ไฮไลท์สำหรับเราอยู่ที่นิยายเก่า มีเยอะมากกกก
สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ 97% มีฝุ่นบ้าง รอยฉีกนิดหน่อย
แต่ไม่ถึงกับปรุหรือเป็นรอยขาดยับเกินไป เพราะส่วนใหญ่จะเลหลังมาจากห้องสมุด
อย่าง "อีสา" เล่ม1 ที่เราไปสอยมาก็ค่อนข้างสมบูรณ์
เพราะเป็นหนังสือที่ได้มาจากห้องสมุดสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในเชียงใหม่
(สงสัยในห้องสมุดที่เค้าเอามาขายเนี่ยเค้าไม่อยากเก็บหนังสือปกเก่าๆไว้เนอะ )
แต่ละเล่มก็ขายถูก ๆ ลดหลั่นกันไป 30 บาทบ้าง 60 บาทบ้าง ขายเป็นคู่120บาทบ้าง
แต่ส่วนมากจะไม่เกิน 200 บาทต่อเล่มหรือต่อชุด

ใครที่สนใจอยากได้หนังสือเก่าเป็นสมบัติส่วนตัว เอาไปทำรายงาน ไปบริจาคเข้าตู้ห้องสมุด
ร้านนี้เป็นอีกแหล่งที่แนะนำจริง ๆ เพราะเป็นแหล่งค่อนข้างใหญ่
แบ่งหนังสือซะตั้ง1-2หมวดต่อล็อค อยากรู้อะไรก็ถามเจ้าของร้านได้
นอกจากพกเงินมาแล้ว ยังต้องพกเวลามาด้วย เพราะของเยอะจริง ๆ ละลานตาไปหมด ราคาก็ถูกด้วยจ้า 

ต่วยตูนเล่มเก่า ๆ ก็มีขาย เล่มละ 35 บาทเองจ้า

หนังสือแต่งสวน ศิลปะก็มี เยอะด้วย หลายปี พ.ศ.ให้เลือกด้วย

หนังสือเพลงเยอะมากกกก จะเอาเก่ารุ่นไหนมีหมด
ถ้ามีเวลาค้น ก็ค้นให้หนำใจไปเลยใน 1 ล็อค

ขึ้นมาปุ๊บจะเจอหลาย ๆ ล็อกที่มีหนังสือกองอยู่
หลาย ๆ ล็อกนั่นแหละค่ะคือร้านหนังสือร้านเดียว
กว้างมากกกกกก 
อยากได้หนังสือประเภทไหน มีหมดทุกประเภท
หาไม่เจอจริง ๆ ลองสอบถามเจ้าของร้านได้
เจ้าของร้านนี้ค่อนข้างเอาใจใส่พอควร
(ตอนเรียน ป.ตรี เคยไปหาหนังสือประเภทนิยายเก่ามาทำรายงาน
แกบอกได้หมดว่าล็อกไหน เรื่องอะไร นามปากกาไหน  )

เคยรีวิวร้านหนังสือเก่าไปแล้วที่นึง คือ ร้านที่เป็นคูหาเดียวก่อนถึงสุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์
รีวิวนี้จะพาไปรู้จักกับอีกแหล่งนึงที่เป็นร้านซื้อ-ขายหนังสือเก่า หนังสือมือสอง
นั่นก็คือ "ศูนย์หนังสือเก่ากาดธานินทร์" ค่ะ
กาดธานินทร์จะอยู่ถนนช้างเผือก ทางไปม.ราชภัฏเชียงใหม่
ถ้าไม่รู้จักจริง ๆ ลองสอบถามรถแดงได้ค่ะ
ในส่วนของร้านหนังสือจะอยู่ชั้น 2 ของตลาด เอารถมาจอดปุ๊บแล้วเดินขึ้นมาทางข้าง ๆ ร้านขายยาได้เลยจ้า

ร้านนี้อาจมีไก่บ้านเพ่นพ่านหน่อยนะ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความสะอาด
ถูกสุขอนามัยทุกเมนู อร่อย แซ่บจริงด้วย
แวะเข้ามาตั้งวงกันได้ ร้านเปิดทุกวัน 11 โมงถึงประมาณ 4 ทุ่มกว่า
ได้อารมณ์สงบย่านชุมชนไปอีกแบบนึงดี 

วันนี้มาคนเดียว ขอจัดแค่นี้ละกัน
ลาบดิบ ไส้ย่าง5ไม้ ข้าวเหนียว10บาท(ไม่มี5บาทขาย จำเป็นต้องกินอิ่มๆหน่อย )
แค่นี้ก็พุงกางพอแล้ว   

