจได้เลย อยู่ด้านหลังค่ะ


ร้านนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงครึ่งปี ภายในมีการตกแต่งที่เรียบง่ายแต่ดูนำสมัย มีโต๊ะให้เลือกหลายแบบ ทั้งร้านมีอยู่ประมาณ 6-7 โต๊ะค่ะ ใครอยากนั่งรับลมก็นั่งที่โต๊ะยาวด้านนอก มากันสองคนในร้านก็มีโต๊ะขนาดกำลังดีให้นั่ง หรือมากับเพื่อนสามสี่คนก็มีโต๊ะยาวให้นั่ง ร้านสะอาดมากขอชื่นชม พนักงานที่นี่เป็นหนุ่มสาวไฟแรง บริการดี น่ารักมากๆ เลย


มาดูกันที่เมนูค่ะมีให้เลือกเยอะมาก จะทานจริงทานเล่นก็มีให้เลือก กาแฟมีครบทุกอย่าง ทุกรสชาติมาตรฐาน ราคาตั้งแต่ 49 – 89 บาท ใครที่ไม่ชอบกาแฟก็มีพวกชา น้ำผลไม้ น้ำปั่น ให้เลือกมากมายราคา 39-75 บาท มาที่อีกทีเด็ดหนึ่งของร้านนี้ที่ต้องพูดถึงก็คือ โรตี มีสารพัดไส้ อาทิเช่น โรตีช็อคโกแล โรตีชีส โรตีตูมตาม ฯลฯ ราคา 45-125 บาท หรือถ้าใครรู้สึกหิวที่นี่ก็มีข้าวไข่เจียว สปาเกตตี้แบบต่างๆ ให้เลือกทานกันตามใจชอบ


เราสั่งลาเต้เย็นหนึ่งแก้ว พร้อมด้วยโรตีตูมตามอีกหนึ่งที่ รอไม่นานก็ได้แล้วค่ะ ลาเต้แก้วนี้มาแบบสองชั้นกาแฟอยู่ชั้นล่าง นมอยู่ชั้นบน รสชาตินุ่มกำลังดีไม่เข้มมาก ถูกใจค่ะ มาพร้อมกับชาร้อนๆ อีกหนึ่งแก้ว ส่วนโรตีตูมตามก็คือโรคเนยนั่นเองราดด้วยนมข้นหวาน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เนื้อโรตีกรอบกำลังดี ไม่เหนียว ไม่กรอบจนเกินไป รสชาติหวานๆ มันๆ และเมื่อราดด้วยนมข้นหวานแล้วด้วยนี่อร่อยเข้ากันดีค่ะ ที่ร้านมีโปรถ่ายรูปอาหารลง IG ได้รับส่วนรถ 10% ด้วยนะคะ





ร้านนี้เปิดทุกวันนะคะ ตั้งแต่เวลาเก้าโมงเช้าไปจนถึงสามทุ่ม และที่สำคัญ WIFI ฟรีค่ะ เหมาะมากสำหรับวันหยุดหรือวันสบายๆ ที่อยากจะมาใช้เวลาเงียบๆ นั่งดื่มกาแฟพร้อมกับทานโรตีอร่อยๆ แนะนำร้านนี้เลยค่ะ เพื่อนๆ จะต้องชอบใจอย่างแน่นอน

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onio:
49  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมูเชียงใหม่ / “ข้าวหมกไก่ไลลา” ประตูเชียงใหม่ เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2014, 02:31:30 AM
“ข้าวหมกไก่ไลลา” ประตูเชียงใหม่

ย่านประตูเชียงใหม่เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ชาวเชียงใหม่จะไปหาอะไรทานกันในตอนเย็น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านรถเข็นง่ายๆ ตั้งโต๊ะนั่งทานอาหารเย็นริมทางแบบชิลๆ มีร้านให้เลือกมากมายทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว หรือข้าวราดสารพัดอย่าง วันนี้เลดี้ดาริกาขอนำเสนอร้านอาหารรถเข็นแสนธรรมดา แต่ความอร่อยไม่ธรรมดา นามว่า “ข้าวหมกไก่ไลลา”


ข้าวหมกไก่ไลลา ตั้งอยู่ริมถนนบำรุงบุรี หน้า 7-11 ใกล้กับประตูช้างเผือก เป็นร้านรถเข็น มีโต๊ะให้นั่งประมาณ 4-5 โต๊ะเท่านั้น ที่จอดรถค่อนข้างหายากพอสมควรเนื่องจากบริเวณนั้นเป็นถนนรอบคูเมืองที่แคบที่สุด การจราจรหนาแน่นมากๆ ตั้งแต่ตอนเย็นไปจนถึงตอนหัวค่ำ ถ้าเป็นรถยนต์แนะนำให้จอดก่อนถึงย่านนั้นจะดีกว่าแล้วเดินเอา หรือถ้าเป็นรถมอเตอร์ไซด์ก็ยังพอหาที่จอดแถวนั้นได้อยู่


ข้าวหมกไก่ เป็นอาหารของชาวมุสลิม ที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยตอนต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเป็นอิทธิพลของชาวเปอร์เซียที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับไทย และได้นำข้าวหมกมาเผยแพร่อีกด้วย เมื่อใดก็ตามที่เราเห็นสัญลักษณ์ฮาราล นั่นก็แสดงว่าจะมีข้าวหมกไก่และอาหารอิสลามให้เราได้ลิ้มลองกัน


เมนูของร้านนี้ล้วนเป็นอาหารอิสลามทั้งสิ้น โดยมีข้าวหมกไก่เป็นพระเอก นอกจากนั้นก็จะมีข้าวหมกเนื้อ ข้าวหมกแพะ ข้าวหมก-แกะ ข้าวซอย ซุปหางวัว ข้าวมันไก่ ราคาเริ่มตั้งแต่ 35 บาท จนถึง 140 บาท ในเมื่อข้าวหมกไก่เป็นพระเอกก็ต้องสั่งข้าวหมกไก่มาลองค่ะ ราคา 35 บาท พิเศษ 55 บาท


รอแป๊บเดียวแม่ค้าก็เอามาเสริฟ ข้าวหมกไก่ชุดนี้ประกอบไปด้วย ข้าวหมกไก่ น้ำจิ้ม น้ำซุป และแตงกวา (เราก็เรียกไม่ถูกอ่ะคะ เหมือนกับตอนเราทานหมูสะเต๊ะจะมีน้ำเปรี้ยวๆ ที่ใส่แตงกวาด้วย) ที่เราสั่งมาเป็นแบบธรรมดา มีน่องไก่หนึ่งน่องสีเหลืองน่าทานมาก โรยด้วยหอมแดงเจียว ข้าวสวยก็เป็นสีเหลืองเช่นเดียวกัน หอมกรุ่นด้วยเครื่องเทศ ข้าวไม่จับตัวกันเป็นก้อนๆ ค่อนข้างเรียงเม็ดได้สวยงาม ไก่ก็นุ่มสุกทั่วชิ้น เวลาทานไก่พร้อมกับข้าวด้วยนี่ช่างเข้ากันสุดๆ และยิ่งราดด้วยน้ำจิ้มที่ออกเปรี้ยวๆ หน่อยนะ เพอร์เฟคจริงๆ ค่ะ ถ้ารู้สึกเลี่ยนก็ทานแตงกวากับน้ำเปรี้ยวๆ ลงตัวกำลังดี และเมื่อทานหมดปิดท้ายด้วยซุปร้อนๆ อีกหนึ่งถ้วย อิ่มกำลังดีเลยค่ะ อาทิตย์ต่อมาเราสั่งแบบพิเศษ 55 บาท ได้ไก่อีกชิ้นหนึ่ง อิ่มสุดๆ ไปเลย



