บ้านถวาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
จัดเทศกาลท่องเที่ยวบ้านถวาย
ระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน ปีนี้ ถึง 20 เมษายน ปีหน้า

 ลดราคาสินค้าหัตถกรรมสูงสุดถึงร้อยละ 70 นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลท่องเที่ยวบ้านถวายฯ ณ ลานกิจกรรม 2 ฝั่งคลอง บ้านถวาย ตำบลขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอำเภอหางดงและองค์กรที่เกี่ยวข้องจัดงานดังกล่าว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

เปิดตลาดสินค้าหัตถกรรมบ้านถวายให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีการสาธิตขั้นตอนการผลิตชิ้นงานการแกะสลักไม้ การปั้นเครื่องปั้นดินเผา รณรงค์ให้ผู้ประกอบการแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง ตกแต่งหน้าร้านและจุดถ่ายภาพ จัดรถบริการนำเที่ยวรอบหมู่บ้านโดยมีมัคคุเทศก์น้อยจากโรงเรียนแก้วผดุงพิทยาลัย นำสินค้าออกจำหน่ายลดราคาร้อยละ 50-70 ของราคาจริง อันเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าบ้านถวายและสินค้าในอำเภอหางดง กระจายรายได้สู่ชุมชน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำในยุโรปและอเมริกา ส่งผลกระทบต่อยอดการส่งออกของสินค้าบ้านถวายถึงร้อยละ 60-70 ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ทางอำเภอหางดงจัดทีมวิจัยตลาด เพื่อแสวงหาลูกค้าในประเทศ โดยจัดกิจกรรมโรดโชว์นำสินค้าไปจัดแสดงยังจังหวัดใหญ่ ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย ขณะเดียวกันในระดับจังหวัดได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดร่วมกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่จัดทีมวิจัยตลาดเพื่อเตรียมพร้อมรับประชาคมอาเซียน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองตลาดสากล งานเทศกาลท่องเที่ยวบ้านถวายระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน 2555 ถึง 20 เมษายน 2556 ขอเชิญเลือกชมเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรม ไม้แกะสลัก ในราคาลดสูงสุดถึงร้อยละ 70 ของราคาจริง พร้อมสัมผัสกับวิถีชีวิตพื้นบ้านและวัฒนธรรมท้องถิ่น

ข้อมูลจาก เชียงใหม่นิวส์

ประเพณียี่เป็ง

        ประเพณี ลอยกระทง หรือ ลอยโขมด มีมาแต่โบราณ เป็นประเพณีเก่าแก่ของล้านนา ที่นับถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15 นับตั้งแต่อาณาจักรหริภุญชัย อาณาจักรล้านนา โดยเมื่อถึงเดือนยี่เป็งก็กระทำพิธีลอยโขมด เป็นการลอยกระทง ความหมายคือ การลอยเพื่อบูชาท้าวพกาพรหม, ลอยเพื่อลอยเคราะห์ลอยบาป, ลอยเพื่อส่งสิ่งของ, ลอยเพื่อบูชาพระนารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร และลอยเพื่อบูชาอุบคุดด์เถระ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึก หรือสะดือทะเล

        ประเพณีการลอยกระทงทางภาคเหนือเรียก ประเพณียี่เป็ง ตรงกับเดือนยี่ ขึ้น 14-15 ค่ำ ประเพณีลอยกระทงทางภาคเหนือนี้ตามหนังสือพงศาวดารโยนก และหนังสือจามเทวีวงศ์ กล่าวสอดคล้องเหมือนกันว่า เมื่อจุลศักราชได้ 309 (พ.ศ.1490) พระยาจุเลราชได้ครองราชสมบัติในนครหริภุญชัย สมัยนั้นได้เกิดโรคระบาดขึ้น ที่ตำนานเรียกว่า โรคหิว หรือ โรคห่า หรือ โรคอหิวาตกโรค ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก บางพวกที่มีชีวิตอยู่เห็นว่าถ้าอยู่ต่อไปต้องตายแน่ จึงพากันอพยพไปอาศัยอยู่ในเมืองสุธรรมวดี คือเมืองสะเทิม ประเทศรามัญ หรือมอญ ต่อมาพระเจ้าพุกาม กษัตริย์พม่าตีได้เมืองสะเทิม ได้เก็บเอากุลธิดาของชาวเมืองไปเป็นบาทบริจาติกาเป็นจำนวนมาก

        เมื่อเบื่อหน่ายก็ทอดทิ้งไม่ชุบเลี้ยงเหมือนดั่งก่อน พวกชาวเมืองหริภุญชัยก็อพยพหนีไปอาศัยอยู่กับพระเจ้าหงสาวดี ซึ่งพระองค์ทรงให้ความอนุเคราะห์ชุบเลี้ยงเป็นอย่างดี หลังจากที่อาศัยอยู่ไม่นาน ชาวเมืองได้ทราบข่าวว่าโรคระบาดทางนครหริภุญชัยสงบแล้ว ก็คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง ก็พากันกลับมายังหริภุญชัยอีกครั้ง บางคนต่างก็แต่งงานมีครอบครัว ก็ไม่กลับไปยังหริภุญชัย ยังคงอยู่ที่เดิมที่เมืองหงสา ครั้นถึงเดือนยี่เป็ง ที่ครบรอบที่ได้จากพี่น้องทางเมืองหงสามา ก็ได้จัดแต่งธูปเทียน เครื่องสักการะบูชา อาหาร เสื้อผ้า วัตถุข้าวของ ใส่ในแพไหลล่องตามแม่น้ำเพื่อเป็นการระลึกนึกถึงยังญาติพี่น้อง โดยคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะล่องลอยไปถึงญาติที่อยู่ในเมืองหงสาอันไกลโพ้น

        การกระทำพิธีดังกล่าวเรียกกันว่า ลอยโขมด หรือลอยไฟ และถือเป็นประเพณีที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน (การลอยกระทงนั้น ในสมัยอาณาจักรล้านนาโบราณเรียกว่า ลอยโขมด คำว่าโขมดเป็นชื่อผีป่า เรียกกันว่าผีโขมด ชอบออกหากินเวลากลางคืน จะมีพะเนียงแสงไฟเห็นเป็นระย้าคล้ายผีกระสือ ดังนี้ กระทงที่จุดเทียนลอยน้ำ แสงไฟจะกระทบกับน้ำทำให้เกิดเงา เหมือนแสงไฟจากผีโขมด ดังนั้น ทางล้านนาโบราณจึงเรียกการลอยกระทงว่า ลอยโขมด)

        ในสมัยอาณาจักรล้านนาไท พุทธศักราชได้ 2061 ตรงกับรัชกาลของพระเจ้าดิลกปนัดดาธิราช (พระเมืองแก้ว) แห่งราชวงศ์มังราย เทศกาลเดือนยี่เป็งเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่มาก อาณาประชาราษฎร์ต่างพากันไปบูชาพระเจ้าในอารามข่วงแก้วทั้งหลาย มากมายไปด้วยผู้คนหนุ่มสาว ผู้เฒ่า ผู้แก่ รื่นเริงม่วนเล่นมหรสพสมโภชครึกครื้น เป็นที่พึงพอใจอย่างยิ่ง