ร้านนี้จะเป็นสไตล์คล้าย ๆ กับร้าน "เหล้าตอง"
คือมีทั้งเครื่องดื่มและอาหารพื้นเมือง พวกลาบ ของปิ้งย่าง ส้มตำ
อาหารตามสั่งก็มีนะคะ สั่งป้าเจ้าของร้านได้เลย
เครื่องดื่มจะสั่งในร้านก็ได้ หรือจะหิ้วมาเองแล้วเอาน้ำแข็งในร้านก็ได้
ร้านจะคิดค่าน้ำแข็งนิดหน่อย ตามป้ายที่บอกไว้
ส่วนพวกอาหาร ก็จะมีกระดาษให้ติ๊กตามนี้
(ราคาจะอยู่ที่เมนูละประมาณ 25 บาทขึ้นไป)

หลังเลิกงานเลิกเรียน หลายคนอาจจะหาร้านสักร้านไว้นั่งเล่น ตั้งวงสังสรรค์
แต่ร้านส่วนใหญ่มักจะเปิดตอนค่ำ ๆ ตะวันตกดินไปแล้ว
รีวิวนี้ขอเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากไปชิลปุ๊บหลังเลิกงานปั๊บ แบบมาเร็วเคลมเร็วค่ะ5555
ร้าน "ลาบลุงน้อย" หรือ ตี๋หลังมอ
อยู่ในซอยวัดอุโมงค์ มาเรื่อย ๆ ถนนเส้นวัดร่ำเปิง ผ่านวัดร่ำเปิงซักประมาณ 700 เมตร
จะเจอร้านสังกะสีอยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามกับห้องแถว2ชั้นที่เปิดเป็นร้านของชำอยู่ค่ะ
ในร้านจะเป็นกึ่ง ๆ บ้านกึ่ง ๆ ร้าน แต่มีพื้นที่พอให้เลี้ยวเอารถเข้ามาจอดได้เลยทั้งรถยนต์ทั้งรถมอเตอร์ไซค์

เย็นวันนั้นที่ไปฟ้าครึ้มหน่อย เลยซื้อกลับมาทานที่หอค่ะ
ได้เยอะ เครื่องแน่นจริง ๆ คุ้มมาก เมนูนี้ "วุ้นโฟต้มยำ" ราคาแค่ 30 บาท
เมนูอื่น ๆ ก็มีนะคะ เกี่ยวกับลูกชิ้นปลา พวกก๋วยเตี๋ยวทะเล เกาเหลา เย็นตาโฟทุกสูตร
(เหมือนจะไม่มีพวกก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ๆ ทั่วไปนะ จะเน้นแต่พวกเย็นตาโฟเป็นหลัก)
ลองแวะไปลอง แวะซื้อกลับไปทานที่บ้านได้นะคะ อร่อยจริง
ตรงมาเรื่อย ๆ บนถนนเส้น ปตท. มช. ผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-11 (ทางเข้าวัดประทานพร) มานิดนึง
จะเจอร้านเล็ก ๆ ไฟสว่าง ๆ ผ้าใบสีแดงตั้งอยู่ค่ะ 

รีวิวนี้จะพาไปแวะชิมของอร่อยข้างทาง ถนนเส้นที่ไปโรงแรมเชียงใหม่ภูคำค่ะ
เลยร้านสะดวกซื้อ 7-11 ไปหน่อยนึงจะเจอกันสาดผ้าใบสีแดงมีรถเข็นเล็ก ๆ
ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันว่า "เย็นตาโฟคันคลอง"
เปิดขายตั้งแต่ 5 โมงเย็นกว่า ๆ ถึงประมาณ 5 ทุ่ม
รีวิวนี้อาจไม่มีรูปหน้าร้านที่ชัดเจนนะคะ เพราะติดถนนใหญ่ เดี๋ยวรถชน 5555
อยากมาแชร์ว่าจริง ๆ ว่าร้านอร่อย ๆ นี้พิกัดอยู่ไหน มีทีเด็ดอะไรบ้าง
(ในรูปที่เป็นถ่ายเป็นหน้าร้านเล็ก ๆ คือขี่รถมาอีกฝั่งแล้วจอดถ่าย )

ในร้านนอกจากจะมีเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์วินเทจ
ยังมีกองหนังสือเก่า ๆ หนังสือเพลงเก่ากับกีตาร์ไว้บริการด้วย
แต่ไม่มีจุด wifi เนอะ เพราะร้านนี้เป็นสไตล์นั่งเล่นชิล ๆ
อารมณ์แบบแวะพัก แวะทาน แล้วค่อยไปที่อื่นต่อ 
ร้านนี้เครื่องดื่มเริ่มที่ราคา 25 บาท เมื่อก่อนมีข้าวขายด้วย แต่ตอนนี้เหลือแต่มาม่าจ้า
ใครอยากแวะพักกลางทาง แวะเติมความสดชื่น ลองแวะมาได้ที่ร้าน "บะเก่า"
มาตามถนนนิมมานเส้นใหญ่ เลี้ยวเข้าซอยตรงข้ามธนาคารออมสิน มาเรื่อย ๆ แล้วก็เลี้ยวเข้าซอยคลินิกทำฟันหน้าประเสริฐแลนด์
ตรงมาเรื่อย ๆ อีกจะเจอต้นไม้ใหญ่ จอดรถแล้วเดินเข้ามาได้เลยจ้า