ร้านนี้เปิดทุกวันนะคะ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 24.00 น. ข้าวหมกไก่อาจจะเป็นอาหารใหม่สำหรับเพื่อนๆ หลายๆ คน ใครผ่านไปผ่านมาแถวประตูเชียงใหม่ไม่รู้จะทานอะไรก็ลองข้าวหมกไก่ไลลาก็ได้นะคะ รับรองจะต้องกลับมาทานใหม่อีกแน่นอน

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onio:
50  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / Café de Garden ร้านกาแฟสบายๆ ในสวนบวกหาด เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2014, 02:31:30 AM
Café de Garden ร้านกาแฟสบายๆ ในสวนบวกหาด

สวนบวกหาดเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นสวนสาธารณะที่อยู่กลางเมือง การเดินทางสะดวกสบาย อยู่ตรงแจ่งกู่เฮืองพอดี อยู่ทางคูเมืองด้านในนะคะ ภายในสวนสามารถประกอบกิจกรรมได้หลากหลาย จะนั่งชิลๆ ก็ได้ มาวิ่งออกกำลังกายก็ดี หรือมาปิกนิคกับครอบครัวในวันสบายๆ ก็น่าสน วันนี้ขอนำเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของที่นี่นั่นคือการนั่งจิบกาแฟสบายๆ


ร้านนี้มีชื่อว่า Café de Garden ตั้งอยู่ตรงปากประตูทางเข้าสวนบวกหาดเลยค่ะ แต่อาจจะลำบากนิดหนึ่งเรื่องที่จอดรถที่มีอยู่จำกัด  เดินเข้ามาในสวนก็เจอเลย เป็นอาคารชั้นเดียวเล็กๆ มีต้นไทรขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วร้าน สร้างบรรยากาศที่ร่มรื่น ที่นั่งก็มีให้เลือกว่าจะนั่งตากแอร์เย็นๆ ในร้านหรือนั่งชิลๆ รับลม ซึมซับบรรยากาศธรรมชาติข้างนอกร้านก็ได้ รวมๆ ก็น่าจะมีประมาณ 15 โต๊ะ 



เมนูมีให้เลือกพอสมควร เช่น พวกกาแฟมาตรฐานมีครบ คาปูชิโน่ ลาเต้ เอกเพรสโซ่ ฯลฯ ราคา 45-70 บาท ช็อคโกแลต นม ชา ราคา 45-60 บาท น้ำผลไม้ สมูทตี้ ราคา 40-60 บาท และน้ำผลไม้โซดาราคา 45 บาท โดยรวมก็เป็นราคามาตรฐานตามร้านกาแฟทั่วไป ส่วนใครที่หิวก็มีอาหารตามสั่งด้วยนะคะ หรือถ้าใครอยากอยากทานขนมหวานที่นี่ก็มีเค้กให้เลือกหลายแบบ ราคาชิ้นละ 70 บาท หรือถ้าชอบไอศกรีมก็มีอีกเช่นกัน เรียกได้ว่าร้านนี้มีครบหมดเลยแหล่ะค่ะ



ก่อนไปร้านในวันนั้น ตอนเช้าได้จัดกาแฟไปหนึ่งแก้วแล้วจึงไม่ค่อยเหมาะเท่าไรที่จะจัดอีกแก้วในเวลาไล่เลี่ยกัน จึงขอเป็นชาเขียวปั่น 1 แก้วค่ะ รอแปบเดียวก็ได้ เพราะช่วงนั้นเป็นวันธรรมดา คนส่วนใหญ่เขาทำงานกัน ชาเขียวแก้วนี้รสชาติถือว่าสอบผ่าน ไม่หวานจนเกินไป ปั่นน้ำแข็งได้ละเอียดดี ดื่มกาแฟพร้อมชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติสบายตา หรือนั่งดูหนุ่มๆ สาวๆ มาวิ่งออกกำลังกายก็เพลินไปอีกแบบ อ่อลืมบอกไปว่าทางร้านยังมีบริการ wifi free อีกด้วยแหล่ะค่ะ ใครที่จะเอาโน๊ตบุ๊คมาทำงานที่นี่ก็ได้นะคะ มีปลั๊กไฟให้เสียบด้วย


ร้านนี้เหมาะสำหรับใครก็ตามที่อยากนั่งกินอะไรชิลๆ พร้อมชมธรรมชาติ หรือชมกิจกรรมของคนที่มาเดินเล่นในสวน หรือคนที่มาสวนบวกหาดโดยไม่ได้มีจุดประสงค์ในการมาร้านกาแฟตั้งแต่แรก แต่มาเพื่อออกำลังกายหรือมาเดินเล่น ก็จะมีเครื่องดื่มเอาไว้บริการพักให้หายเหนื่อย



เปิดตั้งแต่เวลา 08.30 น. จนถึง 19.00 น. ใครไม่รู้จะไปไหนก็แวะมานั่งดื่มกาแฟพร้อมชมวิวก็ได้อารมณ์ชิลๆ ไปอีกแบบนะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onio:
51  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้าน สเต๊ก เชียงใหม่ / “สเต็กเชฟเปี๊ยก” สเต็กราคาบ้านๆ ย่านเจ็ดยอด เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2014, 01:45:41 AM
“สเต็กเชฟเปี๊ยก” สเต็กราคาบ้านๆ ย่านเจ็ดยอด

สเต็ก แค่ได้ยินชื่อนี้ก็รู้สึกว่ามันเป็นอาหารตะวันตกที่มีราคาค่อนข้างสูง คนธรรมดาทั่วไปก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทาน จึงมีคนคิดทำเป็นร้านบุฟเฟต์ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าบุฟเฟต์มันยังไม่โดนเท่าไร ดังนั้นการเปิดร้านสเต็กราคาไม่แพงมากพร้อมทั้งมีรสชาติที่ดี จึงเป็นร้านสเต็กอีกแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ รีวิวครั้งนี้เลดี้ดาริกาจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับร้านสเต็กบ้านๆ ร้านหนึ่งค่ะ ชื่อว่า “สเต็กเชฟเปี๊ยก”


ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยวัดเจ็ดยอด ถนนเจ็ดยอดโพธิ์ธาราม ถ้ามาจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์จะอยู่ก่อนถึง7-11 ร้านเป็นตึกแถว 1 คูหา การตกแต่งภายในร้านก็ธรรมดาๆ แต่เน้นความสะอาดเป็นสำคัญ เมื่อเข้าไปในร้านเราจะเห็นผู้ชายวัยกลางคนเดินง่วนอยู่ในร้านหรือไม่ก็คอยดูแลลูกค้า คนนี้ไม่ใช่ใครอื่น คือเชฟเปี๊ยกนั่นเอง


เมนูหลักของร้านนี้คือสเต็กต่างๆ หมู ไก่ เนื้อ ปลา โคขุน มีซอสให้เลือกหลากหลาย ซอนพริกไทยดำ ซอสเห็ด ทาร์ทาร์ซอส หรือจะสั่งเป็นชุดรวมก็ได้ ราคาเริ่มต้นที่ 55-79 บาท!! ถูกมากเลยค่ะ อาหารเด็ดอีกอย่างหนึ่งก็คือสปาเกตตี้สูตรต่างๆ เนื้อ ไก่ ทะเล เขียวหวาน ฯลฯ มีให้เลือกกันอย่างจุใจในราคา 45 บาท สลัดก็มี นอกจากนั้นคนที่ชอบทานอาหารตามสั่ง หรือออกแนวไทยๆ หน่อยก็มีให้เลือกด้วยค่ะ