        ประเพณีเดือนยี่เป็ง มาถึงพอเริ่มขึ้น 1 ค่ำ เดือนยี่ วัดวาอารามจะจัดเตรียมสถานที่ในวัด ปัดกวาดพระวิหารศาลาให้สะอาด และจัดเตรียมสิ่งของดังต่อไปนี้ 1.ทำราชวัตร รอบวิหาร เจดีย์ ทำซุ้มประตูป่าทางเข้าวัด 2.ทำโคมแขวน โคมค้าง โคมรูปต่างๆ 3.ทำว่าว หรือโคมลอย ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือ โคมที่ใช้ปล่อยตอนกลางวัน เรียกว่า ว่าว โดยใช้วิธีรมควัน และโคมปล่อยตอนกลางคืน ใช้วิธีรมควันเหมือนว่าวที่ปล่อยกลางวัน แต่จะจุดไฟที่ท่อนผ้าผูกติดกับปากโคมลอยปล่อยสู่อากาศ โคมจะลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ คล้ายดาวเคลื่อนคล้อยในเวหา และ 4.การทำบอกไฟ (บั้งไฟ) ประกอบด้วยบอกไฟหลายชนิด เช่น บอกไฟดอก บอกไฟดาว บอกไฟเทียน บอกไฟช้างร้อง บอกไฟจักจั่น บอกไฟท้องตั๋น บอกไฟขี้หนู ทำขึ้นเพื่อจุดในวันยี่เป็ง

        มีคัมภีร์ที่กล่าวถึงการทำโคมลอย ทำว่าวไว้ด้วยว่า หากคนใดทำจะมีอานิสงส์ 1 กากณึก (ทรัพย์มีค่าเท่าค่าแห่งชิ้นเนื้อพอกานำไปได้ เป็นชื่อมาตราเงินต่ำที่สุด) การปล่อยโคมลอย ว่าว จุดบอกไฟนั้น เป็นการบูชาพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อีกประการหนึ่งด้วย

        สำหรับชาวบ้านชาวเมืองจะจัดเตรียมสิ่งของ ดังนี้ 1.เครื่องนุ่งหย้อง เพื่อจะไปวัดในเดือนยี่เป็ง 2.เตรียมโคมทำราวแขวนโคม เพื่อประดับบูชาหน้าบ้านเรือนตน 3.เตรียมผางผะดิ้ด (ถ้วยประทีป) ไว้เท่าอายุของคนที่อยู่ในเรือนนั้น 4.เตรียมกัณฑ์ธรรม หรือกัณฑ์เทศน์สำหรับจะนำไปถวายพระตอนฟังเทศน์ 5.เตรียมบุปผาลาจาข้าวตอกดอกไม้เพื่อใช้โปรยเวลามีงานในการฟังเทศน์มหาชาติ และใส่ขันแก้วตึงสาม 6.เตรียมอาหาร ผลไม้ ขนม สำหรับพระภิกษุสงฆ์ จัดเตรียมในวันขึ้น 15 ค่ำ ตอนเช้าตรู่ และ 7.ทำซุ้มประตูป่าแบบต่างๆ ให้เป็นที่สวยงาม ประกอบด้วย ต้นกล้วย ต้นอ้อย ก้านมะพร้าว ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกรัก นำมาประดิษฐ์เป็นอุบะห้อยประตูป่า

        วันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่เป็ง ประมาณ 06.00 น. เช้ามืด ชาวบ้านจะนำข้าวปลาอาหารไปถวายพระภิกษุสงฆ์ ที่วัดเรียกว่า ตานขันข้าว เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว

        ตอนสายชาวบ้านจะไปที่วัดเพื่อฟังเทศนาธรรม วัดบางแห่งมักจะมีการตั้งธรรมหลวง เรียกว่า เทศน์ธรรมมหาจาติแบบพื้นเมือง จะมีการเทศน์ทั้งหมด 13 กัณฑ์ ให้เสร็จภายในวันเดียว

        ตอนเช้าลู่ค่ำ ชาวบ้านชาวเมืองจะพากันไปสู่ที่วัด เพื่อนำผางปะดิ้ดไปจุดบูชาพระเจ้าที่วัด จุดโคมบูชาสว่างไสวทั่วพระอาราม หลังจากจุดธูปเทียนบูชาแล้ว จะมีการจุดบอกไฟ (ดอกไม้ไฟ) ประเภทต่างๆ ภายในวัด โดยจุดเป็นพุทธบูชา ส่วนผู้เฒ่า ผู้แก่จะกลับไปบ้าน เพื่อจุดผางปะดิ้ดที่บ้าน บูชาพระพุทธเจ้า บูชาเจ้าที่เจ้าทาง บูชาบ่อน้ำ บูชาประตูบ้าน บูชาครัวไฟ ประตูยุ้งฉาง เทวดาประจำบ้าน

        ประเพณีลอยกระทงของภาคเหนือนั้น เป็นประเพณีที่ได้รับการส่งเสริมตลอดมา ปัจจุบันประเพณีการลอยกระทงทางเหนือได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่

งานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2555

พบกับกิจกรรม

1. พิธีแถลงข่าวงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ปี 2555
2. พิธีเปิดโคมไฟมหัศจรรย์แสงสีแห่งรัตติกาลยี่เป็งเชียงใหม่
3. มหัศจรรย์พุทธอุทยานแห่งการตรัสรู้ 2,600 ปี
4. มหัศจรรย์โคมไฟใต้ร่มพระบารมีบรมราชจักรีวงศ์
5. มหัศจรรย์ดินแดนแห่งอารยะธรรม
6. หศจรรย์โคมไฟล้านนาเฉลิมพระเกียรติฯ
7.เรัศจรรย์โขลงช้างแฟนซี
8. มหัศจรรย์โคมไฟ 12 นักษัตรแฟนตาซี
9. มหัศจรรย์โคมไฟเชียงใหม่เกมส์
10. มหัศจรรย์โคมไฟเฉลิมพระเกียรติปีมหามงคล
11. การประกวดวงดนตรีและร้องเพลงไทยลูกทุ่ง
12. พิธีเปิดงาน "ประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2555"
13. การประกวดขบวนแห่โคมยี่เป็ง ครังที่21 ไนท์บาซาร์
14. การประกวดหนุน้อยยี่เปีงเชียงใหม่
15. การประกวดกระทงลอยนํ้า
16. การจัดชุ้มประตูป่า
17.  ประเพณีตั้งธรรมหลวง (เทศน์มหาชาติ) , ตานขันข้าว
18. สืบฮีต สานฮอย ฮอมปอย ไหว้สาพระสิริมังคลายี่เป็ง
19.  เวทีดนตรีสร้างสรรค์ วัฒนธรรมสร้างสุข ไร้แอลกอฮอล์
20. การประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่
21. ประเพณีตั้งธรรมหลวง (เทศน์มหาชาติ )
22. พิธีบวงสรวงศาลพระภูมิ,เจดีย์ขาว,ขอขมาแม่นํ้าปีง
23. การประกวดโคมลอยและปล่อยโคมลอยยักษ์
24. การประกวดกระทงฝีมือใบตอง - ดอกไม้สด
25. การประกวดขบวนแห่กระทงเล็ก (มหาชาติชาดก,สะเปา)
26. การปล่อยกระทงสายสืบสานล้านนา
27. การแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ ฯ
28. การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานฯ

เทศบาลนครเชียงใหม่ ขอเชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมประดับตกแต่งหน้าอาคารสำนักงาน ด้วยซุ้มประตูป่า ตกแต่งประดับประดาด้วยโคมไฟให้สวยงาม รวมทั้งแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง พูดภาษาคำเมือง ต้อนรับนักท่องเที่ยว

   นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ แจ้งว่า ตามที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน กำหนดจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2555 ภายในงานมีการประกวดขบวนแห่โคมยี่เป็ง ครั้งที่ 21 การประกวดขบวนแห่กระทงเล็ก การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทาน  การประกวดหนูน้อยยี่เป็ง การประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการอนุรักษ์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและสืบทอดประเพณีอันดีงามของชาวล้านนาให้ดำรงอยู่สืบต่อไป

   เพื่อเป็นการเตรียมการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ จึงขอความร่วมมือประชาชนชาวเชียงใหม่ ตลอดจนองค์กรภาครัฐ เอกชน ห้างร้าน ตกแต่งหน้าอาคาร บ้านเรือนด้วยซุ้มประตูป่า ต้นกล้วย ต้นอ้อย ทางมะพร้าว ดอกไม้สดหรือดอกไม้แห้ง ที่นำมาประดับด้วยโคมประทีปหรือแสงไฟให้สวยงาม รวมทั้งขอความร่วมมือแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง อู้ภาษาเมือง ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2555

กำหนดการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2555

ขอบคุณข้อมูลจาก เทศบาลนครเชียงใหม่

ขอขอบพระคุณ ข้อมูล เที่ยวเชียงราย จาก

ศูนย์บริหารจัดการ การท่องเที่ยว จ.เชียงราย

tourismchiangrai.com

16. ดอยตุง - แม่สาย - สามเหลี่ยมทองคำ – เชียงแสน

ออกเดินทางจากโรงแรมที่พัก มุ่งสู่ดอยตุงเพื่อนมัสการพระธาตุดอยตุง ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเชียงราย และเป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า ที่นำมาจากประเทศอินเดีย จากนั้นแวะชมพระตำหนักดอยตุงอันลือชื่อว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเมืองไทยและเดินชมดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ที่สวนสมเด็จย่า ลงจากดอยตุงมุ่งสู่ อ. แม่สายดินแดนเหนือสุดยอดในสยาม ดูสินค้าตามแนวชายแดน และเลือกซื้อเครื่องประดับแสนงามที่ขึ้นชื่อ พอสมควรแก่เวลารับประทานอาหารเที่ยงแบบบุปเฟ่ต์แล้วเดินทางไปดินแดนอันลือเลื่องที่อดีตเคยเป็นสถานที่ปลูกฝิ่น สามเหลี่ยมทองคำ ดูแนวแบ่งแยกดินแดนระหว่างไทย ลาว เมียนมาร์ แวะดูหอฝิ่นและเลือกซื้อสินค้าที่ชื่นชอบตามอัธยาศัย แล้วเลยไปเมืองเก่าแก่ที่มีอายุราว 1,000 กว่าปี อ. เชียงแสน แวะชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ, สถูปเจดีย์, วัดเก่าแก่ต่างๆ, พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับ โรงแรมที่พัก

17. ดอยตุง – แม่สาย

ออกเดินทางจากโรงแรมที่พัก มุ่งสู่ดอยตุงเพื่อนมัสการพระธาตุดอยตุงที่นับถือของชาวเชียงราย เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า ที่นำมาจากประเทศอินเดีย จากนั้นแวะชมวิวดอยช้างมูบ ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของดอยตุง, พระตำหนักดอยตุงอันลือชื่อว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเมืองไทย และเดินชมดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ที่สวนสมเด็จย่า ลงจากดอยตุงมุ่งสู่ อ.แม่สาย ดินแดนเหนือสุดยอดแดนสยามดูสินค้าตามแนวชายแดนและเลือกซื้อเครื่องประดับแสนงาม ที่ขึ้นชื่อพอสมควรแก่เวลารับประทานอาหารเที่ยงแบบบุปเฟ่ต์ เสร็จแล้วข้ามไปยังประเทศเมียนมาร์หรือแวะดูโรงงานทำหยก ยลสาวงามในตาแขก และเลือกซื้อสินค้าราคาถูกที่มาจากประเทศจีน จนพอสมควรแก่เวลาเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

18. ดอยแม่สลอง - เชียงแสน – สามเหลี่ยมทองคำ

 ออกเดินทางจากโรงแรมที่พัก มุ่งสู่ดอยแม่สลอง โดยระหว่างทางแวะเที่ยวชมหมู่บ้านเย้าโป่งแขม และชมทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติอันสวยงามตลอดสองข้างทาง ผ่านหมู่บ้านอาข่ากิ่วสะไต จนถึงหมู่บ้านสันติคีรี ของนายพลต้วน (กองพล 93) บ้านพักพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เลือกซื้อชาพันธุ์ดี, เหล้าท้อ, ผลไม้แช่อิ่ม ฯลฯ ปกติในช่วงฤดูหนาวดอกซากุระจะบานสะพรั่งดูสวยงามมากและเป็นอีกจุดหนึ่งที่สัมผัสกับทะเลหมอกได้ รับประทานอาหารเที่ยงแบบจีนยูนนาน หลังจากนั้นเดินทางไปยังดินแดนอันเลื่องลือในอดีต สามเหลี่ยมทองคำดูรอยแนวแบ่งแยกดินแดน ระหว่างไทย ลาว เมียนมาร์ แวะดูหอฝิ่นและเลือกซื้อสินค้าที่ชื่นชอบตามอัธยาศัย แล้วเลยไปเมืองเก่าแก่ที่มีอายุราว 1,000 กว่าปี อ. เชียงแสน และชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ, สถูปเจดีย์, วัดเก่าแก่ต่างๆ รวมไปถึงพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ได้เวลาสมควรเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

19. แม่สาย - สามเหลี่ยม – เชียงแสน

 ออกเดินทางจากโรงแรมที่พัก มุ่งสู่ อ.แม่สาย ดินแดนเหนือสุดยอดในสยามดูสินค้าตามแนวชายแดนและข้ามไปยังประเทศเมียนมาร์ ยลสาวงามในตาแขกหรือแวะชมโรงงานหยก พร้อมเลือกซื้อเครื่องประดับแสนงามที่ขึ้นชื่อ และสินค้าราคาถูกที่มาจากประเทศจีน รับประทานอาหารเที่ยงแบบบุปเฟ่ต์ เสร็จแล้วเดินทางไปยังดินแดนอันเลื่องลือในอดีตที่สามเหลี่ยมทองคำ ดูรอยแนวแบ่งแยกดินแดนระหว่างไทย ลาว เมียนมาร์ แวะดูหอฝิ่น และเลือกซื้อสินค้าที่ชื่นชอบ ตามอัธยาศัยแล้วเลยไปเมืองเก่า แก่ที่มีอายุราว 1,000 กว่าปี ที่ อ. เชียงแสน และชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ, สถูปเจดีย์, วัดเก่าแก่ต่างๆ, พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