หน้าร้านกระจุ๋มกระจิ๋ม รกๆใบไม้หน่อย แต่ให้ความร่มรื่นสมความเป็นบะเก่า (ความเก่า) 

รีวิวนี้จะพาไปนั่งร้านกาแฟเล็ก ๆ แถว ๆ ประเสริฐแลนด์ค่ะ
(จากถนนนิมมานฯ เส้นใหญ่ เลี้ยวเข้าซอยตรงข้ามกับธนาคารออมสิน มาเรื่อย ๆ แล้วจะเจอคลินิคทำฟันหน้าทางเข้าประเสริฐแลนด์
ให้เลี้ยวเข้าซอยข้างคลินิคทำฟันแล้วมาเรื่อย ๆ จะเจอร้านเล็ก ๆ อยู่หัวมุมทางสามแพร่งพอดีค่ะ  )
ชื่อร้าน "บะเก่า" เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ สไตล์นั่งเล่น แวะหาอะไรทานชิล (ป้ายร้านโดนใบไม้บังหน่อยเนอะ ต้องสังเกตดี ๆ  )

มื้อนี้สั่ง บะหมี่เกี๊ยวเป็ด
สังเกตดูว่าร้านนี้เส้นหมี่เป็นหมี่แท้ คือเส้นจะเล็กๆ ลีบๆ ไม่อืดน้ำ กินแล้วนุ่มลิ้นดี
เป็ดย่างก็นุ่มลิ้น อร่อยมาก ไม่เป็นเนื้อที่แห้งเกินไป ยังพอมีซอสให้กลมกล่อม
เกี๊ยวก็แน่นดีมาก ให้ไส้แบบคำโต ๆ เลย ใส่ใจความอร่อยของลูกค้าจริง ๆ 

ร้านหาง่ายมาก ตรงมาจากถนนนิมมาน แล้วจะเจอแยกรินคำ
รอไฟแดงซักพักใหญ่แล้วข้ามไปอีกฝั่งที่เป็นทางซุปเปอร์ไฮเวย์
ร้านจะอยู่ตึกแถวที่ทาสีสด ๆ ติดกัน แล้วจะเจอร้านที่ตึกสีเขียวใกล้ ๆ กับ 7-11
เปิดทุกวัน 9 โมงถึง 5 ทุ่มค่ะ แวะไปฝากท้องกันได้นะคะ อร่อยจริง ได้เยอะจริง คอนเฟิร์มเลย

ร้านนี้เด่นที่เมนูเป็ด ทั้งหมี่เป็ด ข้าวหน้าเป็ด
พวกของทานเล่นก็มีพวกกุ้งสลัด เกี๊ยว ตีนเป็ด ฯลฯ
เห็นร้านเล็ก ๆ แบบนี้ แต่ละเมนูหน้าตาน่าทานมากกก อร่อยด้วย 
ราคาก็สมน้ำสมเนื้อ เริ่มต้นที่ 40 บาท
แต่ละเมนูอาจดูเหมือนแพง แต่ปริมาณแน่นจริง ๆ ทำแบบมีคุณภาพจริง ๆ

รีวิวนี้พามาทานบะหมี่นุ่ม ๆ เป็ดย่างนุ่ม ๆ ลิ้นที่ เป็ดย่างฮ่องกงเจ็ดยอด หรือ เป็ดย่างภัตตาคาร H.K.
ข้าง ๆ 7-11 ค่ะ หน้าร้านจะเป็นตึกแถวแบบนี้

เครื่องดื่ม/เค้กราคาจะประมาณ 65 บาทขึ้นไป
ส่วนขนมปังแซนวิชจะอยู่ที่ 2 ชิ้น 30 บาท
ถือว่าโอเคมากสำหรับคนที่ต้องการนั่งทำงานยาว ๆ แบบไม่ดื่มเครื่องดื่มเพียว ๆ
ไฟไม่สลัวไป โต๊ะก็องศาพอดีกับคนที่ต้องการนั่งเขียนหนังสือ นั่งทำงานนาน ๆ
วันเวลาเปิดปกติ คือ จ-พฤ 11โมง-5ทุ่ม ส่วน ศ-ส-อา ปิด 2 ทุ่มค่ะ
กลัวไปไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าวันนี้ร้านจะเปิดมั้ย(เพราะบางช่วงบางวันร้านจะปิดเร็วบ้างหรือติดขัดอะไรบ้าง)
เช็คข้อมูลก่อนไปได้ที่เพจ ร้านกาแฟ "สุขสถาน" (เสิร์ชพิมพ์ตามนี้ในเฟซเลยค่ะ)
ร้านนี้ค่อนข้างอัพเดทข้อมูลเพจตลอด  ลองไปกันดูนะคะ เป็นอีกสถานที่ดี ๆ ที่อยากแชร์จริง ๆ