เราสั่งสเต็กเนื้อกับสลัดทูน่าค่ะ สั่งไปไม่ถึง 10 นาที อาหารก็มาแล้ว เร็วมากๆ สำหรับสเต็ก ตอนสั่งเราไม่ได้บอกนะคะว่าเอาสุกหรือดิบแค่ไหน แต่เชฟเปี๊ยกคงเห็นเราเป็นคนไทยจึงทำสุกๆ มาให้ เนื้อไม่เหนียวมากกำลังดี รสชาติเมื่เข้าปากรู้สึกชุ่มลิ้นดี ซอสพริกไทยดำที่ราดมาก็ช่วยยกระดับให้เนื้อชิ้นนี้อร่อยเข้าไปอีก เครื่องเคียงมีขนมปังปิ้ง ไส้กรอก สลัดน้อยๆ และเฟร้นฟรายด์ ส่วนสลัดทูน่าก็ไม่ทำธรรมดานะคะ เนื้อทูน่าให้มาเต็ม ไม่ใช่ให้มานิดๆ หน่อยๆ เน้นผักเยอะๆ เหมือนร้านบางร้าน เมื่อคลุกเคล้าเนื้อทูน่ากับผักที่สดใหม่พร้อมด้วยซอสซีซ่า (เดาเอานะคะ แต่คิดว่าน่าจะใช่) มันช่างเข้ากันดีเหลือเกิน เป็นเมนูสุขภาพที่อร่อยมากๆ ปิดท้ายด้วยผลไม้ วันนี้เป็นแตงโม เป็นของสมนาคุณจากทางร้านค่ะ




สรุปนะคะว่านร้านสเต็กเชฟเปี๊ยกเป็นร้านที่เน้นการบริการที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ตั้งราคาอาหารสบายกระเป๋า เชฟเปี๊ยกเป็นผู้ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ต้อนรับจนกระทั่งลูกค้ากลับ คอยสอบถามว่าขาดเหลืออะไรไหม รสชาติเป็นอย่างไร อร่อยหรือเปล่า น่าประทับใจมากค่ะ เลดี้ดารากิขอเก็บร้านนี้ให้เป็นร้านสเต็กในดวงใจอีกหนึ่งร้าน  เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-22.00น. เพื่อนๆ อย่าลืมแวะไปชิมสเต็กสูตรเด็ดของเชฟเปี๊ยกกันเยอะๆ ด้วยนะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onio:
52  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมูเชียงใหม่ / “ข้าวหมูช้างเผือกคาวบอย” อีกตำนานความอร่อยแห่งประตูช้างเผือก เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2014, 11:38:08 PM
“ข้าวหมูช้างเผือกคาวบอย” อีกตำนานความอร่อยแห่งประตูช้างเผือก

“เย็นนี้กินอะไรดี” คำถามโลกแตกที่เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นแฟน หรือเป็นญาติพี่น้องในครอบครัว ถ้าชาวเชียงใหม่ท่านใดยังไม่ทราบว่าจะทานอะไรกันดี วันนี้ขอนำเสนอร้านอาหารร้านหนึ่งที่มีชื่อเสียงด้านความอร่อยไม่ใช่น้อย (บางคนอาจจะไม่รู้จักก็ได้นะ อิอิ) นั่นคือ “ร้านข้าวขาหมูช้างเผือกคาวบอย”


ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ตลาดยามเย็นบริเวณประตูช้างเผือก อีกหนึ่งสถานที่ฝากท้องยามเย็นของชาวเมืองเชียงใหม่ หรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวก็แวะเวียนมาทานอาหารเย็นที่นี่ไม่ใช่น้อย ร้านอร่อยๆ ก็มีอยู่หลายร้าน แต่วันนี้ขอนำเสนอร้านข้าวขาหมูช้างเผือกคาวบอย ชื่ออาจะยาวไปหน่อย ถ้าเรียกสั้นก็มีหลายชื่อ เช่น ขาหมูช้างเผือก ขาหมูคาวบอย หรือขาวหมูแม่ค้าคนสวย


บริเวณนี้หาที่จอดรถยากหน่อยนะคะ ยิ่งเป็นตอนเย็นๆ หัวค่ำรถยิ่งติด ลำบากพอสมควร ถ้าเอารถยนต์ก็ต้องคอยจ้องที่ว่างๆ บริเวณริมทางให้ดี แต่ถ้าใครเอารถมอเตอร์ไซด์มาก็สบายหน่อย มีที่ให้จอดริมทางพอสมควร แต่จะให้ดีที่สุด ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงอยู่แถวนั้นเดินมาก็ได้ค่ะ


ร้านนี้เป็นร้านรถเข็นธรรมดาๆ ทั่วไป แต่มีลูกค้ายืนรออยู่หน้าร้านแน่นตลอด แค่เห็นคนยืนรอคิวซื้อหน้าร้านเยอะๆ ก็พออุปมานได้ว่ามันต้องอร่อยบ้างแหล่ะคนถึงยืนรอเยอะขนาดนี้ ส่วนที่เรียกว่าขาหมูแม่ค้าคนสวย หรือขาหมูคาวบอย ก็เพราะว่า เจ้จอยเจ้าของร้าน ผู้มีประสบการณ์ด้านขาหมูมากว่า 30 ปี เป็นสาวหน้าตาดี รักสวยรักงาม  ใส่หมวกคาวบอยอยู่ตลอดเวลาจนเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวไปแล้ว และเธอเป็นผู้คอยหั่นขาหมูใส่จานด้วยตนเองตลอดตั้งแต่เปิดร้านยันปิดร้าน



บรรยากาศภายในร้านก็ธรรมดาๆ อาจจะไม่ค่อยสะอาดมากนักตามประสาร้านริมทางทั่วไป มีโต๊ะให้นั่งประมาณ 10 โต๊ะ ข้าวขาหมูราคา 35 บาท จัดเต็มทั้งเนื้อ หนัง เครื่องใน คากิ และไข่ เราไม่รอช้าจึงสั่งมา 1 จาน รอประมาณ 5 นาทีก็มาอยู่ตรงหน้าล่ะ แต่ขอเตือนก่อนนะคะว่าทานขาหมูอย่ากลัวอ้วน นานๆ ทานสักครั้งไม่เป็นไร เพราะเนื้อขาหมูชุ่มไปด้วยมัน  รสชาติอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ เนื้อนุ่ม เห็นแดงๆ แบบนี้สุกทั่วทั้งชิ้นนะคะ และไม่เหนียว ที่สำคัญต้องทานคู่กับกระเทียม พริกขี้หนู ผักกาดดอง ต้นหอม มันจะทำให้ขาหมูจานนี้อร่อยขึ้นเป็นทวีคูณ



ร้านเปิดตั้งแต่ตอนเย็นไปจนถึงเที่ยงคืน ใครที่ชื่นชอบข้าวขาหมูไม่ต้องไปไกลถึงร้านดังที่ขาหมูเชียงดาว ที่ประตูช้างเผือกก็มีข้าวขาหมูอร่อยๆ ให้เพื่อนๆ ได้ทานแล้วค่ะ รับรองว่าจะต้องติดใจขาหมูเจ้จอยแน่นอน

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onio:
53  เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / เที่ยวสันกำแพง “วัดร้องวัวแดง” กราบขอพรหลวงพ่อสมปรารถนา เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2014, 11:16:31 PM
เที่ยวสันกำแพง “วัดร้องวัวแดง” กราบขอพรหลวงพ่อสมปรารถนา


ครั้งก่อนเลดี้ดาริกาได้พาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักวัดพระป้าน ซึ่งถือเป็นวัดในอำเภอสันกำแพงวัดแรกที่เลดี้ดาริกามานำเสนอกับเพื่อนๆ ครั้งนี้เลดี้ดาริกาขอพาเพื่อนๆ กลับไปยังอำเภอสันกำแพงอีกครั้ง คราวนี้พาไปเที่ยววัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของสันกำแพงกัน “วัดร้องวัวแดง”



วัดร้องวัวแดง เป็นวัดขนาดกลาง แต่มีความสำคัญ เป็นที่รู้จักกันดีของคนสันกำแพงและชาวเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ตำบลร้องวัวแดง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับรางวัลดีเด่นในฐานะวัดพัฒนาดีเด่นจากหน่วยงานต่างๆ หลายรางวัลทีเดียว เมื่อได้ไปสัมผัสจริงก็เห็นว่าภายในบริเวณวัดเป็นระเบียบ และสะอาดเรียบร้อยมากๆ เหมาะกับรางวัลที่ได้รับ