20. ดอยตุง - สามเหลี่ยมทองคำ – เชียงแสน

 ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักมุ่งสู่ดอยตุงเพื่อนมัสการพระธาตุดอยตุงที่นับถือ ของชาวเชียงราย เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากประเทศ อินเดีย จากนั้นแวะชมวิวดอยช้างมูบ ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของดอยตุง พระตำหนักดอยตุงอันชื่อว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเมืองไทย และเดินชมดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ที่สวนสมเด็จย่าและรับประทานอาหารเที่ยง ที่ร้านอาหารที่เหมาะสม เสร็จแล้วเดินทางต่อไปยังดินแดนอันเลื่องลือในอดีตสามเหลี่ยมทองคำ ดูรอยแนวแบ่งแยกดินแดนระหว่างไทย ลาว เมียนมาร์ แวะดูหอฝิ่นและเลือกซื้อสินค้าที่ชื่นชอบตามอัธยาศัย แล้วเลยไปเมือง เก่าแก่ที่มีอายุราว 1,000 กว่าปี อ. เชียงแสน แวะชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ, สถูปเจดีย์, วัดเก่าแก่ต่าง ๆ, พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปีได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก

21. ดอยแม่สลอง – แม่สาย

ออกเดินทางจากโรงแรมที่พัก มุ่งสู่ดอยแม่สลอง โดยระหว่างทางแวะเที่ยวหมู่บ้านเย้าโป่งแขม และชมทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติอันสวยงาม ตลอดสองข้างทางผ่านหมู่บ้านอาข่ากิ่วสะไต จนถึงหมู่บ้านสันติคีรี ของนายพลต้วน (กองพล 93), บ้านพักพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์, เลือกซื้อชาพันธุ์ดี, ผลไม้แช่อิ่ม ฯลฯ ปกติในช่วงฤดูหนาวดอกซากุระจะบานสะพรั่งสวยงามมากและเป็นอีกจุดหนึ่งที่สัมผัสกับทะเลหมอกได้รับประทานอาหารเที่ยงแบบจีนยูนนาน ลงจากดอยมุ่งสู่ อ. แม่สาย ดินแดนเหนือสุดยอดแดนสยามข้ามไปยังประเทศเมียนมาร์ ยลสาวงามในตาแขก หรือแวะชมโรงงานหยก พร้อมเลือกซื้อเครื่องประดับที่สวยงามขึ้นชื่อ ได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก

11. นั่งเรือ-หมู่บ้านกะเหรี่ยง-ขี่ช้าง-ดอยตุง

ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังท่าเรือ แล้วนั่งเรือล่องขึ้นตามลำแม่น้ำกกไปจนถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร (ประมาณ 50นาที) ที่ซึ่งท่านจะขี่ช้างรอบบ้านประมาณ 30 นาที เพื่อดูความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และสัมผัสกับสินค้าพื้นเมืองของชาวบ้านเป็นของที่ระลึกพอสมควรแก่เวลาเดินทางกลับตามเส้นทางเดิม รับประทานอาหารเที่ยงริมแม่น้ำกก เสร็จแล้วเดินทางมุ่งสู่ดอยตุงเพื่อนมัสการพระธาตุที่นับถือของชาวเชียงราย เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากประเทศอินเดีย จากนั้นแวะชมพระตำหนักดอยตุงอันลือชื่อว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเมืองไทย และเดินชมดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ที่สวนสมเด็จย่า หลังจากนั้นเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

12. นั่งเรือ-หมู่บ้านกะเหรี่ยง-ขี่ช้าง-ดอยแม่สลอง

 ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังท่าเรือ แล้วนั่งเรือล่องเรือขึ้นตามลำน้ำแม่น้ำกกไปจนถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร (ประมาณ 50นาที) ซึ่งที่ท่านขี่ช้างรอบหมู่บ้านประมาณ 30 นาที เพื่อดูความเป็นอยู่ของ ชาวบ้าน และสัมผัสกับสินค้าพื้นเมืองของชาวบ้าน เป็นของที่ระลึกพอสมควรแก่เวลาเดินทางกลับตามเส้นทางเดิม รับประทานอาหารเที่ยงริมแม่น้ำกก เสร็จแล้วเดินทางมุ่งสู่ดอยแม่สลองเพื่อเยี่ยมชมหมู่บ้านสันติคีรี ของนายพลต้วน (กองพล 93), บ้านพักพลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์, เลือกซื้อชาพันธ์ดี, เหล้าท้อ , ผลไม้แช่อิ่มฯลฯ ปกติในฤดูหนาวดอกซากุระจะบานสะพรั่งดูสวยงามมาก ระหว่างเดินทางกลับเชียงรายแวะชมทัศนียภาพ ที่เป็นธรรมชาติอันสวยงามตลอดสองข้างทางและหมู่บ้านชาวเขาเดินทางจนถึง โรงแรมที่พัก

13. นั่งเรือ-หมู่บ้านกะเหรี่ยง-ขี่ช้าง-แม่สาย-สามเหลี่ยมทองคำ-เชียงแสน

ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังท่าเรือ แล้วนั่งเรือล่องขึ้นตามลำแม่น้ำกกไปจนถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร (ประมาณ 50นาที)ที่ซึ่งท่านจะขี่ช้างรอบหมู่บ้านประมาณ 30 นาที เพื่อดูความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และเลือกซื้อสินค้า เครื่องประดับที่ขึ้นชื่อ หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังดินแดนอันเลื่องลือในอดีต สัมผัสกับสินค้าพื้นเมืองของชาวบ้านเป็นที่ระลึก พอสมควรแก่เวลาเดินทางกลับตามเส้นทางเดิม รับประทานอาหารเที่ยง ริมแม่น้ำกก เสร็จแล้วเดินทางมุ่งสู่ อ.แม่สาย ดินแดนเหนือสุดในสยามดูสินค้าตามแนวชายแดน และสามเหลี่ยมทองคำ ดูแนวรอยต่อแบ่งแยกดินแดนระหว่างไทย ลาว และเมียนมาร์ แวะดูหอฝิ่น และเลือกซื้อสินค้าที่ชื่นชอบตามอัธยาศัย แล้วเลยไปเมืองเก่าที่มีอายุราว 1,000 กว่าปี อ.เชียงแสน แวะชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ, สถูปเจดีย์, วัดเก่าแก่ต่างๆ, พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

