สัมผัสความมันส์ไปกับ Indoor Climbing @ No Gravity (Page 1-5)

[Traveller Freedom]

สัมผัสความมันส์ไปกับ Indoor Climbing @ No Gravity (Page 1)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 94 ถนนอัษฎาธร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 081 031 3371
พิกัด : 18.803884, 98.994976

    No Gravity เป็นโรงยิมสำหรับ Indoor Climbing หรือการปีนผาจำลองในร่ม ถือเป็นรูปแบบการออกกำลังกายชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย สำหรับกีฬาชนิดนี้ถือเป็นกีฬาที่ท้าทาย เหมาะสำหรับสายผาดโผนอย่างผมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากใครที่มาในสายเดียวกันก็คงมีโอกาสได้ปีนไต่กันไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย แต่สำหรับใครที่กำลังจะสนใจ ในเนื้อหานี้จะแนะนำขยายความกันแบบสมบูรณ์ครบถ้วนสุดๆ เลยทีเดียว

    Rock Climbing หรือ กีฬาปีนผา เป็นการปีนหน้าผาจริง หรือหน้าผาจำลอง ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวขวาง โดยมีเป้าหมายคือการขึ้นสู่จุดสูงสุดที่กำหนด โดยไม่ให้มีการตก นอกจากนี้ Rock climbing ยังมีแขนงย่อยอีกหลากหลาย แต่หลักๆ ที่ปีนกันในบ้านเราจะเป็นการปีนแบบ Sport climbing นั้นก็คือมีการใช้เชือกและอุปกรณ์ป้องกัน ตามเส้นทางที่กำหนดโดยมีการเจาะหน้าผาไว้แล้ว

    กีฬาปีนผา เป็นกีฬารูปแบบ adventure รูปแบบหนึ่งที่นอกจากจะต้องใช้กำลังร่างกายแล้ว ยังต้องอาศัยกำลังใจและความคิด ผู้เล่นจำเป็นต้องมีทักษะสูง ระหว่างการปีนหน้าผาจะต้องคิดตลอดเวลาว่าจะปีนขึ้นไปอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เหมือนการเล่นหมากรุกที่ต้องใช้ความคิดและมีการวางแผนล่วงหน้าตลอดเวลา ในส่วนของจิตใจคือสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้สู้กับความกลัว หนึ่งในความกลัวพื้นฐานของมนุษย์ก็คือกลัวความสูง ยิ่งถ้าออกไป outdoor บางครั้งต้องปีนสูงถึง 30 เมตร ยิ่งทำให้มีอาการกลัวมากกว่าการปีนหน้าผาจำลอง สำหรับเรื่องแรงกาย แน่นอนว่ากีฬาชนิดนี้ต้องการแรงกายเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าปีน route ที่ยากขึ้น ยิ่งต้องใช้แรงกายมากเป็นเท่าตัว หากเป็นคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายแล้วละก็ พอมาปีนจะหมดเรี่ยวหมดแรงไปเลย เพราะฉะนั้นกีฬาชนิดนี้ (จริงๆ ก็กีฬาทุกชนิดแหละ) จำต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน เพื่อเตรียมความพร้อมทางสภาพร่างกาย ซึ่งจะเป็นผลดีโดยตรงต่อสุขภาพ ร่างกายจะแข็งแรงมากขึ้น มีกล้ามเนื้อให้เห็นเด่นชัดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตสำหรับบางคนเลยทีเดียว

    และที่สำคัญที่สุดสำหรับผมก็คือความท้าทาย เพราะการปีนจนขึ้นไปถึงบนจุดสูงสุดมันคือการเอาชนะ นึกถึงตอนเล่นเกมสมัยเด็กๆ มันก็คือการเอาชนะในแต่ละด่าน เมื่อผ่านด่านแล้วก็จะเพิ่มความยากขึ้นไปอีก เพื่อเอาชนะในด่านที่ยากขึ้นต่อไป และต่อไปเรื่อยๆ เพิ่มขีดความสามารถของตัวเองได้ในแบบไม่มีที่สิ้นสุด

** No Gravity Indoor Climbing เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 13.00-22.00 น.

by Traveller Freedom

[Traveller Freedom]

สัมผัสความมันส์ไปกับ Indoor Climbing @ No Gravity (Page 2)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 94 ถนนอัษฎาธร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 081 031 3371
พิกัด : 18.803884, 98.994976