พระวิหารของวัด


ก่อนเราจะไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ภายในบริเวณวัด เรามาทำความรู้จักกับพระอารามชนบทแห่งนี้กันสักเล็กน้อย พระอารามแห่งนี้มีอายุเก่าแก่กว่า ๒๕๔ ปีทีเดียวค่ะ เป็นวัดราษฎร์ที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อนเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในชุมชน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๓๐๓ ราวๆ ยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ตรงกับช่วงเวลาฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ หลังจากโดนพม่ายึดครองและถูกทิ้งร้างมายาวนาน

พระประธานในพระวิหาร

ชื่อ “ร้องวัวแดง” ตั้งชื่อตามหมู่บ้าน ซึ่งเล่ากันว่าในอดีตบริเวณนี้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของวัวกระทิงป่า หรือ “วัวแดง” ส่วนคำว่า “ร้อง” นั้นคงเพี้ยนเสียงมาจากคำว่า “ฮ่อง” หรือ “ร่อง” หมายถึงลำธารน้ำ ซึ่งไหลไปบรรจบกับลำห้วยแม่ออน ชาวบ้านเชื่อว่ากระทิงเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่ง มีเสน่ห์ และศักดิ์สิทธิ์

พระสมปรารถนาพุทธชยันตีฯ

พระพุทธสิหิงค์พุทธชยันตี

เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณวัด เราก็จะพบกับวิหารขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่บนฐานเดียวกับพระเจดีย์ประธาน ตามลักษณะของสถาปัตยกรรมล้านนา พระวิหารมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาสมัยใหม่ หน้าบันลวดลายพรรณพฤกษา ประดับกระจกสีสวยงาม ผนังหน้าพระวิหารและจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหารเขียนรูปพุทธประวัติ

พระเจดีย์ประธานของวัด

นอกจากพระประธานซึ่งอยู่ด้านในสุดของพระวิหารแล้ว ถัดมาข้างหน้าเล็กน้อย มีพระพุทธรูปสำริดสององค์ตั้งอยู่ คือ พระพุทธสิหิงค์พุทธชยันตี มีลักษณะศิลปกรรมแบบเชียงแสน และพระสมปรารถนาพุทธชยันตีฯ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ


ออกมาด้านหลังพระวิหาร บนฐานเดียวกัน เป็นพระเจดีย์ประธานของวัด สร้างใหม่ตามแบบเจดีย์ทรงปราสาทล้านนา ประดับด้วยสีทองสวยงาม โดยรอบมีการจำลองพระธาตุประจำปีเกิดทั้ง ๑๒ มาไว้ให้ผู้คนกราบไหว้ โดยไม่ต้องเดินทางไปไกล ด้านหน้าพระเจดีย์นั้นมีพระพุทธรูปสมปรารถนาพุทธชยันตีอีกองค์หนึ่ง ปิดทองอร่ามทั้งองค์ ตั้งอยู่ในตู้กระจก

นี่ก็พระสมปรารถนาอีกองค์

เข้ามาภายในวัด หากใครสังเกตก็จะพบว่า มีพระพุทธรูปที่เรียกชื่อว่า “สมปรารถนา” อยู่ทั่วไป เพราะเป็นพระพุทธรูปสำคัญของวัด องค์จริงเก็บรักษาไว้ในอาคารเฉพาะ ซึ่งตอนที่เลดี้ดาริกาไปเยี่ยมชมวัดนั้นยังไม่เปิดให้เข้าชม กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะสุโขทัยตอนปลาย อายุกว่า ๗๐๐ ปีแล้ว (เก่าแก่มากๆ ค่ะ)


เพื่อนๆ คนไหนเดินทางมาเที่ยวสันกำแพง และกำลังมองหาที่เที่ยว ชอบวัดวาอาราม กราบพระขอพร วัดร้องวัวแดงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ มาชมความงามของพระเจดีย์ ความสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบของวัดแห่งนี้กันนะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :22:
54  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / "ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัย" หลัง ม.เชียงใหม่ เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2014, 11:01:49 PM
"ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัย" หลัง ม.เชียงใหม่

หลังจากครั้งที่แล้วเลดี้ดาริกาพูดถึงก๋วยเตี๋ยวฟ้ามุ่ย รู้สึกติดใจกับก๋วยเตี๋ยว จึงออกสรรหาก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดในละแวกตัวเมืองเชียงใหม่ และในที่สุดก็มาพบกับร้านก๋วยเตี๋ยวเลิศรสอีกร้านหนึ่ง เพิ่งเปิดได้ไม่นานมานี้เองค่ะ ชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัย”


ร้านนี้ตั้งอยู่ที่โซนหลัง ม.เชียงใหม่ เยื้องๆ กับประตูวิศวะ ใครที่จะมาร้านนี้ไม่ต้องกลัวหลง เพราะป้ายร้านสีแดงขนาดใหญ่ โดดเด่นเป็นสง่าสังเกตเห็นได้ง่าย เป็นร้านขนาด 2 คูหา บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยรูปภาพและโคมไฟที่ดูทันสมัย มีโต๊ะให้เลือกนั่งประมาณ 15 โต๊ะ และที่สำคัญร้านสะอาดค่ะ


เมื่อเลือกที่นั่งได้แล้ว หยิบเมนูขึ้นมาดู ก็จะเป็นเมนูกระดาษยาวๆ ที่ร้านในสมัยนี้เขานิยมกัน เราก็ไม่รู้ว่าทำไมชอบใช้เมนูแบบนี้กันจัง หลายครั้งแล้วที่งงกับเมนูทำนองนี้ว่าต้องสั่งอย่างไร ต้องเขียน ต้องติ๊กในช่องไหน แถมมันยังเปลืองกระดาษอีก สู้มีสมุดเมนูกับใช้กระดาษจดยังง่ายกว่าอีก อาจจะเป็นเพราะว่าเพื่อความสะดวกในการเชคยอดการขายละมั้ง


เมนูหลักคือก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำ แห้ง และเกาเหลา มีเส้นให้เลือก 6 เส้น คือ เล็ก หมี่ขาว ใหญ่ หมีเหลือง มาม่า และวุ้นเส้น ราคามาตรฐานค่ะ ธรรมดา 35  พิเศษ 40 บาท ส่วนพวกเมนูเสริมก็จะเป็นพวกลวกจิ้ม กับเมนูไข่ อันนี้ก็ไม่ทราบว่าหน้าตาเป็นเช่นไร ราคา 25-50 บาท ส่วนเครื่องดื่มก็จะออกแนวรักสุขภาพ เป็นน้ำสมุนไพร ราคาแก้วละ 15 บาท


เราสั่งหมี่ขาวน้ำตกหมูค่ะ พร้อมด้วยน้ำตาลสดหนึ่งแก้ว รอไม่ถึง 5 นาที พนักงานก็นำมาเสริฟแล้วค่ะ แค่เห็นหน้าตาก๋วยเตี๋ยวก็ประทับใจแล้วค่ะ หน้าตาน่าทานมาก เส้นหมี่ขาวดูนุ่มๆ บริสุทธิ์ โรยด้วยกระเทียมเจียว น้ำก๋วยเตี๋ยวกลิ่มหอมฉุยด้วยเครื่องเทศ อยู่ในชามก๋วยเตี๋ยวรูปเรือ เข้ากันดีเชียว ทางร้านติดป้ายบอกว่ากรุณาชิมก่อนปรุง เพราะรสจัด เราก็ลองชิมก่อน รู้สึกว่ารสชาติมันก็ไม่ได้จัดมากนะคะ ต้องปรุงเพิ่ม อาจจะเป็นเพราะเราชอบรสจัดจ้านมากๆ ก็ได้ อิอิ


