1207
|
เชียงใหม่ - ข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ - ที่พัก โรงแรม การเดินทาง วัดจังหวัดเชียงใหม่ ร้านอาหาร สถานที่เที่ยวกลางวัน กลางคืน ฯลฯ / วัดในจังหวัดเชียงใหม่ / วัดอินทขีล สะดือเมือง เชียงใหม
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 11:00:30 AM
|
ประวัติวัดอินทขีลสะดือเมืองโดยสังเขป
วัดอินทขีลสะดือเมืองมีเนื้อที่ประมาณ 3ไร่เศษ เดิมทีเป็นวัดร้างและเคยเป็นที่ประดิษฐานเสาอินทขีล (เสาหลักเมือง) ของเมืองเชียงใหม่ สร้างโดยพระญามังรายมหาราชผู้ก่อตั้งนครเชียงใหม่ เมือประมาณปี พ.ศ.1839 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ คำว่า อินทขีล มาจากคำว่า อินทขีละ ในภาษาบาลี ซึ่งแปลว่า เสาเขื่อน,เสาหิน,หรือเสาหลักเมือง ส่วนคำว่า สะดือเมือง นั้นเนื่องจากวัดตั้งอยู่ใจกลางของเมืองเชียงใหม่ผู้คนทั้งหลายจึงนิยมเรียกกันติดปากว่า วัดสะดือเมือง ดังนั้นทางวัดจึงตั้งชื่อว่า วัดอินทขีลสะดือเมือง มีพระพุทธรูปที่สำคัญที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาเป็นเวลานาน ซึ่งพุทธศาสนิกชนรู้จักกันคือ หลวงพ่อขาว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบล้านนา มีพระพักตร์อิ่มเอิบ ดุจพระจันทร์ในวันเพ็ญ ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ทำให้ผู้ที่มากราบไหว้บูชาได้รับความสุขใจ และสงบใจ และทำให้เกิดความรู้สึกที่มั่นใจและมีความหวัง ที่จะประกอบการงานใดเป็นประดุจหนึ่งว่า "ท่านจงทำดีเถิด ทำงานเถิด แล้วจะประสบผลสำเร็จ สมความปรารถนาทุกประการ" และวัดนี้เดิมทีเป็นพระราชวังหลวงซึ่งเป็นกราบไหว้สักการะของพระมหากษัตริย์และพุทธศาสนิกชนทั้งหลายในสมัยนั้น และมีเนื้อที่กว้างขวาง ปัจจุบันนี้ถ้าท่านได้มากราบไหว้องค์หลวงพ่อขาว ในวิหารทรงล้านนาที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง จะสังเกตุเห็นว่าวิหารหลวงพ่อขาวนั้นสร้างออกไปกลางถนนเล็กน้อย ที่จริงนั้นเดิมทีถนนไม่ได้ผ่านบริเวณนี้แต่พอวัดร้างไปทางราชการจึงสร้างถนนผ่าน
สมัยพญามังรายได้ทรงสร้างวัดสะดือขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของเสาหลักเมือง หรือเสาอินทขิล ซึ่งตามตำนานพื้นเมืองเหนือกล่าวถึงการบูชาเสาอินทขิลไว้ว่า พระอินทร์ได้ประทานให้ลัวะในสมัยการสร้างเวียงนพบุรี โดยเศรษฐีลัวะ9 ตระกูล พระฤาษีให้กุมภัณฑ์ 2 ตน เอาเสาอินทขิลใส่สาแหรกหามนำไปประดิษฐานไว้ ณ แท่นกลางเมืองนพบุรี ให้ชาวเมืองของลัวะสักการะบูชาก่อนที่จะกลายเป็นเมืองร้าง
กระทั่งพญามังราย ได้สุบินนิมิตรไล่ตามกวางเผือกจนมาพบชัยภูมิที่ดี จึงมีดำริจะสร้างเมืองขึ้นใหม่ พ.ศ.1835 ก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่ พญามังรายได้มาสำรวจพื้นที่บริเวณเมืองนพบุรีร้าง ได้พบซากเสาอินทขิลและรูปกุมภัณฑ์ ณ ที่กลางเมืองนั้น จึงมีบัญชา ให้เสนาชื่อ สรีกรชัย แต่งเครื่องบรรณาการไปหาพญาลัวะบนดอยสุเทพ พญาลัวะจึงแนะนำว่า หากเจ้าพญามังรายจะสร้างเมือง ขึ้นใหม่ให้อยู่เย็นเป็นสุขก็ให้บูชากุมภัณฑ์และเสาอินทขิล เมื่อพญามังรายสร้างเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่แล้ว จึงโปรดให้ยกรูปกุมภัณฑ์และเสาอินทขิลที่ประดิษฐานใน บริเวณสะดือเมืองขึ้นมาเพื่อให้คนสักการะกราบไหว้ตามคำแนะนำของพญาลัวะ