ห้องเอาไว้ประชุมงาน/ติวหนังสือ/นั่งคุยงานเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ก็มีค่ะ (สำหรับลูกค้า4ท่านขึ้นไป)
แต่งดประชุมธุรกิจเครือข่ายเนอะ เกรงใจกันทางร้านนิดนึง 

นั่งถ่ายรูปเล่นได้นะ ร้านนี้ตกแต่งได้ค่อนข้างวินเทจหน่อย เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้
(รูปนี้เบลอหน่อย มือสั่น ขอโทษด้วยนะคะ )

ร้านมี 2 ชั้น (ชั้นบนจะไม่เปิดถ้าชั้นล่างยังไม่เต็มค่ะ) บรรยากาศค่อนข้างเงียบ ไม่มีเสียงเพลงคลอเลย โซนพนักงานก็กั้นไว้ต่างหาก
(คือนั่งเม้าไม่ได้ แต่ทำงานใช้สมาธิได้เต็มที่เลย  )
มีปลั๊กพ่วงบริการให้ มีFreeWiFi (เป็นแบบคูปอง 1user ใช้ได้1เครื่อง ไม่จำกัดชั่วโมง)
แต่ก่อนจะนั่งทำงานหลายๆชั่วโมง ต้องสั่งเครื่องดื่มก่อนนะคะ ไม่งั้นจะโดนปรับชั่วโมงละ40บาท

วันนี้มาแนะนำอีกร้านสำหรับคอกาแฟที่ต้องการทำงานแบบนั่งนาน ๆ ค่ะ
รีวิวนี้อาจไม่ได้ถ่ายของกินแบบละเอียดนะคะ แต่ต้องการมาแชร์บรรยากาศดี ๆ อีกที่หนึ่ง
สำหรับคนที่ต้องการนั่งทำงานเงียบ ๆ เหมือนอยู่ห้องสมุด
สุขสถานตั้งอยู่ถนนนิมมานฯ ซอย 13 ค่ะ
หน้าร้านจะเป็นไม้ ๆ มีแมวตั้งอยู่แบบนี้

(ถ้าจะจอดรถ ไปจอดซอยข้าง ๆ ร้านครัวมะยมนะคะ หน้าร้านจอดได้เฉพาะมอไซค์+จอดได้แค่วันคี่ )

ร้านเปิดทุกวัน 11 โมงถึงเที่ยงคืน
ใครกำลังหาที่นั่งเสียบปลั๊กทำงาน อ่านหนังสือ ร้านนี้เป็นอีกร้านที่แนะนำจ้า
เลย Warm up มานิดนึงก็เจอแล้ว ที่จอดรถสะดวกเยอะแยะ
อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย เพราะแอร์ที่นี่เย็นจริง ๆ 

บาร์พนักงานอยู่กลางร้าน (คือกั้นกลางระหว่างโซนหน้ากับโซนหลัง เหมือนกั้นเป็น 2 ห้อง)
จะสั่งเครื่องดื่มไปสั่งโซนหน้าเอาเน้อ น้ำเปล่ามีทั้งแบบเป็นบริการฟรีกับน้ำสิงห์ขวดเล็ก (บางทีก็หมดทั้งสองอย่าง ต้องเดินไป 7-11เอา )
ร้านนี้จัดโปรโมชันเครื่องดื่มบ่อยมาก เรื่องกาแฟถือว่าอร่อยพอได้ ราคาเครื่องดื่มจะอยู่ที่ประมาณ 65 บาทขึ้นไป
พวกขนมก็อร่อย โดยเฉพาะเครปเค้ก นุ่มมากร้านนี้ (เพื่อนเราบอกงั้นนะ เราไม่รู้ว่ายังไง เพราะเป็นคอกาแฟมากกว่าพวกขนม  )

ในร้านจะแบ่งเป็น 2 โซนย่อย โดยมีเค้าน์เตอร์พนักงานกั้นอยู่กลางร้าน
ที่ร้านนี้เวิร์กสุดสำหรับวัยเรียน วัยทำงาน ก็คือ โต๊ะนั่งพอดี ๆ กับตัวเรา
ไม่ต่ำเกินไป ไม่สูงเกินไป คือ นั่งได้สบายมากถ้าจะทำงานนาน ๆ อ่านหนังสือนาน ๆ
จุดบริการปลั๊กก็เพียงพอกับลูกค้า มีไว้แทบทุกโต๊ะ
(แต่บางจุดจะเป็นปลั๊ก 2 ขานะ ต้องเตรียมปลั๊กที่มันแปลงให้เป็นปลั๊ก 3 ขาไปเอง)
ไฟสว่างเพียงพอ ไม่สลัวเกินไป Free WiFi ก็เร็ว ดูหนังได้เพลินมาก 
แต่แอร์จะเย็นหน่อยนะ (โดยเฉพาะโต๊ะที่ติดกระจก จะหนาวมากกก )
ถ้าใครอยากนั่งหลายชั่วโมง นอกจากจะสั่งเครื่องดื่มเพิ่มตามมารยาท ยังต้องพกเสื้อกันหนาวมาด้วยแหละ 