หลังจากปรุงได้ที่แล้วก็เริ่มหม่ำกันเลย รสชาติกลมกล่อมครบรสมากๆ หมูลวกสุกกำลังดี ยิ่งทานพร้อมกับผักคะน้าด้วยแล้วเข้ากันสุดๆ นี่แหล่ะรสชาติก๋วยเตี๋ยวเรือแบบฉบับภาคกลางที่หามานาน ไม่ได้กลับไปทานแถวภาคกลางนานมากแล้ว


เบ็ดเสร็จคิดเงิน 50 บาทค่ะ ราคาถือว่ากำลังดีเลยทีเดียวสำหรับอาหารหนึ่งมื้อในสมัยนี้ ถ้าไปทานแถวๆ กรุงเทพย่านดังๆ ด้วยนี่คงเกือบๆ ร้อยบาท อยากชวนให้เพื่อนๆ มาลองทานก๋วยเตี๋ยวเรือที่ร้านนี้ค่ะ รับรองจะติดใจจนต้องหาโอกาสมาทานบ่อยๆ แน่นอนค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onio:
55  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / "ผัดไทย 5 รส" ความอร่อยที่อยู่คู่ท่าแพมากว่า 10 ปี เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2014, 10:51:39 PM
"ผัดไทย 5 รส" ความอร่อยที่อยู่คู่ท่าแพมากว่า 10 ปี

ผัดไทย หนึ่งในอาหารที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย เนื่องจากเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติที่เมื่อมาเยือนเมืองไทยต้องสั่งทานกันแทบทุกคน เรื่องของเรื่องคือมีอยู่วันหนึ่งขับรถไปเรื่อยเปื่อยแถวย่านท่าแพเพื่อหามื้อเย็นทาน และ บังเอิญไปเจอป้ายร้านผัดไทยร้านหนึ่ง จึงตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปในซอย จนกระทั่งไปเจอร้านผัดไทยเรียบง่ายร้านหนึ่ง “ผัดไทย 5 รส”


ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนช้างม่อยซอย 3 ต้องเข้าซอยทางถนนท่าแพนะคะ เพราะว่าในซอยรถวิ่งทางเดียว เข้าทางถนนช่างม่อยไม่ได้ ตัวร้านเป็นคูหา 2 ห้อง มีโต๊ะให้นั่งประมาณ 10 โต๊ะ ลูกค้ามีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พอเข้าไปนั่งก็ต้องแปลกใจกับป้ายสีเหลืองๆ ที่แขวนอยู่รอบๆ ร้านเต็มไปหมด ก็เลยลองอ่านดู ที่แท้เป็นป้ายที่ทางร้านเตรียมเอาไว้ให้กับลูกค้าได้เขียนแสดงความรู้สึกว่า รสชาติเป็นอย่างไร ประทับใจไหม? เท่าที่เห็นก็มีแต่คนชื่นชมนะคะ มีทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ บางคนบอกมาเชียงใหม่ต้องมาทานทุกครั้ง บางคนมาเรียน มช. มาทานตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ แสดงว่าร้านนี้เด็ดจริงๆ



มาดูที่เมนู มีแต่ผัดไทยค่ะ (ก็ร้านผัดไทยนี่หน่า อิอิ) ผัดไทยธรรมดา 30 บาท ผัดไทยพิเศษ 35 บาท ผัดไทยห่อไข่ 40 บาท และผัดไทยกุ้งสด 90 บาท อย่างหลังนี่แพงเอาเรื่องเหมือนกัน ไว้โอกาสหน้าว่าจะลองค่ะ อยากรู้ว่า 90 บาทนี่มีอะไรมั่ง แต่งวดนี้ทานแบบกลางๆ ก็แล้วกัน นั่นคือ ผัดไทยห่อไข่



รอประมาณ 10 นาทีแม่ค้าก็เอามาเสริฟ ร้านนี้ทำสดๆ ผัดจานต่อจาน ไม่เหมือนกับบางร้านที่ทำเตรียมเอาไว้แล้ว  ผัดไทยร้านนี้ไม่เหมือนผัดไทยร้านอื่นตรงที่จะมีใบตองรองบนจานอีกชั้นหนึ่ง ให้ความรู้สึกความเป็นไทยมากๆ เส้นก๋วยเตี๋ยวถูกซ่อนอยู่ภายใต้ไข่แผ่นสี่เหลืองน่าทาน ก่อนทานต้องเปิดเจ้าแผ่นไข่นี่ก่อน แล้วค่อยปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทานเส้นไปพร้อมๆ กับไข่ และอย่าลืมทานพร้อมๆ กับเครื่องเคียงที่ทางร้านจัดให้มาอย่างเต็มที่ มีทั้งต้นหอม ถั่วงอก หัวปลี ส่วนรสชาติต้องบอกเลยว่าอร่อยใช้ได้เลยแหล่ะค่ะ 5 รสที่เขาว่าเราก็บอกไม่ได้นะว่ามีอะไรบ้าง พูดไม่ถูกเหมือนกัน เพื่อนๆ ต้องไปลองชิมด้วยตัวเอง




ผัดไทย 5 รส เป็นร้านผัดไทยอีกร้านหนึ่งที่อยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ ไปลองลิ้มชิมรสกัน อีกสาขาหนึ่งอยู่ใกล้ๆ กับ  รพ.แมคคอร์มิค ใครขับรถผ่านไปผ่านมาก็อย่าลืมไปลองกันดูนะคะ รับรองว่าต้องชอบแน่ๆ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onio:
56  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ / “ก๋วยเตี๋ยวฟ้ามุ่ย” เครื่องเยอะจัดเต็ม!! เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2014, 10:44:38 PM
“ก๋วยเตี๋ยวฟ้ามุ่ย” เครื่องเยอะจัดเต็ม!!

หลังจากย้ายเข้ามาเป็นประชากรแฝงได้สักพัก รู้สึกว่าที่นี่ไม่ค่อยมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเลย จนกระทั่งเปิดไปเจอข่าวในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คเกี่ยวกับก๋วยเตี๋ยวหล่อขั้นเทพ ว้าวๆ แบบนี้เข้าทางเลยค่ะ อิอิ จึงรีบหาโอกาสไปลองชิมว่าอร่อยสมคำร่ำลืออย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า


ร้านนี้มีชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวฟ้ามุ่ย” ตั้งอยู่ที่ The Harbor ริมถนนห้วยแก้ว ห่างจากสี่แยกภูคำเพียง 300 เมตร ร้านนี้เป็นของคุณท็อป ดุลยวิทย์ บัณฑิตจาก ม.เชียงใหม่ หลังจากเรียนจบได้ตัดสินใจลงทุนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว โดยใช้สูตรเด็ดของคุณปู่คุณย่า แล้วนำมาประยุกต์ให้เข้ากับคนรุ่นใหม่


บรรยากาศภายในร้านเน้นการออกแบบที่ทันสมัย มีอยู่ 3 โซนด้วยกัน โซนแรกเป็นหน้าร้านที่ติดกับทางเข้าโรงแรมฮอลิเดย์กาเด้น โดดเด่นด้วยม่านน้ำตก และมีหมอกไอน้ำที่คอยสร้างบรรยากาศเย็นสบาย หรือถ้าใครอยากนั่งห้องแอร์ที่นี่ก็มี ติดแอร์เย็นฉ่ำ ตกแต่งได้ทันสมัยมากๆ เหมือนกับร้านกาแฟเลยค่ะ หรือถ้าใครอยากนั่งในโซนของ The Harbor ก็ได้ นั่งกินไปดูคนเดินไปเดินมา 