ต่อมาจึงได้สร้างวัดขึ้นชื่อว่า วัดอินทขิล แต่เนื่องจากว่าวัดนี้ตั้งอยู่บริเวณสะดือเมือง ชาวบ้านจึงเรียกว่า วัดสะดือเมือง ในตลอดรัชสมัยของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายวัดสะดือเมืองได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นโดยลำดับ ก่อนที่จะเป็นวัดร้างภายหลังล้านนาถูกพม่าเข้าปกครอง จนถึงปี พ.ศ.2343 พระเจ้ากาวิละ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์แรก ได้ขับไล่พม่าออกจากดินแดนล้านนาและได้ฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ขึ้น ได้ย้ายเสาอินทขิลจากวัดอินทขิลมาประดิษฐานอยู่ ณ วัดเจดีย์หลวง พร้อมกับบูรณะฟื้นฟูวัดอินทขิล โดยได้สร้างวิหารคล่อมฐานเดิม อัญเชิญพระอุ่นเมือง (หลวงพ่อขาว) มาประดิษฐานเป็นพระประธานในวิหาร
วัดอินทขิล ได้เจริญรุ่งเรืองมีพระสงฆ์จำพรรษาตลอดเรื่อยมา จากเอกสารสำรวจวัดในสมัยครูบาปัญญา เจ้าอาวาสวัดหัวข่วง พ.ศ.2425 ยังปรากฏชื่อวัดอินทขิลอยู่ สันนิษฐานว่าวัดอินทขิลได้กลายเป็นวัดร้างในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 (พ.ศ.2416-2439) ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้นของการรวมศูนย์เข้ากับส่วนกลางให้เป็นส่วนหนึ่งของสยามประเทศ เจ้านายฝ่ายเหนือถูกลดบทบาทลงอย่างมาก ต้องแบ่งเงินภาษีอากรส่งไปส่วนกลาง วัดจึงขาดการทำนุบำรุง พระสงฆ์ก็ขาดการอุปถัมภ์ วัดอินทขิลหรือวัดสะดือเมืองจึงตกอยู่ในสภาพรกร้าง กระทั่งปัจจุบัน คงเหลือหลักฐานทางโบราณคดีของวัดอินทขิลปรากฏอยู่บริเวณด้านทิศใต้ของหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ (ศาลากลางหลังเก่า) คือองค์พระเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมและวิหารพระเจ้าอุ่นเมือง (หลวงพ่อขาว) วัดอินทขิล หรือ วัดสะดือเมือง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงต้นของประวัติศาสตร์ล้านนา ราวพุทธศตวรรษที่ 19 ประกอบด้วยโบราณสถานที่สำคัญคือ
เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม พงศาวดารโยนกและตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่าบริเวณที่สร้างเจดีย์แปดเหลี่ยมเคยเป็นสถานที่พญามังรายต้องอัสนีบาตสวรรคต ต่อมาพระยาไชยสงคราม ราชโอรสทรงสร้างเจดีย์บรรจุพระอัฐิไว้ จากรูปแบบสถาปัตยกรรมของพระเจดีย์ที่ปรากฏอยู่ภายในบริเวณศาลากลางหลังเก่า เป็นเจดีย์ทรงกลมผสมเรือนธาตุแปดเหลี่ยม องค์ระฆังคว่ำ ซึ่งนิยมสร้างกันมากในสมัยหริภุญไชย ซึ่งพบที่วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่า เจดีย์ดังกล่าวน่าจะสร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันคือราวต้นพุทธศตวรรษที่ 19
เจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม ด้านหลังวิหารพระเจ้าอุ่นเมือง(หลวงพ่อขาว) เป็นเจดีย์ ทรงกลมฐานสี่เหลี่ยม มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 20-21 แต่เจดีย์องค์ในที่ถูกห่อหุ้มเป็นเจดีย์แบบสี่เหลี่ยมที่ได้รับอิทธิพลมาจากหริภุญไชยคือ เจดีย์เชียงยันในวัดพระธาตุหริภุญไชย