โซนนี้เป็นโซนนอกสุด กลางวันก็นั่งได้ แต่จะร้อนหน่อย
ถ้าเป็นกลางคืนจะเหมาะมากสำหรับนั่งกินเบียร์ สูบบุหรี่ 

ร้าน Luvv จริง ๆ แล้วมี 2 สาขาค่ะ
คือ สาขาในโครงการ the ring กับสาขาที่อยู่ใต้ตึกใบหยกเจ้า (Baiyoke Ciao)
วันนี้จะพาไปสาขาใต้ตึกใบหยกฯ จ้า
เคยมานั่งทำงานบ่อย ๆ ตอนใกล้สอบแล้วติดใจ
เลยอยากแชร์บรรยากาศบ้าง

ร้าน Luvv Coffee อยู่ทางซ้ายของตึกจ้า ถ้ามองจากในรูป ซึ่งเป็นหน้าร้าน

ลองแวะไปชิมดูได้ที่ "ร้านครูเบลล่า" โซนหลัง มช.
ร้านเดียวกับ "กาแฟโสด" ค่ะ
เปิดตั้งแต่ประมาณ 10 โมง ถึง 3 ทุ่ม
ร้านนี้อร่อยจริง ราคาไม่แพง บรรยากาศก็น่านั่ง (โดยเฉพาะหน้าฝน-หน้าหนาวนี้ สดชื่นมาก )
WiFi ก็มีให้เล่น กีตาร์ก็มีไว้บริการลูกค้าที่ไม่อยากรอแบบเบื่อ ๆ ด้วย 

สเต๊กเนื้อ แห้งไปหน่อย แต่พอกินได้

ข้าวห่อไข่ยัดไส้ลาบ คล้ายๆกินขนมเบื้องญวนแต่ไส้เป็นลาบ 

ออเดิร์ฟเมืองจะเป็นประมาณนี้ (เครื่องไม่ครบเท่าไหร่ )

มาแล้วววว ข้าวห่อไข่ยัดไส้ลาบ กับ ออเดิร์ฟเมือง

อาหารราคาจะเริ่มต้นที่ 40 กว่าบาท
ร้านนี้ไม่มีน้ำดื่มบริการฟรีค่ะ ต้องสั่งเป็นขวดมาดื่มอีกที
หรือถ้าไม่อยากดื่มน้ำเปล่าก็เปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มอย่างอื่นได้
มีน้ำสมุนไพร ชา กาแฟ
ของทานเล่นก็มีพวกเค้กบ้าง ไอศกรีมบ้าง
ถ้าสั่งพวกชากาแฟหรือไอศกรีม อย่าตกใจว่าร้านโสดมาเสิร์ฟนะคะ
เพราะว่าเค้าแบ่งโซนกันแล้วว่าของหวานหรือเครื่องดื่่มพวกชา ทางร้านโสดจะเป็นฝ่ายทำ
ส่วนพวกอาหารตามสั่งกับน้ำสมุนไพร จะเป็นฝั่งร้านครูเบลล่่าซึ่งเป็นฝั่งครัวโดยเฉพาะค่ะ 

บรรยากาศจะเป็นสไตล์การ์เดน อยู่ใต้ชายคาเล็ก ๆ ปูด้วยปูนเปลือย มีต้นไม้ปลูกล้อมเป็นหย่อม ๆ
เฟอร์นิเจอร์เป็นไม้ทั้งโต๊ะเก้าอี้ ที่ใส่ทิชชู่ 

หลายคนอาจจะรู้จักแต่ ร้านกาแฟโสด ซึ่งเป็นโซนร้านกาแฟ แต่ก็มีบ้างที่ไม่รู้ว่าติด ๆ กันมีโซนที่เป็นครัวขายอาหารตามสั่ง ร้าน"ครูเบลล่า" วันนี้เลยมาแนะนำที่ร้านนี้กันค่ะว่ามีอะไรกินกันบ้้าง

ตอนกลางวัน-เย็น ร้านก็สวย ร่มรื่น ตอนค่ำก็แสงสวยไปอีกแบบตามสไตล์การ์เดน 

น่าจะกลัวลูกค้าประเภทมาจำแล้วไปเลียนแบบประมาณนั้นค่ะ
(แต่ที่จริงเราก็แอบถ่ายน๊าา เพื่อนเราไปอ่านหนังสือกี่ครั้งก็ใช้ไอโฟนถ่ายของกินบ้าง ถ่ายตัวเองบ้าง  )