วันที่ไปแอบเสียดายนิดๆ ที่ไม่เจอเจ้าของร้านสุดหล่อ อิอิ แต่ก็ไม่เป็นไรจุดประสงค์ของเราคือการลองลิ้มชิมรสก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ด ว่าแล้วก็หยิบเมนูขึ้นมาดู มีอาหารหลักอยู่ 4 ประเภท คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก มีให้เลือก 6 เส้น ขนมจีน ข้าวซอย และเกาเหลา ราคา 50-65 บาท แล้วก็มีเมนูพิเศษ ลวกจิ้มฟ้ามุ่ย แคบหมูทรงเครื่อง เกี๊ยวกรอบน้ำจิ้มบ๋วย ราคาชุดละ 20-80 บาท ส่วนของหวานก็เป็นเครื่องดื่มออกๆ แนวสมุนไพรนิดหนึ่งกับเฉาก๋วยนมสด 


หลังจากที่นั่งดูเมนูสักครู่จึงตัดสินในสั่งก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมู 1 ชาม พร้อมด้วยน้ำเก็กฮวยเย็นๆ อีก 1 แก้ว รอประมาณ 5 นาที ตอนแรกก็แอบคิดในใจนะคะว่าทำไมก๋วยเตี๋ยวราคาแพงจังหว่า แต่พอพนักงานก็เอามาเสริฟก็เข้าใจแล้ว่าทำไมถึงแพง เป็นก๋วยเตี๋ยวชามโตที่จัดเต็มมาก โดยเฉพาะเครื่องทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใน หมู ลูกชิ้นแบน ขนาดบิ๊กเบิ้ม และได้หลายชิ้นด้วย 



รสชาติถือว่าอร่อยใช้ได้ค่ะ เส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวนุ่ม ส่วนพวกเครื่องต่างๆ ก็รสชาติดี น้ำก๋วยเตี๋ยวอาจจะติดหวานไปนิดหนึ่ง แต่ก็เติมเครื่องปรุงนิดๆ หน่อยๆ ก็ได้รสชาติที่อร่อยแล้วค่ะ สรุปว่าโดนใจมากสำหรับก๋วยเตี๋ยวชามนี้ หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว หากยังไม่อิ่มมีของหวานด้วยนะคะ เป็นไอศกรีมมะพร้าวอ่อน กับขนมถ้วยโบราณ 



หลังจากที่ใฝ่ฝันมานานว่าเชียงใหม่จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตก หรือก๋วยเตี๋ยวเรืออร่อยถูกใจ ในที่สุดก็สมใจอยากสักที ใครที่ชื่นชอบก๋วยเตี๋ยวเรือลองมาชิมร้านนี้ดูนะคะ ร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่มีลูกค้าเยอะพอสมควร (อาจได้อานิสงจากพ่อค้าแซ่บ) รับรองว่าถูกใจเพื่อนๆ แน่นอนค่ะ โดยเฉพาะสาวๆ อิอิ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-21.00 น.

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onio:
57  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / "โรตีป้าเด" โรตีที่เขาว่ากันว่าอร่อยที่สุดในเชียงใหม่ เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2014, 10:32:27 PM
โรตีป้าเด โรตีที่เขาว่ากันว่าอร่อยที่สุดในเชียงใหม่

หลายครั้งที่ขับรถผ่านถนนท่าแพ มักจะเห็นภาพที่คุ้นชิน ก็คือ ชาวต่างชาติมุงอยู่รอบๆ ร้านรถเข็นร้านหนึ่ง ก็แอบคิดในใจว่าร้านนี้มีดีอะไร จึงจอดรถที่หน้าวัดมหาวันแล้วเดินไปดู ปรากฏว่าเป็นร้านโรตีเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า โรตีป้าเด


โรตีป้าเดเป็นร้านรถเข็นตั้งอยู่ที่ริมฟุตบาทถนนท่าแพบริเวณด้านหน้าวัดมหาวัน ขายมากว่า 30 ปีแล้ว  มองดูเผินๆ ก็เหมือนกันร้านโรตีธรรมดาๆ ทั่วไปที่มีอยู่ทั่วเชียงใหม่ ถ้าเพื่อนๆ สังเกตดีๆ นะ ร้านโรตีเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติมากๆ ไม่ว่าเจอร้านโรตีที่ไหนจะต้องเห็นชาวต่างชาติเข้าคิวซื้อกันหลายคน แต่ร้านนี้แตกต่างออกไป สิ่งแรกคืออัธยาศัยของป้าเด เจ้าของร้านที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา พูดจากับลูกค้าด้วยอัธยาศัยที่เป็นมิตรมากๆ และบริเวณหน้าร้านมีป้ายอยู่ป้ายหนึ่งที่ป้าเดได้เอาบทสัมภาษณ์จากสิ่งพิมพ์ต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ต่างยอมรับว่านี่คือ “ร้านโรตีที่อร่อยที่สุดในเชียงใหม่”


เมนูมีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่โรตีธรรมดาๆ เริ่มต้นที่ 6 บาทเท่านั้น ถ้าใส่เครื่องอื่นๆ เช่นพวก ไมโล ช็อคโกแลต นมส้ม นมสับปะรด ก็ตกอยู่ที่ชิ้นละ 20 บาท ถ้าใส่ไข่เพิ่มก็เป็น 25 บาท ถ้าใส่สามอย่างเช่น โรตีกล้วย ไข่ สับปะรด ราคา 30 บาท แพงที่สุดคือ โรตีกล้วย ไข่ นูทรีร่า ราคา 45 บาท


ว่าแล้วเราก็สั่งโรตีกล้วยใส่ไข่ ใส่ช็อคโกแลต ราคา 30 บาท ถ้าทานทันทีก็จะใส่กล่องโฟม ถ้าเอากลับบ้านก็ห่อเหมือนกับโรตีทั่วไป ด้วยความอยากรู้ว่ารสชาติจะอร่อยสมคำร่ำลือขนาดไหนเลยสั่งแบบทานทันทีค่ะ รอประมาณ 10 นาที เพราะมีคนมาเข้าคิวเยอะ


โรตีหอมด้วยกลิ่มนม กล้วย และช็อคโกแลต คละคลุ้งรวมกัน หน้าตาน่าทานมาก เนื้อโรตีหนานุ่ม กรอบกำลังดี  ส่วนกล้วยก็ไม่เละเหมือนร้านอื่นๆ ที่เราเคยทานมา  พูดง่ายๆก็คือไม่มีน้ำเยิ้มๆ อ่ะค่ะ แต่ละชิ้นหั่นขนาดพอคำ ทานจนหมดก็ไม่รู้สึกว่าเลี่ยน วัตถุดิบแต่ละอย่างที่เอามาทำเป็นโรตี ขอบอกเลยว่าคุณภาพมาก ไม่ใช่เอามาจากไหนก็ไม่รู้มาทำโรตีให้ลูกค้า นอกจากนั้นป้าเดยังนำเอาน้ำสมุนไพรมาขายด้วยค่ะ ใครที่หิวๆ กระหายน้ำ แวะมาร้านนี้ทีเดียวจบเลยค่ะ


สรุปนะคะโรตีป้าเดอร่อยสมคำร่ำลือที่สื่อไทยและต่างประเทศต่างยกให้เป็นโรตีที่อร่อยที่สุดในเชียงใหม่ เรียกได้ว่าใครก็ตามที่มาเยือนเชียงใหม่ต้องลิสเอาไว้ในรายการท่องเที่ยวเลยค่ะว่าต้องมาทานโรตีที่ร้านป้าเดให้ได้ ร้านนี้เปิดขายตั้งแต่เวลาประมาณตอนเย็นๆ ไปจนถึงตอนดึกๆ เพื่อนๆ อย่าลืมแวะไปพิสูจน์ความอร่อยกันนะคะ สิบปากว่าไม่เท่ากินด้วยปากตัวเอง อิอิ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :onio:
58  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้าน สเต๊ก เชียงใหม่ / “สเต็กลุงช้าง” อร่อยคุณภาพ ราคาประหยัด สัมผัสท้องทุ่งยามเย็น เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2014, 10:29:29 PM
“สเต็กลุงช้าง” อร่อยคุณภาพ ราคาประหยัด สัมผัสท้องทุ่งยามเย็น