14. ดอยแม่สลอง – ดอยตุง

 ออกเดินทางจากโรงแรมที่พัก มุ่งสู่ดอยแม่สลองโดยระหว่างทางชมทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติสวยงามตลอดข้างทางจนถึงหมู่บ้านสันติคีรี ของนายพลต้วน (กองพล 93), เยี่ยมชมที่บ้านพักพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์, เลือกซื้อชาพันธุ์ดี, เหล้าท้อ, ผลแช่อิ่มฯลฯ ปกติในช่วงฤดูหนาวดอกซากุระจะบานสะพรั่งดูสวยงามมาก และเป็นอีกจุดหนึ่งที่สัมผัสกับทะเลหมอกได้ ระหว่างทางแวะชมหมู่บ้านเย้าผาเดื่อและหมู่บ้านอีก้อสามแยก แวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารที่เหมาะสมหลังจากนั้นเดินทางขึ้นสู่พระธาตุดอยตุงนมัสการพระธาตุที่นับถือของชาวเชียงราย เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า ที่นำมาจากประเทศอินเดีย จากนั้นแวะชมพระตำหนักดอยตุงอันลือชื่อว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเมืองไทย และเดินชมดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ที่สวนสมเด็จย่า ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

15. ดอยแม่สลอง - แม่สาย - สามเหลี่ยมทองคำ - เชียงแสน

 ออกเดินทางจากโรงแรมที่พัก มุ่งสู่ดอยแม่สลอง โดยระหว่างทางแวะชมทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติอันสวยงามตลอดสองข้างทางจนถึงหมู่บ้านสันติบุรี ของนายพลต้วน (กองพล 93), บ้านพักพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์, เลือกซื้อชาพันธ์ดี, เหล้าท้อ, ผลไม้แช่อิ่ม ฯลฯ ปกติในช่วงฤดูหนาวดอกซากุระจะบานสะพรั่งดูสวยงามมากและเป็นอีกจุดหนึ่งที่สัมผัสทะเลหมอกได้ ระหว่างทางลงแวะชมหมู่บ้านเย้าผาเดื่อและหมู่บ้านอีก้อสามแยก หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยัง อ. แม่สาย ดินแดนเหนือสุดในสยาม เพื่อรับประทานอาหารเที่ยง และดูสินค้าตามแนวชายแดน เลือกซื้อเครื่องประดับแสนงามที่ขึ้นชื่อ พอสมควรแก่เวลา หลังจากนั้นเดินทางไปยังดินแดนอันลือเลื่องในอดีต สามเหลี่ยมทองคำ ดูรอยแนวแบ่งแยกดินแดนระหว่างไทย ลาว เมียนมาร์ แวะดูหอฝิ่นและเลือกซื้อสินค้าที่ชื่นชอบตามอัธยาศัย แวะชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ, สถูปเจดีย์, วัดเก่าแก่ต่าง ๆ, พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี แล้วเลยไปเมืองเก่าแก่ที่มีอายุราว 1,000 กว่าปี ที่ อ.เชียงแสน ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับ โรงแรมที่พัก

6. กะเหรี่ยงคอยาว – แม่สาย – สามเหลี่ยมทองคำ – เชียงแสน 

เดินทางออกจากโรงแรมที่พักเพื่อไปเยี่ยมชมกะเหรี่ยงคอยาวซึ่งอพยพมาจากประเทศพม่าเมื่อหลายปีก่อน ที่หมู่บ้านยะผ่า ท่านสามารถเดินดูรอบหมู่บ้านเพื่อชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่และเลือกซื้อของของชาวเขาที่ทำมาจากมือ จากนั้นเดินทางไปยัง อ. แม่สาย จุดเหนือสุดยอดในสยาม เลือกซื้อสินค้าตามแนวชายแดนไทย – พม่า และเยี่ยมชมโรงงานการทำหยก จากนั้นรับประทานอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังสามเหลี่ยมทองคำเพื่อชมทิวทัศน์ของชายแดนสามประเทศ พม่า – ไทย – ลาว และชมหอฝิ่น จากนั้นเดินทางต่อไปยัง อ. เชียงแสน เมืองเก่า ชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ และวัดอันเก่าแก่ของเมืองเชียงแสน จากนั้นได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับโรงแรม

7. นั่งเรือ – ขี่ช้าง – กะเหรี่ยงคอยาว

เดินทางออกจากโรงแรมที่พัก ไปยังท่าเรือเพื่อนั่งเรือประมาณ 50 นาที ไปยังหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร หลังจากนั้นขี่ช้างรอบหมู่บ้าน ประมาณ 30 นาที จากนั้นเลือกซื้อของที่ทำจากมือของชาวเขา ผลิตภัณฑ์ชาวเขา จากนั้นนั่งเรือกลับเชียงราย และรับประทานอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ซึ่งอพยพมาจากประเทศพม่าเมื่อหลายปีก่อน ที่หมู่บ้านยะผ่า ท่านสามารถเดินดูรอบหมู่บ้านเพื่อชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่และเลือกซื้อของของชาวเขา

8. นั่งเรือ-หมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร-ขี่ช้าง-หมู่บ้านมูเซอแดงยะฟู-หมู่บ้านมูเซอแดงจะแล (ค้างคืน)-น้ำตกห้วยแม่ซ้าย-หมู่บ้านอาข่า-หมู่บ้านเย้า

 ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังท่าเรือแล้วนั่งเรือล่องขึ้นตามแม่น้ำกกจนถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร (ประมาณ 60 นาที) หลังจากนั้นเดินทางรอบหมู่บ้านเพื่อดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา รับประทานอาหารเที่ยงก่อนที่จะขี่ช้างไปยังหมู่บ้านมูเซอแดงยะฟูประมาณ 2 ชั่วโมง ต่อจากนั้นเดินในป่าสัมผัสกับธรรมชาติท่างกลางขุนเขาจนถึงหมู่บ้านมูเซอแดงจะแล เพื่อจะค้างคืนในบรรยากาศแบบ ชาวเขา วันรุ่งขึ้นหลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเดินทางออกจากที่พักเพื่อไปยังน้ำตกห้วยแม่ซ้าย หรือพักผ่อนตามอัธยาศัย โดยรับประทานอาหารเที่ยงระหว่างทางที่จะไปหมู่บ้านอาข่า แล้วเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านเย้าเพื่อที่จะเดินทางกลับเชียงรายโดยรถสองแถว เข้าโรงแรมที่พัก

9. นั่งเรือ-หมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร-ขี่ช้าง-หมู่บ้านกะเหรี่ยงคำนุ-หมู่บ้านกะเหรี่ยงบ้านกลาง-หมู่บ้านมูเซอบ้านต่าง (ค้างคืน) หมู่บ้านชาวจีนอพยพ-หมู่บ้านโป่งน้ำร้อน -น้ำตกห้วยแก้ว-หมู่บ้านอาข่า (ค้างคืน)-หมู่บ้านมูเซอ-หมู่บ้านอาข่า-น้ำพุร้อนห้วยหมากเลี่ยม

ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังท่าเรือแล้วนั่งเรือล่องขึ้นตามแม่น้ำกกจนถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร (ประมาณ 60 นาที) หลังจากนั้นเดินดูหมู่บ้านพอสมควร ก็ขี่ช้างข้ามแม่น้ำกกไปยังอีกฝั่งหมู่บ้านกะเหรี่ยงคำนุ แวะรับประทานอาหารเที่ยงในหมู่บ้าน หลังจากนั้นเดินตามทางเท้าไปยังไปยังหมู่บ้านกะเหรี่ยงบ้านกลาง แล้วเดินในป่าอีกประมาณ 3 ชั่วโมงจนถึงหมู่บ้านมูเซอแม่ต่าง เพื่อจะพักค้างคืนในบรรยากาศอันเป็นธรรมชาติแบบชาวเขา รุ่งขึ้นวันที่สองหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านชาวจีนอพยพพร้อมทั้งแวะรับประทานอาหารเที่ยงที่นั่น ในช่วงบ่ายเดินขึ้นไปเที่ยวยังน้ำตกห้วยแก้ว ที่ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามที่สุดของเชียงรายเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรเดินทางต่อไปค้างคืนที่หมู่บ้านอาข่า รุ่งเช้าวันที่สาม หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเดินทางมุ่งไปยังที่หมายคือน้ำพุร้อนห้วยหมากเลี่ยม โดยเดินทางผ่านหมู่บ้านมูเซอ หมู่บ้านอาข่า ระหว่างทางแวะรับประทานอาหารเที่ยงตามจุดที่เหมาะสม ที่น้ำพุร้อนจะมีรถสองแถวมารอรับ เพื่อเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

10. ล่องเรือแม่น้ำกกครึ่งวัน-ทัวร์รอบเมืองเชียงราย

 ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังท่าเรือ แล้วนั่งเรือล่องเรือขึ้นตามลำแม่น้ำกกจนถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร (ประมาณ 50 นาที) ที่ซึ่งคุณจะขี่ช้างรอบหมู่บ้านประมาณ 30 นาที เพื่อดูความเป็นอยู่ของชาวบ้านและสัมผัสกับสินค้าพื้นเมืองของชาวบ้านเป็นของที่ระลึกพอสมควรแก่เวลาเดินทางกลับตามเส้นทางเดิมรับประทานอาหารเที่ยงริมแม่น้ำ เสร็จแล้วพาท่านไปนมัสการอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย และแวะชมวัดสำคัญๆ ในตัวเมืองเชียงราย เช่น วัดพระแก้ว, วัดพระสิงห์,วัดงำเมือง, วัดพระธาตุดอยจอมทองและเสาสะดือเมือง,พิพิธภัณฑ์ชาวเขาหรือพิพิธภัณฑ์อูบคำ เสร็จแล้วก่อนกลับเข้าที่พัก ชมจุดชมวิวเมืองเชียงรายที่วัดพระธาตุดอยเขาควาย

เอา ข้อมูล ตัวอย่าง โปรแกรมเที่ยวเชียงราย ภายใน 1 วัน (เต็มวัน)

เผื่อ นักท่องเที่ยว ใช้เป็นข้อมูล ในการวางแผนการเดินทางไปเที่ยวเชียงราย เจ้า

ข้อมูลจาก ศูนย์บริหารจัดการ การท่องเที่ยว จ.เชียงราย tourismchiangrai.com

ข้อมูลและรายละเอียดของทัวร์เต็มวัน (เชียงราย)

1. นั่งเรือ - หมู่บ้านกะเหรี่ยง - ขี่ช้าง - หมู่บ้านมูเซอแดง - น้ำตก - หมู่บ้านอาข่า - หมู่บ้านเย้า

ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังท่าเรือ แล้วนั่งเรือล่องขึ้นตามแม่น้ำกกไปจนถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร (ประมาณ 50 นาที ) ที่ซึ่งคุณจะขี่ช้างประมาณ 2 ชั่วโมงไปยังหมู่บ้านมูเซอแดง รับประทานอาหารกล่องระหว่างทาง ต่อจากนั้นจะเป็นการเดินป่าไปยังน้ำตก โดยผ่านหมู่บ้านชาวเขาละแวกนั้น ดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ตามธรรมชาติ พร้อมทั้งพักผ่อนตามอัธยาศัยในท่ามกลางขุนเขาบริเวณน้ำตกเสร็จแล้วเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านอาข่า และหมู่บ้านเย้าก่อนที่จะเดินทางกลับเชียงราย โดยรถสองแถว

2.นั่งเรือ-หมู่บ้านกะเหรี่ยง-ขี่ช้าง-หมู่บ้านเย้า-น้ำตก-หมู่บ้านอาข่า

ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังท่าเรือแล้วนั่งเรือล่องขึ้นตามแม่น้ำกกไปจนถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร (ประมาณ 50 นาที ) หลังจากนั้นเดินทางรอบหมู่บ้านเพื่อดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเสร็จแล้วขี่ช้างประมาณ 2 ชั่วโมงไปยังหมู่บ้านเย้า อาหารเที่ยงรับประทานอาหารกล่องระหว่างทาง แล้วนั่งรถสองแถวไปยังน้ำตกเพื่อดูความเป็นธรรมชาติสลับกับขุนเขาบริเวณนั้น ตอนกลับแวะเยี่ยมหมู่บ้านอาข่า พอสมควรแก่เวลาก็เดินทางมุ่งสู่เชียงราย

3. หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว(ปะด่อง) – ดอยตุง

เดินทางจากโรงแรมที่พักเพื่อเดินทางไปยังหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว(ปะด่อง) ซึ่งอพยพมาจากประเทศพม่าเมื่อหลายปีก่อนที่หมู่บ้านยะผ่า ท่านสามารถเดินเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ประมาณ 10 นาทีและจากนั้นเลือกซื้อของที่ทำจากมือของชาวเขาและสินค้าพื้อเมืองต่าง ๆได้เวลาพอสมควรเดินทางไปยังดอยตุง แวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารที่เหมาะสม หลังจากนั้นเดินทางขึ้นสู่พระธาตุดอยตุง นมัสการพระธาตุที่นับถือของชาวเชียงราย เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า ที่นำมาจากประเทศอินเดีย จากนั้นแวะชมพระตำหนักดอยตุงอันลือชื่อว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเมืองไทย และเดินชมดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ที่สวนสมเด็จย่า ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

4. หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว (ปะด่อง) – ดอยแม่สลอง

เดินทางจากโรงแรมที่พัก ไปยังหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว(ปะด่อง) ซึ่งอพยพมาจากประเทศพม่าเมื่อหลายปีก่อนที่หมู่บ้านยะผ่าท่านสามารถเดินเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ประมาณ 10 นาที และจากนั้นเลือกซื้อของที่ทำจากมือของชาวเขาและสินค้าพื้นเมืองต่างๆ ได้เวลาพอสมควรออกเดินทางไปยังดอยแม่สลอง แวะรับประทานอาหารกลางวัน หลังจากนั้นเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวจีนโดยระหว่างทางแวะเที่ยวชมหมู่บ้านเย้าโป่งแขม และชมทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติอันสวยงามตลอดสองข้างทาง ผ่านหมู่บ้านอาข่ากิ่วสะไต จนถึงหมู่บ้านสันติคีรี ของนายพลต้วน (กองพล 93) บ้านพักพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เลือกซื้อชาพันธุ์ดี, เหล้าท้อ, ผลไม้แช่อิ่ม ฯลฯ ปกติในช่วงฤดูหนาวดอกซากุระจะบานสะพรั่งดูสวยงามมากเต็มสองข้างทาง และเป็นอีกจุดหนึ่งที่สัมผัสกับทะเลหมอกได้ ได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับที่พักโดยสวัสดิภาพ

