หัวข้อ: เดินเที่ยวถ่ายภาพสตรีทบนถนนช้างม่อย เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ พฤษภาคม 06, 2016, 06:03:13 AM ขออนุญาตทำตัวเป็นฝรั่งและคนแก่ไปเดินเที่ยวกันซักวันครับ
ที่ต้องบอกเช่นนั้น เพราะไม่กี่วันก่อนมีโอกาสไปเดินเที่ยวเล่นถ่ายรูปตรงถนนช้างม่อย ลากยาวไปจนถึงถนนไปรษณีย์ริมปิง เหตุที่อยากไปนั้นมีอยู่สองอย่างคือ หนึ่งถนนเส้นนี้มีอะไรน่าสนใจ และสองไปลองกล้องใหม่กันมาครับ ฮ่าๆๆ ส่วนย่อหน้าแรกที่ขออนุญาตท่านผู้อ่านนั้น เพราะฝรั่งจะชอบเดินเที่ยวกว่าคนไทย ต่อให้มีรถโดยสาร และก็ เออ เรื่องคนแก่นั้น ผมจะพาย้อนวันวานไปซึมซับกับถนนสายนี้กันครับ ซึ่งก็คือ ถนนช้างม่อย ถนนวิชยานนท์ ถนนไปรษณีย์ ถนนช้างม่อย เป็นถนนเส้นที่มุ่งหน้าไปยังกาดหลวง ถือว่าเป็นถนนเส้นเศรษฐกิจที่สำคัญสายหนึ่งของเชียงใหม่ ไม่แพ้กันกับถนนท่าแพ ที่เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ สองข้างถนน โดยในวันที่ไปนั้น เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งร้านรวงส่วนใหญ่ที่อยู่ในเส้นสายนี้จะพากันปิด จะมีบ้างก็แค่บางร้านที่ยังคงเปิดให้บริการแก่ลูกค้าทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และชาวไทย ผมเริ่มต้นแถววัดหนองคำ ก่อนเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อย ตามถนนทั้งเดินย้อนขึ้น และเดินย้อนลงมามุ่งหน้าสู่กาดหลวง ที่น่าสนใจอย่างแรกบนถนนเส้นนี้คือ ตึกโบราณตรงข้ามวัดหนองคำ เป็นตึกรุ่นต้นๆของถนนช้างม่อย ได้รับเลือกเป็นอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทอาคารพาณิชย์ ปีพ.ศ.2551ชื่อว่าบ้าน ถวิล ซึ่งเป็นชื่อเจ้าของบ้าน นามสกุล เทียนนิมิตร ต้นตระกูลมาจากภาคกลาง คือ จังหวัดสมุทรสงคราม ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ปี พ.ศ.2494 สมัยนั้น บ้านจะอยู่ใกล้กันกับใกล้โรงหนังศรีนครพิงค์ วันเสาร์ - อาทิตย์ จะมีญาติ คนรู้จัก มักจะมาฝากรถจักรยานไว้ในบ้านเพื่อไปดูหนัง เรียกได้ว่าตอนนั้น ค่อนข้างที่จะคึกคักเลยทีเดียว ส่วนที่จะเงียบกันคือ ตรงน้ำแม่ข่าที่ยังใสสะอาด ถัดจากร้านถวิล คือ ร้านแม่ข่าพานิช จำหน่ายอุปกรณ์รถจักรยานและรถจักรยานยนต์ (ซึ่งแถวนั้นจะมีกันหลายร้านพอสมควร) นอกจากนี้ก็ยังมีร้านเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ข้างๆ กันแถวนั้นกันอีกหลายร้าน ที่ถนนช้างม่อย ก่อนถึงแยกถนนราชวงศ์ มีตึกสองชั้นเก่า เป็นร้านตั้งล่งฮวด เป็นร้านขายวัสดุ อุปกรณ์อะไหล่เครื่องจักร ในอดีตเป็นบ้านของนายเลียบ วสุวัต อาชีพทนายความ และถัดจากนั้นไป มีบริษัทแสงชัยธุรกิจยานยนต์จำกัด จำหน่ายรถจักรยานยนต์ตระกูล โตแสงชัย ที่แต่เดิมที่นี่เป็นบ้านไม้เก่ากั้นเป็นห้องแถวให้เช่า และถัดไปก่อนถึงสี่แยกศรีนครพิงค์ คือร้านนครพิงค์เซ็นเตอร์ จำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องกีฬา เจ้าของ คือ นายกวี รีวีรกุล เดิมบริเวณนี้เป็นโรงแรม ชื่อ โรงแรมราชวงศ์ เป็นอาคารไม้สองชั้น เจ้าของโรงแรมราชวงศ์ คือ นายบุญรัตน์ เคยทำงานกับญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมามาซื้อบ้านและเปิดเป็นโรงแรมบริหารเอง หัวข้อ: Re: เดินเที่ยวถ่ายภาพสตรีทบนถนนช้างม่อย เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ พฤษภาคม 06, 2016, 06:04:23 AM จากประตูจีนแดงที่ผายมือต้อนรับเข้าสู่กาดหลวง ก็เรื่อยมาจนถึงปากทางเข้าตรอกข่วงเมรุ ตรงนี้เคยเป็นบ้านของนายหวล ชัยมงคล ต่อมาขายต่อและปัจจุบันเป็นกรรมสิทธิ์ของนายห้างเด่น บัตรา คือ ร้านเด่นเจริญ เดิมร้านทัชมาฮาลเช่าขายผ้า ต่อมาเจ้าของร้านชื่อ หวล บ้านอยู่ถนนราชวงศ์ ขายต่อให้ร้านเชียงใหม่ใจกว้าง ก่อนจะมาขายต่อให้นายห้างเด่น บัตรา จนถึงปัจจุบัน
ส่วน ตรอกข่วงเมรุหรือตรอกเล่าโจ๊วแห่งนี้ เดิมเป็นเมรุฝังศพของเจ้านายฝ่ายเหนือ สกุล ณ เชียงใหม่ ต่อมาปี พ.ศ.2452พระราชชายาเจ้าดารารัศมีเห็นว่าไม่เป็นระเบียบและดูไม่เหมาะสมจึงโปรดให้สร้าง กู่แห่งใหม่ที่วัดสวนดอกและรวบรวมอัฐิของเจ้านายฝ่ายเหนือไปบรรจุรวมไว้ หลังจากนั้นในปีถัดมา คือ ปี พ.ศ.2453 บริเวณข่วงเมรุเก่าโปรดให้สร้างตลาดขึ้นโดยระดมเงินทุนจากลูกหลานและญาติพี่น้อง ใช้เงินลงทุน 1800 รูปี เพื่อหวังให้ลูกหลานและญาติมีรายได้เลี้ยงครอบครัวสืบไป โดยใช้ชื่อตลาดว่า ตลาดวโรรส เพื่อเป็นเกียรติกับเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 8 ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ประกอบกับได้พิราลัยลงเมื่อปี พ.ศ.2452 ก่อนหน้านั้นไม่นาน และปัจจุบันตลาดวโรรสเป็นสิทธิ์บริหารของตระกูลนิมมานเหมินท์และชุติมา ตรงสามแยกกาดหลวงที่เป็นถนนช้างม่อยตัดกับถนนถนนวิชยานนท์ หลายคนคงจะสังเกตเห็นกันนะครับว่าแถวนี้จะมีร้านทอง คือดูเอาจากป้ายก็แทบจะตาลายกันแล้วว่ามีร้านไหนอะไรบ้าง แถมป้ายแต่ละร้านก็เหมือนราวกับเหลุดมาจากไชน่าทาวน์ยังไงยังงั้น หนึ่งในร้านตำนาน คือ ร้านทอง เสือมังกร สมัยก่อนเหตุการณ์ที่เป็นที่กล่าวถึงของชาวกาดหลวงเมื่อปี 2510 คือ การขายตึกแถวหน้าตลาดวโรรสด้านถนนช้างม่อยของร้านนิรันดร์ เนื่องจากทำเลดี ติดปากทางเข้าตลาด ราคาขายขณะนั้น 32 ล้านบาท ซึ่งสมัยนั้นนับว่าเป็นมูลค่าสูงมากกระนั้นถึงแม้ว่าจะราคาสูง ก็ถูกครอบครัวที่กล้าซื้อไว้ คือ ครอบครัวสกุล วณิชติสุวรรณ ชนิดที่ว่าตอนนั้นมีเงินสดเพียง 10 ล้านเท่านั้น แต่ที่กล้าซื้อ 32 ล้าน ก็อาศัยสินทรัพย์เดิมใช้เครดิตกับธนาคารรีบนำเงินสดมาจ่ายให้เร็ว ใกล้ๆ กันนับจากนี้ ก็มีร้านทองหงส์มังกร ซึ่งเริ่มมาจากครอบครัวค้าขายทองชาวจังหวัดขอนแก่น โยกย้ายมาเชียงใหม่รวม เมื่อปี พ.