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวทริปเชียงใหม่ ช่วงนี้เข้ากลางหน้าฝน ฝนตกบ่อยขึ้น คนเชียงใหม่ได้เปียกปอนกันถ้วนหน้าทีเดียว เลดี้ดาริกาชอบหน้าฝนค่ะ เพราะอากาศไม่ร้อนจัดและไม่แห้งแล้ง แม้จะเปียกปอนไปบ้าง แต่ก็แลกมาด้วยอากาศเย็นสบายหลังฝนตก และต้นไม้เขียนชอุ่ม


ช่วงวันหยุดยาวเข้าพรรษาที่ผ่านมาเลยตัดสินใจออกไปขี่มอเตอร์ไซค์เล่นนอกเมืองยามเย็น และถือโอกาสหาร้านอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ ราคาสมเหตุสมผลมาฝากเพื่อนๆ กันด้วย “สเต็กลุงช้าง” ริมทางรถไฟคือร้านแนะนำของเราวันนี้ค่ะ


“ร้านสเต็กลุงช้างและก๋วยเตี๋ยวลุงช้าง” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสารภีค่ะ บนถนนเลียบทางรถไฟ ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก วิธีเดินทางที่ง่ายที่สุดคือขับรถมาจากเมืองเชียงใหม่ตามถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูน จนถึงแยกหนองหอย เลี้ยวซ้ายแล้วขับตรงไปจนถึงทางรถไฟ (อย่าข้ามสะพานนะคะ) จะมีทางบังคับเลี้ยวให้เลียบไปตามทางรถไฟ มุ่งหน้าไปทางจังหวัดลำพูนค่ะ ประมาณ 5 กิโลเมตร ร้านสเต็กลุงช้างตั้งอยู่ขวามือ บรรยากาศร่มรื่น ล้อมรอบด้วยไร่เกษตร ยามเย็นอากาศดีมากค่ะ



นอกจากบรรยากาศของร้านที่น่าประทับใจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เลดี้ดาริกาประทับใจมากคืออัธยาศัยของพนักงาน มีน้องพนักงานคนหนึ่งมารับออร์เดอร์ หน้าตายิ้มแย้ม พูดจาสุภาพ และคุยสนุก ให้คำแนะนำและปฏิเสธลูกค้าในคำขอที่ทำให้ไม่ได้อย่างอ่อนน้อม พนักงานคนอื่นๆ ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้เรียบร้อยดี ขอปรบมือให้ดังๆ เลยค่ะ เพราะประทับใจมาก



มาร้านสเต็กลุงช้างทั้งทีต้องไม่พลาดสั่งสเต็กมารับประทานกันค่ะ ราคาเริ่มต้นที่ 39 บาท และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามประเภทของสเต็ก ราคาสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 100 บาทต้นๆ ไม่แพงเลยค่ะ เลดี้ดาริกาลองสั่งสเต็กไก่น้ำจิ้มแจ่ว และสเต็กเนื้อมาอย่างละหนึ่งจาน น้ำจิ้มแจ่วรับประทานคู่กับสเต็กไก่ก็เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ปริมาณอาหารอาจจะน้อยไปสักนิด แต่ก็ไม่แปลกใจอะไรเพราะแปลผันไปตามราคา


นอกจากสเต็กแล้ว ร้านของลุงช้างยังมีอาหารชนิดอื่นๆ อีกมากมายไว้ให้ลูกค้าเลือก ยกตัวอย่างเช่น กุ้งแม่น้ำเผา เมนูปลาหมึก หอยแครง ต้มยำชนิดต่างๆ สปาเกตตี และอาหารอื่นๆ อีกหลายหลายชนิด เลดี้ดาริกาขอจัดกุ้งแม่น้ำเผากับยำหอยแครงมาลองชิมแทนเพื่อนๆ ยำหอยแครงอร่อย หากเพื่อนๆ เป็นคนชอบรสชาติเปรี้ยวนำจะประทับใจมากเป็นพิเศษ ส่วนกุ้งแม่น้ำเผาราคา 120 บาท เสิร์ฟมาบนจาน 6 – 8 ตัว อร่อยมาก ยิ่งรับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรของทางร้านยิ่งอร่อยมากๆ มีข้อติติงเล็กน้อยเรื่องความสด (อาจจะเป็นโชคไม่ดีของฉันพอดีค่ะ)


เพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหาร้านอาหารบรรยากาศดีๆ อาหารอร่อย ราคาสมเหตุสมผล ร้านสเต็กลุงช้างเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เหมาะกับการดินเนอร์กับคู่รัก ครอบครัว หรือสังสรรค์กับเพื่อนๆ ร้านลุงช้างเปิดทุกวันค่ะ 10:00 – 22:00 น มีที่จอดรถเยอะมากๆ ค่ะ ไปลองชิมกันดูนะคะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :01:
59  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / ร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมูเชียงใหม่ / “เมตตา” เป็ดย่างสูตรเยาวราชก็อร่อยที่เชียงใหม่ได้ เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2014, 11:31:47 PM
“เมตตา” เป็ดย่างสูตรเยาวราชก็อร่อยที่เชียงใหม่ได้

ไหนๆ บทความที่แล้วเลดี้ดาริกาก็เผยไต๋กับเพื่อนๆ ไปแล้วว่าเป็นคนชอบกินเป็ดมากๆ จากที่เคยเป็นอาหารที่ไม่อยากจะแตะเลยในวัยเด็ก จู่ๆ ก็กลายมาเป็นเมนูหนึ่งในลิสต์รายการอาหารโปรดไปเสียได้ เพื่อไม่ให้เสียเที่ยวที่อุตสาห์เชียเมนูเป็ดออกนอกหน้ามาตั้งแต่ต้น ก็เลยถือโอกาสนี้แนะนำร้านเป็ดย่างเจ้าอร่อย (อร่อยมากๆ) อีกเจ้าหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ มีชื่อที่แสนเป็นมิตรว่า “ร้านเมตตา”


ร้านเมตตาตั้งอยู่ติดกับตลาดจันทร์กุมาร ย่านกาดต้นพะยอมค่ะ ริมถนนทางเข้ากองบิน 41 ถ้ามาจากทางถนนสุเทพ เลี้ยวเข้ามาทางกองบิน 41 ร้านตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ ข้างๆ คุณยายก๋วยเตี๋ยวเรือ เยื้องโรงแรมพิงค์พยอม เดินทางง่าย ร้านมีป้ายบอกชัดเจน หาไม่ยากค่ะ


พูดถึงร้านข้าวหน้าเป็ด (แน่นอนว่าต้องมาพร้อมๆ กับข้าวหมูแดงและหมูกรอบด้วย) เราก็มักจินตนาการถึงร้านประตูบานพับเก่าๆ ที่มีอาซิ่มอาแปะเป็นคนหันเป็ด สับหมู เสิร์ฟลูกค้า (เลดี้ดาริกาค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่คนเดียวที่คิดภาพนี้) แต่สำหรับร้านเมตตาแล้ว เพื่อนๆ อาจจะต้องลบภาพจำเดิมๆ ทิ้งไป เพราะการตกแต่งร้านนั้นทันสมัย เจ้าของร้านก็ยังอายุมามากค่ะ เรียกได้ว่าร้านนี้บริหารงานโดยคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่หันมาจับธุรกิจของตัวเอง นอกจากนี้สูตรเป็ดย่างของทางร้านยังการันตีด้วยชื่อ “เยาวราช” ย่างของกินแสนอร่อยจากกรุงเทพฯ เลยทีเดียว