    การปีนผา แบ่งตามสภาพแวดล้อมหลักๆ ได้สองแบบ คือ outdoor กับ indoor หรือกลางแจ้งกับในร่ม สำหรับ Outdoor คือ การปีนหน้าผาตามธรรมชาติ โดยร่างกายจะได้สัมผัสกับหินจริงอะไรจริง ซึ่งจะเป็นหน้าผาที่มีการวางเส้นทางไว้อยู่แล้ว สำหรับในเมืองไทยจะมีสถานที่นิยมกันมาก เช่น หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก รวมถึงแคมป์น้ำผาป่าใหญ่ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้กรุงเทพมหานครสามารถเดินทางได้สะดวก ความสนุกของการปีน outdoor คือการได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงาม อากาศดีมีความบริสุทธิ์ ดูแล้วน่าจะดีกว่าการปีนผาในร่ม แต่อย่างไรมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย นั้นก็คือความลำบากของอากาศที่ร้อน ฝุ่นและดินก็ถือเป็นอุปสรรค และการเดินขึ้นไปสู่หน้าผาก่อนการปีนก็จะเพิ่มความอ่อนล้า ซึ่งจะเป็นการตัดกำลัง และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความอันตรายที่มีมากกว่าหน้าผาจำลองอย่างแน่นอน เนื่องจากอาจมีหินตกหล่น หรือเหตุการณ์อื่นที่ไม่คาดคิด หินที่จับแต่ละก้อนก็ไม่อาจทราบได้ว่าจะรับน้ำหนักตัวเราได้หรือไม่ ต่างกับผาจำลองที่รับน้ำหนักได้อย่างมั่นคงไม่มีผิดพลาด

    สำหรับการปีนผาแบบ Indoor คือ การปีนหน้าผาจำลองในโรงยิม ซึ่งจะจำลองมาจากหน้าผาจริง แต่ตัวจับ หรือ holds จะทำจากไฟเบอร์กลาส ซึ่งจะมีหลายสีแตกต่างกัน ตามระดับความยากง่าย (ไปครั้งแรกคิดว่าปีนสีไหนก็ได้ แต่นั้นมันง่ายเกินไป) indoor ถือเป็นขั้นตอนในการฝึกปีนหน้าผาเบื้องต้น นอกจากจะได้ฝึกฝนและเข้าใจหลักการแล้ว ยังสะดวกต่อการเดินทางด้วย สามารถปีนได้ทุกวันทุกเวลา ไม่มีปัญหาเรื่องฝนฟ้าอากาศ และที่สำคัญที่สุดก็คือความปลอดภัยนั้นเอง ทั้งนี้ยังถือเป็นการเตรียมพร้อมก่อนการออกสนามหน้าผาจริง นอกจากนี้การปีนหน้าผาในโรงยิม ยังมีหลายประเภทแยกย่อยออกไปได้อีก แต่หลักๆ จะมี 2 ประเภท คือ Bouldering กับ Sport climbing ทั้งสองแบบมีความท้าทายและความสนุกแตกต่างกันไป โดยทั่วไปในโรงยิมจะมีให้ลองทดสอบทั้งสองแบบ

    Bouldering เป็นการปีนผาที่มีความสูงไม่มาก เพียง 3-4 เมตร โดยมีความท้าทายด้วยความยากของเส้นทาง การปีน bouldering จะไม่ต้องใส่ harness และไม่ใช้เชือก ทั้งนี้หากพลาดตกลงมา สิ่งที่รองรับด้านล่างก็คือเบาะนิ่มๆ นั้นเอง

    Sport climbing คือการปีนผาแบบใช้เชือกเพื่อความปลอดภัย หรือ harness หน้าผามีความสูงประมาณ 8-15 เมตร โดยจะต้องมีผู้ปีน หรือ climber และผู้จับเชือก หรือ belay หลักการปีนที่ถูกต้องจะต้องปีนไปตามสีที่กำหนด โดยผู้ปีนต้องใช้ทักษะในการปีนขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด โดยไม่ตกลงมา (แม้จะรู้ว่ายังไงก็ไม่ตกเพราะมีเชือกเซฟอยู่ก็ตาม) ทั้งนี้ sport climbing แบ่งย่อยออกไปอีกสองแบบ คือ Top rope และ Lead climbing

by Traveller Freedom

[Traveller Freedom]

สัมผัสความมันส์ไปกับ Indoor Climbing @ No Gravity (Page 3)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 94 ถนนอัษฎาธร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 081 031 3371
พิกัด : 18.803884, 98.994976