วิหารพระเจ้าอุ่นเมือง(หลวงพ่อขาว) ตามตำนานเชื่อว่า วัดอินทขิลเป็นสถานที่พญามังรายต้องอัศนีบาตจนสิ้นพระชนม์ สำหรับวิหารของพระเจ้าอุ่นเมืองนั้น คงสร้างขึ้นคล่อมฐานเดิมพร้อม ๆ กับการสร้างเจดีย์องค์นอกที่ห่อหุ้มองค์ในประมาณ พ.ศ.2380 สมัยของพระเจ้ากาวิละ ลักษณะเป็นวิหารโถง ผังเดิมเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีหลวงพ่อขาวประดิษฐานเป็นพระประธานหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
ข้อมูลจาก watinthakhin.com
|
|
|
1217
|
ข้อมูล ร้านอาหาร เชียงใหม่ / เชียงใหม่ ร้านอาหาร - แนะนำร้านอาหาร อร่อย ในเชียงใหม่ / แนะนำร้านอาหารแถวศาลากลางเก่าฯ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์เชียงใหม่
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 09:56:27 AM
|
ถนนอินทวโรรส หรือ ที่รู้จักกันเช่น แถวกลางเวียงเชียงใหม่ , อนุสาวรีย์สามกษัตริย์เชียงใหม่ หรือ ศาลากลางจังหวัดเก่าเชียงใหม่(ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เดิมอยู่ที่นี่ และ ได้ย้ายไปอยู่ที่ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถนนโชตนา ได้หลายสิบปี)
จะมีแหล่งศูนย์รวมร้านอาหารชื่อดังอยู่หลายร้านของเชียงใหม่ โดยเฉพาะมื้อกลางวัน ซึ่งหากท่านมาเที่ยวเชียงใหม่ ลองแวะไปเลือกชิมดูได้ครับ
ผมขอเริ่มต้นจากท้ายถนนมาก่อนเลย (จากรูปด้านล่าง เริ่มจากทาขวามือ ไล่ ไปทาง ซ้ายมือ เลยครับ)
ร้านหัวมุมร้านแรกก็จะเป็นร้าน ศิริชัยข้าวมันไก่
ข้าวมันไก่สูตรไหหลำ มีให้เลือกทานทั้ง ข้าวมันไก่, ข้าวมันไก่ทอด จนถึง ข้าวซอยน่องไก่ ที่เข้มข้นไปด้วยน้ำกะทิ
ติดกับร้านข้าวมันไก่ศิริชัย จะเป็นร้านขายขนมอร่อย 2 ร้าน
ร้านที่ติดกันคือ ร้านขายถั่วและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ชื่่อ ถั่วกรอบแก้วซื้อไปทานเล่นๆเพลินทีเดียว
ถัดมาเป็นร้านขนมอร่อย ชื่อ หวานละมุน ขายขนมไทยที่ขึ้นชื่อหลายอย่างเช่น ขนมชั้น ทำเป็นถ้วยเล็กๆ เป็นชั้นๆหอมกลิ่นใบเตย, ขนมใส่ไส้ กินคำเดียวพร้อมกะทิด้านนอกเค็มๆมันๆ ,บัวลอยแก้ว เม็ดบัวลอยทำจากแป้งมัน หลากสีน่าทาน, สาคูเปียก หอมน้ำกะทิรสเค็มหวานอร่อย
ต่อจากร้านหวานละมุน ก็จะเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเด้งได้ ชื่อ ลิ้มเหล่าโหงว
|
|
|
1219
|
ท่องเที่ยวหัวหิน | ชะอำ | ปราณบุรี / หัวหิน ที่พัก / Re: ช่วยแนะนำโรงแรมที่พักหัวหินติดทะเลหน่อย
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2012, 03:59:53 PM
|
ลองดู ที่พักหัวหินติดทะเล
โรงแรมเครปนิทราหัวหิน
เคป นิทรา หัวหิน เป็นโรงแรม 5 ดาวของหัวหิน ติดทะเล (ห่างจากทะเล 20 เมตร โดยประมาณ) บริการไวเลสอินเตอร์เนท ฟรี (วันเข้าพักเช็คเงื่อนไขการให้บริการอีกครั้ง) ห้องพักทุกห้องมีสระว่ายน้ำในตัว ทุกห้องมีความเป็นส่วนตัวสูง เดินทางไปเที่ยวตลาดเพลินวานด้วยรถเพียง 5 นาที (ห่าง 7 กิโลโดยประมาณ) เป็นโรงแรมใกล้ตลาดโต้รุ่งหัวหินหรือตลาดไนท์บาร์ซ่าหัวหิน หรือสถานีรถไฟหัวหินเพียง 1.5 กิโล มีที่จอดรถได้มากถึง 40 คัน