ความพิเศษแรกของข้าวหน้าเป็ดเมตตาคือน้ำราด ที่รสชาติไม่หวานจัดจนแสบคอ กลมกล่อมกำลังดี ราดบนเนื้อเป็ดหั่นเป็นชิ้น ไม่มีกลิ่นสาบสักนิด หนังเป็ดย่างได้ที่อร่อยมากๆ นอกจากนี้ยังมีข้าวหน้าหมูแดง หมูกรอบ และไก่ไว้เป็นตัวเลือกบริการลูกค้าอีกด้วย รสชาติอร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ

นอกจากเมนูข้าวแล้ว สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังลดปริมาณแป้งรักษาหุ่น อาหารประเภทเส้นรับประทานคู่กับเป็ด หรือหมูแดงหมูกรอบ ซึ่งก็หนีไม่พ้น “บะหมี่เหลือง” เรียกได้ว่าเป็นของคู่กัน บะหมี่ของทางร้านนี้พิเศษกว่าพิเศษตรงที่เป็นสูตรของทางร้านและลงมือทำเอง ไม่ได้ไปซื้อเส้นมาจากไหน หรือใครอยากสั่งเป็ดย่างกลับบ้านไปรับประทานกับครอบครัวที่นี่ก็มีบริการเหมือนกัน


ราคาอาหารกลางๆ ไม่ถือว่าแพง ข้าวหน้าเป็ดธรรมดาเริ่มต้นที่ 40 บาท พิเศษ 50 บาท แต่หน้าอื่นๆ เช่นหมูกรอบ หมูแดง หรือไก่ จะถูกลงประมาณ 10 บาท อาหารเส้นมีเรทราคา 30 / 40 / 50 บาท เพิ่มเกี๊ยวจะแพงขึ้นนิดหน่อย เป็ดสับเป็นตัวราคา 130 บาท อาจมีข้อติติงเพียงเล็กน้อยตรงที่ปริมาณอาหารอาจจะน้อยไปสักหน่อย แต่รับรองว่าอร่อยแน่ๆ


ร้านเมตตา เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 09:00 – 21:00 น ใครชอบกินเป็ดย่าง หรือไม่เคยคิดจะกินเป็นแบบเลดี้ ดาริกาสมัยเด็กๆ รับรองว่ามาร้านนี้จะต้องติดใจอาหารจานเป็ดไปเลยทีเดียวค่ะ

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :17:
60  ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / แนะนำ ร้านกาแฟ ชา เบเกอรี่ เค้ก ขนม ไอศกรีม อาหารว่าง ของทานเล่น ในเชียงใหม่ / ลิ้มรสกาแฟโบราณขึ้นชื่อที่ “ร้านสมนึกโกปิ๊” เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2014, 11:23:54 PM
ลิ้มรสกาแฟโบราณขึ้นชื่อที่ “ร้านสมนึกโกปิ๊”


แม้ว่าการมีร้านกาแฟเล็กๆ เป็นของตัวเองจะเป็นความฝันของคนรุ่นใหม่ และกระแส “Coffee Shop Boom” จะเป็นของใหม่ในยุคปัจจุบัน แต่แท้ที่จริงแล้ววัฒนธรรมการดื่มกาแฟเข้ามาในสังคมไทยเนิ่นนานแล้ว รุ่นพ่อแม่ของเรายังไม่มีร้านกาแฟเก๋ๆ ให้นั่ง ไม่มีแบรนด์กาแฟดังๆ ราคาหลักร้อยอย่างทุกวันนี้ พ่อแม่เราสมัยเด็กๆ คงมีโอกาสน้อยครั้งที่จะได้สั่งกาแฟฝรั่ง ออกเสียงเรียกชื่อยากๆ อย่าง ลาเต้ อเมริกาโน คาปูชิโน่ มอคค่า เพราะกาแฟแต่เก่าก่อนมีเพียงสองอย่างคือกาแฟใส่นม อย่างที่เราๆ เรียกกันว่า “กาแฟเย็น” กับกาแฟดำใส่น้ำตาลที่เรียกกันว่า “โอเลี้ยง”


“กาแฟโบราณ” หรือ “โกปิ๊” (น่าจะเพี้ยนเสียงมาจากคำว่า Coffee กระมัง เลดี้ดาริกาคาดเดาเอาเองสนุกๆ ค่ะ) คือวัฒนธรรมการดื่มกาแฟแบบไทย ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีต้นกำเนิดมาจากไหน แต่ยุคนั้นกาแฟจะขายในร้านเล็กๆ กลางตลาดเพื่อให้คนมานั่งกินและพบปะพูดคุยกัน หรือขายบนรถเข็น และเรือพาย คำว่ากาแฟโบราณ อาจทำให้หลายๆ คนนึกไปถึงกาแฟหิ้วใส่ถุงมัดยางวงข้างเดียว เก่าหน่อยก็กระป๋องนมข้นเจาะรู ร้อยด้วยเชือกกล้วยแทนหูหิ้ว



“สมนึกโกปิ๊” เป็นร้านกาแฟโบราณที่มีชื่อเสียงของเมืองเชียงใหม่ เป็นร้านเล็กๆ ในห้องแถวไม้เก่าๆ ที่เหลือเพียงหลังเดียว บนถนนสายเชียงใหม่-ลำพูนสายเก่า หากเดินทางมาจากเมืองเชียงใหม่ ข้ามสะพานนวรัฐแล้วเลี้ยวขวาทันที เลียบแม่น้ำปิงมาตาถนนเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงสามแยกไปสถานีรถไฟเชียงใหม่ ก่อนถึงถนนต้นยาง เขตตำบลหนองหอยเพียงเล็กน้อย ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณสามแยกพอดีค่ะ


ภายในร้านตกแต่งด้วยบรรยากาศย้อนยุค มีของเล่นและสินค้าสมัยเมื่อประมาณ 30 – 40 ปีก่อนตั้งโชว์บ้างก็แขวนโชว์ไว้ พระเอกของร้านคือรถเข็นขายกาแฟโบราณคันเก่าที่ทางร้านยังคงเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ให้คิดถึงวันวาน ที่นี่ไม่ขายกาแฟสูตรตะวันตก มีเพียง “โกปิ๊” หรือกาแฟสูตรโบราณ และเครื่องดื่มง่ายๆ เช่น โอวัลติน โกโก้ ชาเย็น ชาดำ ชามะนาว น้ำสมุนไพร และน้ำผลไม้บางชนิดเท่านั้น



กาแฟโบราณทำอย่างไรให้อร่อยก็ถือเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่ง เพราะบางร้านหวานจัดจนแสบคอ แต่สำหรับที่สมนึกโกปิ๊ รสชาติไม่หวานจัด มันนม กลมกล่อมกำลังดี ดื่มเย็นๆ ดับกระหายคลายร้อน หรือจะจิบร้อนๆ ยามเช้าก็ช่วยให้สดชื่นกระปี้กระเป่าขึ้นมาได้ เลดี้ดาริกาได้ลองแล้ว รับรองได้ว่าอร่อยจริงๆ ค่ะ ราคาเครื่องดื่มถูกมากๆ แบบเย็นเพียงแก้วละ 20 บาท แบบร้อน 30 บาท ถูกจนตกใจนึกว่าอ่านราคาผิด



นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ที่ร้านนี้ยังมีขนมอร่อยๆ ไปจนถึงอาหารง่ายๆ ไว้นำเสนอลูกค้าที่อยากรับประทานของหนักๆ รองท้องสักหน่อย พูดถึงเรื่องราคาอาจจะสูงกว่าร้านทั่วไปนิดหน่อย 40 – 60 บาท แต่ก็เป็นราคาที่รับได้ค่ะ ไม่แพงเกินไป

ร้านสมนึกโกปิ๊เปิดทุกวันค่ะ 09:00 – 18:00 น

เรื่องและภาพโดย เลดี้ ดาริกา  :10:
หน้า: 1 2 3 4 »




Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.5 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.243 วินาที กับ 18 คำสั่ง