    Top rope คือการปีนโดยที่เชือกจะคล้องอยู่ด้านบนสุดของหน้าผา เป็นการปีนที่มีความปลอดภัย เนื่องจากจะมีเชือกคอยดึงไว้ตลอดเวลา สำหรับมือใหม่เริ่มปีน จะเริ่มต้นด้วยการปีนแบบ top rope

    Lead Climbing คือการปีนโดยที่ผู้ปีนจะต้องค่อยๆ ดึงเชือกขึ้นไปคล้องกับอุปกรณ์บนหน้าผาที่ปักไว้ให้อยู่แล้ว การปีนรูปแบบนี้จะมีความยากเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีความอันตรายมากกว่าด้วย ผู้ปีนจะต้องอาศัยทักษะมากกว่า top rope รวมถึงจะต้องได้รับการฝึกฝนมาพอสมควร

    ระดับความยากของการปีนหน้าผา หรือ Grading ซึ่งแต่ละประเทศจะใช้ไม่เหมือนกัน รวมถึง Grading ของ bouldering กับ sport climbing ก็จะไม่แตกต่างกันอีกด้วย ฉะนั้นจะเน้นไปที่ Grading รูปแบบ in door ในบ้านเรา ซึ่งเกรดเหล่านี้จะมีป้ายบอกไว้ที่ด้านล่างสุดของ route ซึ่งจุดที่แปะป้ายก็คือจุดเริ่มต้นการปีนนั่นเอง โดยจะเริ่มต้นที่เกรด 5 ซึ่งเป็นเกรดที่ง่ายที่สุด จากนั้นก็จะเพื่มความยากไปตามลำดับ 5a, 5b, 5c นอกจากนี้จะมีเพิ่มบวก เช่น 6a+ ก็จะยากกว่า 6a สำหรับ bouldering ในบ้านเราจะใช้เกรด V หรือที่เรียกว่า Hueco ของUSA อันที่จริงระดับความยากง่ายเป็นเพียงความรู้ทางทฤษฏี สำหรับมือใหม่เริ่มปีนคงไม่ต้องสนใจและมัวคอยกังวลกับเรื่องนี้ สามารถปีนได้ตามสะดวก ไม่ต้องตามสีที่กำหนด อยากปีนสีไหนเอาที่สบายใจได้เลย เมื่อฝึกฝนจนชำนาญแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มระดับเพิ่มความท้าทายมากขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วความรู้เหล่านี้จะเข้าหัวไปเอง

    การเตรียมความพร้อมในการมาปีนหน้าผาจำลองนั้น สำหรับมือใหม่เตรียมใจมาก่อนเลย เนื่องจากการปีนหน้าผาเป็นกีฬาที่ท้าทายความสูง เพราะมีบางคนที่มาปีนครั้งแรกนั้น กลับพบว่าเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นคนกลัวความสูงก็มี นอกจากนี้ก็ควรจะเตรียมสภาพร่างกายมาให้พร้อม เฉกเช่นเดียวกันการเล่นกีฬาทุกประเภท เพื่อให้กล้ามเนื้อได้คุ้นชินกับการออกแรง สำหรับการแต่งกาย ถ้าเป็นมือใหม่มาปีนเป็นครั้งแรก ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ใดๆ มาเลย เนื่องจากที่โรงยิมจะมีให้เช่าอุปกรณ์ทั้งหมดพร้อมสรรพแล้ว ชุดที่เหมาะสำหรับการปีนควรเป็นกางเกงขายาวคลุมเข่า เพราะว่าเขาอาจกระแทกกับหน้าผาได้ กางเกงคลุมเข่าจะลดอาการเจ็บ กางเกงควรควรมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากมีการเหยียดตึงและงอขาสลับกันตลอด ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะใส่กางเกงแบบการฝึกโยคะ  เพราะยืดหยุ่นดี ส่วนเสื้อจะเป็นกล้าม เสื้อยืด เสื้อกีฬาทั่วไปตามสะดวก แต่ไม่ต้องใส่ถุงเท้า เพราะมีสิทธิ์ที่รองเท้าจะลื่นหลุดได้

by Traveller Freedom

[Traveller Freedom]

สัมผัสความมันส์ไปกับ Indoor Climbing @ No Gravity (Page 4)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 94 ถนนอัษฎาธร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 081 031 3371
พิกัด : 18.803884, 98.994976