ไม่รู้จะทานอะไร เป็นเบอร์เกอร์ก็กลัวจะเบาท้องไป
เป็นเฟรนฟรายด์ก็กลัวจะไม่อยู่ท้อง ขอลองสเต๊กหมูละกัน
ราคาอาหารร้านนี้เริ่มที่ประมาณ 30 บาทค่ะ
มีทุกอย่างที่เป็นอาหารฝรั่งโดยทั่วไป ทั้งสเต๊ก เฟรนด์ฟราย เบอร์เกอร์ ฯลฯ
สั่งกินที่โต๊ะหรือกลับบ้านก็ได้
ผ่านไปผ่านมาแถวโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ ลองแวะมาได้ค่ะ
หน้าตาน่าทาน รสชาติอร่อย เป็นร้านเล็ก ๆ ข้างทาง แต่สะอาดใช้ได้จริง ๆ
(ลูกค้าร้านนี้ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นนะ ฝรั่งก็มีมาอุดหนุนด้วย แสดงว่าเจ๋งระดับนึงทีเดียว )

มาถนนเส้นปั๊ม ปตท.มช. แล้วก็ตรงมาเรื่อย ๆ
ยูเทิร์นตรงหน้าชมดอยคอนโดเตล (ก่อนถึงโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ)
แล้วจะเจอร้านเล็ก ๆ นี้อยู่ก่อนถึงปั๊มบางจากค่ะ
โต๊ะนั่งกินก็ประมาณโต๊ะเหล็กพับได้ เก้าอี้พลาสติก
สไตล์ง่าย ๆ ชิล ๆ ชมวิวข้างทาง 

ผ่านไปแถว ๆ โรงแรมภูคำค่ะ เลยแวะหาอะไรทานตอนค่ำ ๆ ซะหน่อย
เจอร้านสเต๊กร้านนึงก่อนถึงปั๊มน้ำมันบางจากก็เลยลองดู
เป็นร้านรถเข็น Mark Burger&Steak

มากับเพื่อน เลือกคนละ 1 เมนูมาลองก่อนละกัน
เพื่อนเลือกหมูเกาหลี (รูปบนจ้า ไม่แน่ใจว่าใช่ชื่อนี้ป่าว)
ส่วนเราขอเป็นข้าวไก่เทริยากิละกัน (รูปล่าง)
เมนูร้านนี้สตาร์ทที่ประมาณ 60 บาทขึ้นไป
จะมีพวกข้าวปั้น อาหารจานเดียว พวกเส้น ของทานเล่น หรือแบบเป็นเซ็ท
เครื่องดื่มก็มีเบียร์ น้ำเปล่า น้ำอัดลม
เปิดร้านตอนช่วงค่ำ ๆ นี่แหละจ้า (ไม่ทราบเวลาที่แน่นอน ขออภัยด้วยจ้า)
สำหรับเราถือว่าโอเคในระดับหนึ่งแหละ สำหรับคนที่ต้องการทานอาหารญี่ปุ่นหลัง มช.
(คือ โซนหลัง มช. ถ้าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างดีจะมีร้านนึงเป็นรถเข็นอยู่ตรงฝั่งทางเท้า
ร้านนั้นจะมีแทบทุกอย่าง แต่ไม่ค่อยมีเป็นเซ็ทหรือเบียร์ คือ จะเน้นกลุ่ม นศ เป็นหลัก
แต่ร้านที่เราไปแนะนำนี้คือ อารมณ์ประมาณผู้ใหญ่ๆหน่อย หรือรุ่นพี่มาเลี้ยงรุ่นน้องประมาณนั้น)
ลองแวะมาอุดหนุนกันเยอะ ๆ นะ รสชาติอร่อย ร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นานเองที่ Moshi-Moshi
ในซอยก่อนถึงตู้ ATM ไทยพาณิชย์ ประตูวิดวะ มช. จ้า

ร้านมี 2 โซนจ้า คือ ในร้านนั่งตากแอร์ฉ่ำ ๆ ดูบอลไปด้วย
กับนอกร้านที่เป็นโซนแบบการ์เดนนิดนึง
ร้านยังเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ลูกค้ายังไม่ค่อยเข้ามาเท่าไร
แต่บรรยากาศถือว่าโอเคมาก สะอาดตาดี 

แวะมาหาอะไรทานแถวหลัง มช. อีกแล้วค่ะ (ตั้งแต่เรียนจบไปมีร้านใหม่ ๆ น่านั่งมาเปิดเยอะมากกก)
เย็นนี้เลยมาลองร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ Moshi-Moshi
ร้านตั้งอยู่ในซอยก่อนจะถึงตู้ ATM ไทยพาณิชย์ประตูวิดวะจ้า เปิดตอนเย็นๆค่ำๆหน่อย