ศ.2514 นอกจากนี้ก็ยังมีร้านทองอินทรีทอง ของตระกูล สุนทรไพบูลย์ และร้านทองตั๊กเซ่งฮง ของตระกูล แซ่เตี๋ยว เรียกได้ว่าย่านนี้ของกาดหลวงเต็มไปด้วยร้านทองกันอย่างหนาแน่น หัวข้อ: Re: เดินเที่ยวถ่ายภาพสตรีทบนถนนช้างม่อย เริ่มหัวข้อโดย: Dockaturk ที่ พฤษภาคม 06, 2016, 06:08:07 AM หนีจากร้านทองมาร้านขายผ้าที่ใหญ่โตและเจ้าของมีชื่อเสียงมาก ของเชียงใหม่ในอดีต ชื่อร้านเชียงใหม่สโตร์ อยู่ช้างม่อย มุมตลาดวโรรส เมื่อก่อนเป็นเรือนไม้สองชั้น โดยถัดไปเป็นประตูเข้าตลาดถนนวิชยานนท์ มีนายห้างโมตีราม โกราน่า ต่อมาเปลี่ยนชื่อสกุลเป็น มนตรี โกศลาภิรมย์ แต่งงานกับแม่จันทร์สม
นายห้างโมตีราม ถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญ ในฐานะที่สร้างสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำปิงระหว่างตลาดต้นลำไยไปฝั่งตะวันออกย่านวัดเกตการามไว้เป็นอนุสรณ์ถึงภรรยา คือแม่จันทร์สม ตั้งชื่อเรียกต่อกันมาว่า สะพานจันทร์สมอนุสรณ์ เรื่องมีอยู่ว่า หลังแม่จันทร์สมภรรยาได้เสียชีวิตลงแล้ว (เดือนพฤษภาคม 2507) นายห้างโมตีรามมองจากหน้าร้านมองเห็นสะพานขัวแตะข้ามระหว่างตลาดวโรรสกับวัดเกตการาม ซึ่งสะพานแห่งนี้เป็นสะพานชั่วคราว หน้าฝนใช้การไม่ได้ ชาวบ้านต้องเสียเงินค่าข้ามทางเรือ จึงคิดที่จะสร้างสะพานถาวรเพื่อเป็นการทำบุญส่งถึงแม่จันทร์สม ดังนั้นในปี พ.ศ.2507 จึงเสนอทางเทศบาลขอออกค่าใช้จ่ายในการสร้างสะพานคอนกรีตจนสำเร็จ ใช้ชื่อว่า สะพานจันทร์สมอนุสรณ์ ซึ่งหลังจากสะพานเสร็จแล้ว ชาวตลาดมักเห็นนายห้างโมตีรามเดินไปมาบนสะพานแห่งนี้ทุกเย็น นอกจากสะพานที่สร้างบุญกุศลเกิดประโยชน์ต่อชาวเชียงใหม่โดยตรงแล้ว ในช่วงปี พ.ศ.2511 เกิดเพลิงไหม้ตลาดต้นลำไยและตลาดวโรรสครั้งใหญ่ (รวมทั้งร้านเชียงใหม่สโตร์ก็โดนเพลิงไหม้ด้วย) นายห้างโมตีราม ค้าขายกับชาวเขาที่ลงจากดอยมาซื้อผ้า โดยใช้บริเวณบ้านที่ถนนท้ายวัง ทำห้องพักสำหรับชาวเขาที่ลงมาซื้อของที่ตลาดวโรรสให้พักฟรี ชาวเขามักเรียกนายห้างโมตีรามว่า พ่อเฒ่า ด้วยความเชื่อถือ ก่อนนายห้างโมตีราม ที่เป็นที่รู้จักของคนเมืองเชียงใหม่ได้เสียชีวิตลงขณะอายุ 80 ปีเศษ เมื่อกลางปี พ.ศ.2522 และจากที่เล่ามานั้น เป็นแค่เศษเสี้ยวของถนนเส้นนี้บางส่วนกันเท่านั้นนะครับ เพราะยังมีหลากเรื่องอีกมากมายให้ได้ค้นหาศึกษากันเมื่อครั้งสมัยก่อน (อย่างเรื่องราวของร้านขายผ้า ขายสมุนไพร ของชาวอินเดียในแถบนี้ ไหนจะเรื่อง ขบวนเกวียน กับการคมนาคมขนส่งยุคก่อนทางรถยนต์ ที่สมัยนั้นวัวเป็นสัตว์ที่มีคุณประโยชน์มากทั้งทำนาและขนส่ง) ชนิดที่ว่ายาวจนสามารถพิมพ์หนังสือได้เป็นเล่มเลยทีเดียวเชียว ส่วนที่หยิบยกเอามาเล่ากัน ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศรสชาติการมาเที่ยวกาดหลวง และถนนช้างม่อยในรูปแบบใหม่ในสไตล์ที่ไม่คุ้นลิ้น เหมือนเมนูอาหารแปลกรสชาติ แต่ไม่ค่อยมีใครได้สั่งมาลองกินกันครับ หัวข้อ: Re: เดินเที่ยวถ่ายภาพสตรีทบนถนนช้างม่อย เริ่มหัวข้อโดย: sea ที่ พฤษภาคม 09, 2016, 09:58:02 AM ไปเที่ยวเชียงใหม่ จะไปเดินเที่ยว
|