    การปีนหน้าผาจำลอง หรือ Indoor Climbing ในรูปแบบ Sport climbing ซึ่งถือเป็นรูปแบบยอดนิยมที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร ผู้ปีนจะต้องมีผู้ดูแลคอยดึงเชือก หรือ belay เปรียบเสมือนเป็นบัดดี้ อาจจะเป็นสต๊าฟประจำโรงยิม หรือเพื่อนที่ไปด้วยก็ได้ ทั้งนี้ belay จะต้องเข้าคอร์สฝึกอบรมก่อนการปฏิบัติจริง โดยเฉพาะการมัดปมเชือกเข้ากับharness เพราะนั้นหมายถึงการดูแลชีวิตหนึ่งชีวิตที่กำลังปีนขึ้นไปบนผาสูงเชียวนะ

    การทำหน้าที่เป็น belay จำต้องเรียนรู้หลักการในการรักษาความปลอดภัยพื้นฐาน และศัพท์ที่ใช้ในการปีน โดยแต่ละโรงยิมจะมีการกำหนดที่แตกต่างกันไป ถ้าเป็นที่ Rock Domain Climbing Gym สต๊าฟจะสอนให้และสอบได้เลย แต่ถ้าเป็น Urban Playground จะต้องลงคลาสเรียน หลังเรียนจบจะได้รับการ์ด Top rope belay ซึ่งการ์ดนี้จะต้องนำมาทุกครั้งและห้อยไว้ที่ harness ไม่งั้นสตาฟจะไม่อนุญาตให้ทำหน้าที่เป็น belay ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย และถือเป็นกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด แต่ในปัจจุบันมีเครื่องที่ช่วยดึงเชือกให้อัตโนมัต หรือที่เรียกว่า Auto belay คือสามารถปีนขึ้นไปเองคนเดียวได้ แน่นอนว่าสำหรับมือใหม่ต้องใช้บริการ belay ประจำโรงยิม เนื่องจากสต๊าฟเหล่านี้จะแนะนำวิธีการปีนที่ถูกต้อง รวมถึงคอยแก้ปัญหาให้ในยามคับขันอีกด้วย

    อุปกรณ์ที่ต้องใช้สำหรับการปีนผาจำลอง โดยโรงยิมจะมีอุปกรณ์ให้ คือ “Harness” เป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ใช้สวมรัดบริเวณสะโพกและเอว กับ “Climbing shoes” คือรองเท้าสำหรับปีนผา ซึ่งโรงยิมจะมีให้เช่าทุกขนาด เป็นรองเท้าที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ แตกต่างจากรองเท้าทั่วไป โดยจะมียางส่วนหน้าที่หนา ทำให้เกาะกับ hold ได้ดี สำหรับผู้ที่มาใช้บริการบ่อยๆ การซื้อไว้เป็นของตัวเอง จะทำให้ประหยัดกว่าการมาเช่าที่โรงยิมอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ก็อยู่ที่ความสมัครใจและงบประมาณของแต่ละคน
 
    หากต้องการมีอุปกรณ์เป็นสมบัติของตัวเองแล้วละก็ แน่นอนว่า “รองเท้า” ถือเป็นสิ่งแรกและถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากที่สุด เพราะนอกจากจะต้องเลือกให้มีขนาดที่พอเหมาะพอดีกับเท้าเราแล้ว ยังหมายถึงความสะอาดอีกด้วย อุปกรณ์ชิ้นต่อไปคือ “Harness” หรืออุปกรณ์เซฟตี้ที่คาดไว้บริเวณเอวกับต้นขา ซึ่งว่ากันว่า Harness ที่ให้เช่ากับ Harness ที่วางขาย จะมีหน้าตาแตกต่างกันเล็กน้อย ทั้งนี้น่าจะมีผลในเรื่องของความสบายในการสวมใส่ รวมถึงมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าตามมูลค่าที่เสียไป นอกจากสองสิ่งนี้ยังมีออฟชั่นเสริมเพิ่มเติมอีกมากมาย เช่น Chalk Bags หรือกระเป๋าเก็บผงชอล์ค ซึ่งเป็นผงกันลื่น ที่จะคล้องไว้กับ Harness ใช้ในระหว่างการปีนแล้วมือลื่น สามารถเอามือล้วงชอล์คเพื่อกันลื่นได้ทันที

by Traveller Freedom

[Traveller Freedom]

สัมผัสความมันส์ไปกับ Indoor Climbing @ No Gravity (Page 5)

สถานที่ตั้ง : เลขที่ 94 ถนนอัษฎาธร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 081 031 3371
พิกัด : 18.803884, 98.994976