สำหรับใครที่หาที่นั่งชิลหลายชั่วโมง
เปิดเน็ตดูอะไรเพลิน ๆ ไปด้วย หาของทานเล่นไปด้วย
ลองมาที่ Mo'C Mo'L โซนร้านกาแฟนะคะ
เปิด  11โมง ถึงเที่ยงคืนค่ะ (เปิดเร็วกว่าโซนผับหน่อยนึง อิอิ  )
(นั่งโซนนี้ในตอนกลางคืนจะเพลินมาก เพราะมีเสียงดนตรีที่โซนผับที่เล่นสดคลอมาเบา ๆ ด้วย  )
เป็นอีกโซนที่แนะนำจริง ๆ ค่ะสำหรับคนที่ชอบมุมสงบอ่านหนังสือเล่น ทำงานเงียบๆ แต่ไม่ชอบไปจอแจแลกบัตรเข้าหอสมุดมหาลัยให้วุ่นวาย

ขึ้นโซนชั้นบนถอดรองเท้าด้วยจ้า
โซนชั้นบนจะเป็นที่นั่งแบบมีเบาะนั่งกับโต๊ะญี่ปุ่น
นั่งตอนกลางวันโอเคมาก น่าหลับมาก
ลำบากนิดนึงตอนหาที่เสียบปลั๊ก เพราะปลั๊กจะอยู่ใต้รั้ว แล้วรั้วเป็นแบบกากบาท
ถ้าจะเสียบ ต้องลอดหัวมาดูปลั๊กซะหน่อยถึงจะเสียบได้ 555
ช่วงกลางคืนไม่แนะนำสำหรับคนที่มาอ่านหนังสือ หรือใช้คอมทำงานค่ะ
เพราะโซนนี้ไฟจะสลัวกว่าชั้นล่างหน่อย แอร์ก็เย็นมากด้วย

โซนที่เป็นบาร์จ้า แบบบาร์ยาวติดกระจก ในร้านจะมี 2 โซน
เก้าอี้สูงหน่อย โต๊ะพื้นที่จะแคบหน่อย โคมไฟจะใกล้หน่อย
เป็นโซนสำหรับอ่านหนังสือไปด้วย พักทอดสายตาออกไปนอกร้านด้วย
(แต่คนขี้ร้อนเราไม่แนะนำโซนนี้นะ เพราะเคยมากับเพื่อนที่เป็นคนขี้ร้อน
เพื่อนบอกโคมไฟใกล้หัวไป เปิดแอร์ยังรู้สึกร้อน 555  )

บรรยากาศในโซนที่เป็นอาคาร 2 ชั้น จะเงียบกว่าโซนที่เป็นอาคารชั้นเดียวหน่อย
เพราะส่วนใหญ่เป็นโต๊ะนั่งเดี่ยวบ้าง นั่งคู่บ้าง ไม่ค่อยมีจุดนั่งเป็นกลุ่มให้เสียงดังจอแจกัน
คือถ้าเข้ามาเนี่ย โซนนี้ค่อนข้างจะเงียบ ไม่มีเสียงเพลงคลอ มีแต่แสงไฟกับแอร์
ถ้ามากับเพื่อนคุยเบา ๆ กันได้จ้า แต่อย่าเสียงดังนะ ได้ยินกันทั้ง 2 ชั้นแน่ 

มีจุดบริการให้เสียบปลั๊กอยู่แทบทุกที่นั่งค่ะ
WiFi ฟรี นั่งทำงานได้สบายเฉิบหายห่วงเลย 
(ถ้าจะนั่งยาว สั่งอย่างน้อย 2 อย่างก็ดีเนอะ ทางร้านอุตส่าห์บริการดีซะขนาดนี้ ช่วยๆกันไป  )

ร้านกาแฟร้านนี้จะมีขายทุกอย่างที่เป็นพวกเครื่องดื่ม เบเกอรี่ ไอศกรีม
ราคาเริ่มที่ 35 บาท
(35 บาท คือ ราคาน้ำอัดลมกระป๋องนึงค่ะ)
พวกชากาแฟจะเริ่มที่ประมาณ 55 บาท ร้านนี้ค่อนข้างหวานค่ะ
ถ้าซีเรียสรสชาติก่อนสั่งต้องระบุด้วยว่าเอารสประมาณไหน
ไม่มีน้ำเปล่าขายเป็นขวด แต่มีบริการเป็นเหยือกให้เติมเองตามแต่ละจุดค่ะ

ตอนกลางคืนจะแสงจะสวยมาก 
ร้านกาแฟจะแบ่งเป็น 2 อาคารค่ะ
อาคารนึงจะเป็นอาคารชั้นเดียว มีบาร์พนักงาน ที่นั่งจะเป็นแบบโซฟา ไว้ประชุมงาน ไว้นั่งอ่านหนังสือชิล ๆ
อีกอาคารจะเป็นอาคาร 2 ชั้น มีโซฟาอยู่โซนเดียว นอกนั้นจะเป็นที่นั่งที่มีโต๊ะ ไว้สำหรับทำงานที่ต้องการพื้นที่สำหรับนั่งเขียนไปด้วย