โรงแรมเคป นิทรา หัวหิน เป็นที่พักหัวหิน ห้าดาว (Cape Nidhra Hotel Hua Hin) โรงแรมเปิดใหม่ระดับ 5 ดาว ในเครือ เคป โฮเทล คอเล็คชั่น แคนทารี กรุ๊ป และคามิโอ โรงแรมสไตล์ Beachfront วิวมุมสูงหน้าหาด บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ครึ่ง มีห้องพัก 59 ห้อง มีขนาด 75-225 ตารางเมตร ทุกห้องพักจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวทั้งหมด
เคป นิทรา หัวหิน Cape Nidhra Hotel ตั้งอยู่ริมชายหาดหัวหิน ท่านใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์จากสถานีรถไฟหัวหินเพียง 10 นาที ให้บริการที่พักริมชายหาดอันหรูหราพร้อมสปาและศูนย์ออกกำลังกาย ท่านสามารถเดินเท้าจากตลาดฉัตรชัยและตลาดโต้รุ่งหัวหินไปยังโรงแรมได้ภาย ใน 15 นาที และเดินเท้าเป็นระยะทางสั้นๆ จากโรงแรมไปยังวัดหัวหินและวิลล่ามาร์เก็ต (Villa Market) ได้ ห้องพักแต่ละห้องของโรงแรมมีสระว่ายน้ำส่วนตัว และภายในห้องพักทุกห้องมีทีวีจอแบนกับมินิบาร์ ท่านสามารถเพลิดเพลินกับบริการนวดแผนไทยและทรีทเมนท์สปาที่ Cape Spa ได้ ให้บริการที่จอดรถฟรี และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi - Fi) ฟรีภายในพื้นที่ของโรงแรม ร้านอาหารของโรงแรมให้บริการอาหารท้องถิ่นและอาหารทะเล และท่านสามารถจิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิวที่สวยงามของอ่าวไทยได้ที่บาร์ On the Rocks
|
|
|
1242
|
ท่องเที่ยวหัวหิน | ชะอำ | ปราณบุรี / ชะอำ / เที่ยว ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ (SANTORINI PARK CHA-AM)
|
เมื่อ: ตุลาคม 26, 2012, 12:13:52 PM
|
หากใครไปเที่ยว ชะอำ หรือ หัวหิน ตอนนี้ จะต้องผ่าน ชิงช้าสวรรค์ ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็น สัญญลักษณ์ ของ ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ (SANTORINI PARK CHA-AM) และ เชื่อว่าหลายๆท่าน จะต้องแวะที่นี่ (โดยเฉพาะ ตอนกลับ จากเที่ยว ชะอำ หรือ หัวหิน ) เพราะว่า จะอยู่ ขากลับเข้า กรุงเทพฯ และ ตัวผมก็ไม่พลาด ลองเข้าไปสำรวจ แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชะอำ และ ของเมืองไทย ด้วย (ส่วนตัวแล้วดีใจมากที่มีคนกล้าทำสวนสนุกแนวนี้ เพราะว่า อิจฉาบางประเทศ ที่เค้าเปิดแล้วคอยดูดเงินจากคนไทย ที่ เอาเงินไปให้ )
ก่อนอื่น ไปหาข้อมูล การไป ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ (SANTORINI PARK CHA-AM) มาฝาก ครับ
การเดินทางจากกรุงเทพมหานครมายัง SANTORINI PARK CHA-AM รถสาธารณะ - รถตู้ที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิสาย กรุงเทพ-ชะอำ กรุงเทพ-หัวหิน กรุงเทพ-ปราณบุรี และกรุงเทพ-ประจวบ ผ่าน SANTORINI PARK CHA-AM ทุกสาย
รถบัส ป.2 - กรุงเทพฯ หัวหิน - ปราณบุรี - ประจวบผ่านทุกคัน รถตู้ (คาดสีน้ำเงิน+ส้ม) มาจาก กรุงเทพฯ ไปหัวหิน - ปราณบุรี ถ้ามีที่ว่างจะจอดรับผู้โดยสารระหว่างทางด้วย
รถไฟ - ลงสถานีชะอำจะใกล้ที่สุด
วันและเวลาเปิดปิดทำการ วันจันทร์ - พฤหัสบดี เปิดบริการเวลา 10.00 21.00 น. โดยไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู วันศุกร์ - อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เปิดบริการเวลา 10.00 22.00 น. ค่าบัตรผ่านประตูท่านละ 50 บาท
เบอร์โทรศัพท์ ของ ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ (SANTORINI PARK CHA-AM)
02 434 6921-8
|
|
|
|
|