    สำหรับโรงยิมปีนหน้าผาจำลองทั้งสำหรับมือใหม่และมือโปรในจังหวัดเชียงใหม่นั้น นอกจากที่ No Gravity Indoor Climbing แล้ว ยังมีที่ Chiang Mai Rock Climbing Adventures หรือ CMRCA อีกแห่งหนึ่ง โดยที่โรงยิมแห่งนี้จะเน้น Bouldering และ training เป็นหลัก และที่สำคัญคือมีพากรุ๊ปออกไปเพื่อปีนรูปแบบ top rope กับ lead climbing ในสถานที่จริง ที่ crazy horse เป็นประจำทุกวัน มีคลาสสอนสำหรับปีน outdoor ด้วย ซึ่งถือว่ามีความเป็นมาตรฐานระดับโลกเอามากๆ ที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้าจนถึง 2 ทุ่ม

    สำหรับที่ No Gravity Indoor Climbing Gym ที่ผมมาใช้บริการอยู่นั้น ที่นี่มีทั้งแบบ top rope, lead climbing และ bouldering wall และมีคลาสสำหรับสอนปีน รวมถึงสอน belay ด้วย ที่นี่สต๊าฟบริการดีเป็นกันเอง มาใหม่ๆ หน้ามึนๆ ก็สามารถเรียนรู้วิธีการปีนได้อย่างรวดเร็ว ค่าบริการผู้ใหญ่เพียง 280 บาท เล่นได้ตลอดทั้งวัน บวกค่า belay เข้าไปด้วยอีก 100 บาท เป็น 380 บาท ราคาจะรวมค่าเช่าอุปกรณ์ไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งรองเท้าปีนหน้าผา อุปกรณ์เซฟตี้ และกระเป๋าใส่ชอล์คกันลื่น ราคาจะอยู่ตามนี้เลย ไม่ว่าจะนำรองเท้าหรืออุปกรณ์ส่วนตัวไปเองหรือไม่ก็ตาม สำหรับราคาเด็ก 200 บาท คนไทย-ชาวต่างชาติ ราคามาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ยังมีราคาแบบราย 1 เดือน, ราย 3 เดือน, ราย 6 เดือน และรายปี ตามแต่ใครจะสะดวกมาได้บ่อยแค่ไหน

    เห็นเป็นกีฬาแนว extreme แบบนี้ แต่เชื่อมั้ยว่าคนที่นิยมไปเล่นกันมากนั้นเป็นผู้หญิงกับเด็ก แต่เป็นเด็กชาวต่างชาตินะ ตัวเล็กนิดเดียวเอง เป็นเด็กผู้หญิงด้วย ส่วนเด็กผู้ชาย (ต่างชาติเช่นกัน) ก็เหมือนจะเก่งในระดับที่ผู้ใหญ่คนไทยหลายคนปีนสู้ไม่ได้เลย นั้นก็เพราะเด็กฝรั่งพวกนี้เขาให้ฝึกฝนกันมาตั้งแต่ยังเบบี้ โตมาถึงได้เก่ง ได้กล้า มีความสามารถ มีกล้ามเนื้อและรูปร่างที่กำยำ แตกต่างจากคนไทย จริงๆ โรงยิมแบบนี้ในบ้านเรายังมีน้อย เพราะกระแสการตอบรับจากคนไทยน้อยมาก ที่มีอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่ผู้ใช้บริการก็จะเป็นชาวต่างชาติซะมากกว่า อยากเชิญชวนให้คนไทยหันมาออกกำลังกายกันมากๆ จริงๆ เทรนด์ตอนนี้ก็มีเยอะมาก ทั้งการวิ่ง การปั่นจักรยาน แต่หากใครอยากจะลองการออกกำลังกายวิถีใหม่ โดยเฉพาะประเภทในร่มด้วยแล้ว ก็ขอแนะนำการปีนหน้าผาจำลองนี่ละครับ

    ลองดูจากรูปข้างล่างก็ได้ครับ เด็กตัวเล็กนิดเดียว เป็นการออกกำลังและฝึกทักษะเป็นอย่างมาก ฝึกให้กล้าคิดกล้าทำด้วย ลองชวนลูกชวนหลานไปเล่นดูนะครับ *-*

by Traveller Freedom

[auto]

ขอบคุณ ที่แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ อีกรุปแบบหนึ่ง มา 

[Penelope]

น่าไปปีนป่าย ท้าทายความสูง