5. ดอยแม่สลอง 

ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักมุ่งสู่ดอยแม่สลอง โดยระหว่างทางแวะชมทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติอันสวยงามตลอดสองข้างทาง จนถึงหมู่บ้านสันติคีรี ของนายพลต้วน (กองพล 93), บ้านพักพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์, เลือกซื้อชาพันธ์ดี, เหล้าท้อ, ผลไม้แช่อิ่ม ฯลฯ ระหว่างทางแวะเยี่ยมชมหมู่บ้านเย้าและหมู่บ้านอีก้อ พอสมควรแก่เวลาเดินทางกลับโรงแรมที่พัก

3. ดอยแม่สลอง-สวนชา-ดอยตุง-แม่สาย-อำเภอเมืองเชียงราย

วันที่ 1

       ช่วงเช้า เดินทางสู่ดอยแม่สลอง ชมดอกซากุระบาน (ช่วงฤดูหนาวเท่านั้น) หลังจากนั้นก็นมัสการพระธาตุเจดีย์ศรีนครินทร์ฯ

       ช่วงบ่าย เยี่ยมชมสุสานนายพลต้วน และชุมชนชาวจีน ลิ้มรสของชาลือชื่อและอาหารจยูนนานต้นตำหรับบนดอยแม่สลอง และพักค้างคืนที่ อ.แม่จัน

วันที่ 2

       ช่วงเช้า ชมพระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง ซื้อของที่ตลาดชาวไทยภูเขาบ้านป่ากล้วย และสักการะพระธาตุดอยทอง

       ช่วงบ่าย  เดินทางสู่แม่สาย ซื้อของฝากที่ตลาดชายแดน ข้ามไปเที่ยวท่าขี้เหล็ก และกลับมาพักที่แม่สาย

วันที่ 3  

       ช่วงเช้า เดินทางกลับมายังอำเภอเมือง

       ช่วงบ่าย สักการะพ่อขุนเม็งราย ไหว้พระธาตุดอยทอง เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์อูบคำ เดินชมวัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงราย และซื้อของฝากในตัวเมือง

2. สามเหลี่ยมทองคำ-ล่องเรือแม่น้ำโขง-พิพิธภัณฑ์ฝิ่น-เมืองโบราณเชียงแสน-เชียงของ-ห้วยทราย-ภูชี้ฟ้า-อำเภอเมืองเชียงราย

วันที่1

      ช่วงเช้า เดินทางออกจากเชียงแสนสู่สามเหลี่ยมทองคำ ล่องเรือแม่น้ำโขงชมทิวทัศน์ของ 3 ประเทศ หลังจากนั้นเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ฝิ่น และนมัสการพระธาตุปูเข้า

      ช่วงบ่าย ชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน วัดป่าสัก และวัดพระเจ้าล้านทอง

วันที่ 2

       ช่วงเช้า ชมธรรมชาติของทะเลสาบเชียงแสน หลังจากนั้นก็เดินทางจากเชียงแสนไปตามถนนเลียบแม่น้ำโขงสู่เชียงของ

       ช่วงบ่าย  ชมเมืองเชียงของ หลังจากนั้นก็ข้ามฝั่งไปประเทศลาวที่ท่าเรือบั๊ก เที่ยวเมืองห้วยทราย หลังจากนั้นก็เดินทางกลับและพักค้างคืนที่ภูชี้ฟ้า

วันที่ 3

       ช่วงเช้า สัมผัสกับความงดงามของทะเลหมอก (เฉพาะช่วงฤดูหนาว) หลังจากนั้นก็มุ่งหน้ากลับสู่ตัวเมืองเชียงราย เพื่อนมัสการอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายและพระธาตุดอยทอง

ขออนุญาติ เอาข้อมูล โปรแกรมเที่ยวเชียงราย

ข้อมูลและรายละเอียดของทัวร์ 3 วัน 2 คืน (เชียงราย)

มาฝาก เผื่อ นักท่องเที่ยวที่สนใจ ไปเที่ยวเชียงราย เอาไว้เป็นตัวอย่าง หรือ ข้อมูล เจ้า

(ขอขอบพระคุณ ข้อมูล เที่ยวเชียงราย จาก ศูนย์บริหารจัดการ การท่องเที่ยว จ.เชียงราย  tourismchiangrai.com )


1. ดอยแม่สอง – ดอยตุง – แม่สาย – ท่าขี้เหล็ก – เชียงตุง (พม่า)

วันที่1

08.30 น.      เดินทางสู่ดอยแม่สลอง ชมหมู่บ้านชุมชนชาวจีน และความงามของยอดดอย รวมถึงการสาธิตการปลูกชา
12.00 น.      รับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น.      ออกเดินทางสู่ดอยตุง นมัสการพระธาตุดอยตุง (เจดีย์คู่ เชื่อว่าเป็นที่บรรจุอัฐิกระดูกไหปลาร้าด้านซ้ายของพระพุทธเจ้า) ชมความงามของพระตำหนักดอยตุง และสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง
16.00 น.      ออกเดินทางสู่แม่สาย – ท่าขี้เหล็ก (ตลาดชายแดนไทย – พม่า) พักค้างคืนที่แม่สาย

วันที่ 2

08.30 น.      ข้ามฝั่งไป อ.ท่าขี้เหล็ก และเชียงตุง ประเทศพม่า (160 กม. / 3 ชม.) เยี่ยมชมวัดมหามุณี ชมต้นไม้ยักษ์อายุกว่า 270 ปี และสัมผัสธรรมชาติที่ทะเลสาบหนองตอง
19.00 น.      รับประทานอาหารค่ำและพักค้างคืนที่โรงแรมเชียงตุง

วันที่ 3

06.00 น.     ชมตลาดเช้าเชียงตุง เยี่ยมชาวเขา 5 ชนเผ่าหลักที่อาศัยอยู่ในประเทศพม่า หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็เดินทางกลับมายัง อ.ท่าขี้เหล็กเพื่อช้อปปิ้งที่ตลาดไทยลื้อ หลังจากนั้นก็ข้ามฟากกลับมายังฝั่งไทยที่ อ.แม่สายก่อน
18.00 น.- 19.30 น.    เดินทางสู่ตัวเมืองเชียงราย

สวัสดีเจ้า
 ทางทีมงานเว็บบอร์ดทริปเชียงใหม่ดอทคอม เปิดบอร์ดห้องนี้เพื่อเป็นศูนย์กลางและกระจายข่าวสาร งานในเชียงใหม่และภาคเหนืออีกช่องทางหนึ่ง สำหรับ บริษัท,ห้างร้าน,องค์กร,ส่วนราชการ และ โดยเฉพาะ กลุ่มด้านการท่องเที่ยวใน เชียงใหม่และภาคเหนือ เช่น งานโรงแรม งานทัวร์ ไกด์ มัคคุเทศก์  ร้านอาหารฯลฯ
ดังนั้น ขอแจ้งให้ทราบว่า

1. ทางทีมงานเว็บบอร์ด ไม่มีส่วนรู้เห็น หรือ เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น กับ บทความที่นำมาโพสท์
ทางบริษัท ที่ประกาศรับสมัครงาน หรือ ผู้สมัครงาน โปรดใช้วิจารณญาณ หรือ ติดต่อกันเอง

2. ทางทีมงานเว็บบอร์ด ขอสงวนลิขสิทธิ์ ที่จะ ลบทิ้ง,แก้ไข บทความที่นำมาโพสท์ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้า

3. หากไม่สะดวกที่จะโพสท์ประกาศ ด้วยตัวเอง สามารถส่งข้อมูล และ รูปภาพ มาให้ทางทีมงานโพสท์ให้ ที่      อีเมล์
[email protected]

ถ้าพักกันเยอะๆ ลอง ดู บ้านสวนกฤษณา เชียงใหม่

http://www.tripchiangmai.com/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%81/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%8A-%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%94-%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.html

โรงแรม แนะนำในเชียงใหม่ ใกล้ ม.ช เช่น

1) โรงแรม สงวนมาลี แมนชั่น

ลองดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ตามลิงค์ นี้เลย
http://www.tripchiangmai.com/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%81/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.html

2) โรงแรม-เอช-ยูนิค-เบด-แอนด์-เบรกฟาสต์-เชียงใหม่
ลองดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ตามลิงค์ นี้เลย
http://www.tripchiangmai.com/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%81/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/%E0%B9%83%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%8A-%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%94-%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.html

แนะนำ คลิก เข้าไปชมได้ที่

http://www.teepucks.com/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%ab%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%ab%e0%b8%b4%e0%b8%99

มีโรงแรมที่หัวหินติดชายทะเล ให้เลือกเพียบเลยจ้า 

ร้อนนี้ ต้องไปเที่ยวทะเล

สนใจ โรงแรม ที่พัก บนเกาะ พีพี กระบี่ ลองเข้าไปดู ได้ในลิงค์ด้านล่างนี้ เลยจ้า

http://www.teepucks.com/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%b0%e0%b8%9e%e0%b8%b5%e0%b8%9e%e0%b8%b5-%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b5%e0%b9%88

 

 

 

 

 

 

ขบวนแห่และสรงน้ำ พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสำคัญ และนางสงกรานต์ จากสะพานเนาวรัตน์ถึงวัดพระสิงห์

 

 

 

 
วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันสังขารล่อง" โดยมีตำนานกล่าวว่า เช้ามืดของวันนี้ปู่สังขาน ย่าสังขาน จะนุ่งห่มเสื้อผ้าสีแดง สยายผมล่องแพไปตามลำน้ำ ปู่หรือย่าสังขานนี้ จะนำเอาสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาตามตัวมาด้วย จึงมีการจุดประทัดในตอนเช้า ๆ เพื่อให้เกิดเสียงดังต่าง ๆ นัยว่าเป็นการไล่สังขาน  วันนี้จะมีการทำความสะอาดบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล และมีการสระผม


           วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันเนา" หรือ "วันเน่า" เป็นวันที่ห้ามใครด่าทอว่าร้ายเพราะเชื่อว่าจะทำให้โชคร้ายไปตลอดทั้งปี ในตอนบ่ายจะมีการขนทรายเข้าวัด โดยถือว่าเป็นการนำทรายมาทดแทนในส่วนที่ติดเท้าของตนออกจากวัด จะนำมากองรวมกันเป็นเจดีย์


           วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันเถลิงศก" แต่คนเหนือมักจะเรียกว่า "วันพญาวัน" มากกว่า วันนี้ชาวบ้านจะตื่นแต่เช้าทำบุญตักบาตรเข้า วัดฟังธรรม ก่อนจะไปรดน้ำดำหัวขอขมาญาติผู้ใหญ่ในช่วงบ่าย


           วันที่ 16 เมษายน เรียกว่าวัน "วันปากปี" มักจะพากันไปรดน้ำเจ้าอาวาสตามวัดต่าง ๆ เพื่อขอขมาคารวะ และจะมีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ห์ สืบชะตา จุดเทียนต่ออายุชะตาภายในบ้าน


          สำหรับการรดน้ำดำหัว คำว่า "ดำหัว" ปกติแปลว่า "สระผม" แต่ในประเพณีสงกรานต์ล้านนา จะหมายถึง การไปแสดงความเคารพ ขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินไปแล้ว หรือการขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ซึ่งของที่ใช้ในการดำหัวส่วนมากมีผ้าขนหนู มะพร้าว กล้วย และ ส้มป่อย โดยเรียกว่า "น้ำขมิ้นส้มป่อย" พร้อมทั้งนำของไปมอบให้ผู้ใหญ่ โดยท่านจะอวยพรแล้วใช้มือจุ่มน้ำขมิ้นส้มป่อยลูบศีรษะให้

 

สรงน้ำพระพุทธสิงหิงค์ สงกรานต์เชียงใหม่ 2555

 

งานประเพณีสะรีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12- 15 เมษายน 2555 สถานที่จัดงานบริเวณทั่วเมืองเชียงใหม่ โดยจะมีกิจกรรมการจัดขบวนแห่และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ขี่รถถีบกาลางจ้อง รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ขนทรายเข้าวัด การแสดงพื้นเมือง การสาธิตศิลปะพื้นบ้าน การเล่นน้ำสงกรานต์ปีใหม่เมืองรอบคูเมือง และถนนวัฒนธรรมคนเมืองอาหารนานาชาติ


          ทั้งนี้ สำหรับ "วันสงกรานต์" คนเหนือมักจะเรียกวันสงกรานต์ว่า "ปี๋ใหม่เมือง" ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชาวล้านนา เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนศักราชใหม่ มักจะตรงกับวันที่ 13 หรือ 14 เมษายน ของทุกปี

 

 

 

 

 

 

เก็บภาพชาวต่างชาติเล่นน้ำที่งานสงกรานต์เชียงใหม่ ปี2555 มาแบ่งกันชม

มาเที่ยวสงกรานต์เชียงใหม่ทั้งที ก็ต้องไปเล่นน้ำที่คูเมืองในตัวเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวออกมาเล่นน้ำสงกรานต์รอบคูเมืองเชียงใหม่กันมาก คุณสามารถขับรถกระบะบรรทุกน้ำสาดกันได้รอบ ๆ คูเมือง มีการตั้งเวทีกิจกรรมของสินค้ายี่ห้อต่าง ๆ โดยมีการเปิดเพลงเพื่อให้บรรยากาศคึกคักจึงมีนักท่องเที่ยวไปเล่นน้ำในจุดดังกล่าวมากเป็นพิเศษ

เอาภาพ บรรยากาศสงกรานต์เชียงใหม่ 2555 มาฝากจ้า 

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click ด้านล่างนี้เลย

สวนสัตว์เชียงใหม่

Package เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ ราคาสุดคุ้ม

click

สวนสัตว์เชียงใหม่