หลายคนคงรู้จัก Mo'C Mo'L (โมซี โมแอล) ในเรื่องของร้านอาหารกึ่งผับ
วันนี้เลยขอมารีวิวในส่วนของโซนร้านกาแฟ เพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบบรรยากาศในโซนนี้มาก
โดยเฉพาะช่วงสอบ หรือต้องการสมาธิทำงานแบบนั่งไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่บ่ายจนดึก
ร้านนี้จะเงียบ น่านั่งมาก (แต่แสงบางมุมดูสลัว ๆ น่าหลับไปหน่อย แหะๆๆ  )

หมายเหตุ : ที่จริงร้านนี้ไม่ให้ถ่ายรูปนะคะ (ดูจากสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ประตูร้าน)
แต่นี่ขอถ่ายมาเพื่อแชร์ว่าร้านนี้บรรยากาศน่านั่งจริง ๆ ไม่ได้มีเจตนาเอาไปเลียนแบบใด ๆ เน้อ   

หลังครัววุ่นวายตลอด เพราะลูกค้าเข้ามาตลอด
แต่สะอาด เอาใจใส่ลูกค้าดี ใครรอโต๊ะนั่ง พี่เจ้าของร้านจะรีบจัดการให้
แต่เห็นใจหน่อยเนอะ มีกันอยู่ 3 คน ทำแทบจะไม่ทัน ใจเย็น ๆ เดี๋ยวได้กินของอร่อย 
ลองแวะไปชิม แวะไปซื้อตักบาตรตอนเช้า ๆ กันได้นะคะ
ร้านเล็ก ๆ อยู่ทางประตูวิดวะ หลัง มช. นี่เอง
แต่มาให้ไวก่อน 9 โมงเน่อ ร้านพี่เขาขายดีมากกก (บางวัน 8 โมงก็ปิดยอดแล้ว )

โจ๊กใส่ไข่ ธรรมดา ๆ ไม่มีเครื่องเคียงเยอะเหมือนร้านที่ขายพวกโจ๊กข้าวต้มโดยเฉพาะ
แต่อร่อย พออยู่ท้องได้ 

ชัด ๆ เน้น ๆ ปริมาณอาจไม่เยอะ แต่เครื่องแน่นจริง 

ต้มเลือดหมู ข้าวเปล่าจ้า มาแล้วๆๆ 

โต๊ะนั่งจะเป็นแบบนี้ ธรรมดา ๆ แต่อาหารสะอาด รสชาติอร่อย คนคอยต่อคิวเยอะ
(ในรูปคือยังเช้าอยู่ เพิ่ง6โมงเอง โต๊ะยังพอว่างอยู่ ถ้า 7โมงกว่า โต๊ะจะเต็มแล้ว)
ร้านนี้ขาย 2 อย่างค่ะ คือ โจ๊ก(ธรรมดา/ใส่ไข่) กับต้มเลือดหมู (สั่งข้าวเปล่ามาด้วยก็ได้ถ้าไม่อิ่ม)
โจ๊กธรรมดา 15 บาท ใส่ไข่ 20 บาท
ต้มเลือดหมู 20 บาท ข้าวเปล่า 5 บาท

เปิดมาได้ประมาณ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ
ถือเป็นร้านแรก ๆ ที่บุกเบิกพวกนั่งกินตอนเช้า ๆ ในย่านหลัง มช.
(คือปกติ แถวหลัง มช. จะมีแต่ซื้อไปกินๆแบบฟาสต์ฟู้ด เช่น ข้าวเหนียวกับของทอด/ปิ้ง หรือไม่ก็ 7-11)
จะนั่งกินที่ร้านก็ได้ จะซื้อไปกินที่ห้องก็ได้ ตักบาตรก็ได้ ไม่ว่ากัน 

ตอนที่เรียนอยู่ ป.ตรี แทบจะนับครั้งได้เลยค่ะว่าตื่นเช้าต่อเดือนนึงกี่วัน
ถึงตื่นเช้าก็ไม่มีเวลาทานมื้อเช้าก่อนไปเรียน (ตื่นซะจะใกล้เวลาเรียน ต้องรีบหน่อย )
วันไหนที่ตื่นเช้า ก็เบื่อข้าวเหนียวหมูปิ้งบ้าง ขี้เกียจข้ามฟากไปหาอะไรกินที่กาดพยอมบ้าง (เรื่องมากเนอะ )
เลยฝากท้องที่ โจ๊กประตูวิดวะ มช. ตลอด

มาคนเดียว กินไม่เยอะ ลูกชิ้น 10 ไม้กับโค้กขวดนึงพอ (เบ็ดเสร็จ20บาทเป๊ะๆ เอง)
ถ้าอยากชมวิวไป พูดคุยโน่นนี่ไปแบบชิล ๆ ตอนเย็น ๆ
ลองแวะมาแถว ๆ เขื่อนยางฝั่งหลัง ร.ร. แคนเน็ตแมคเคนซี ดูนะ
รสชาติ+ราคาก็พอทานได้แบบกระจุ๋มกระจิ๋ม สำหรับคนที่หาอะไรรองท้องกินเล่น
(แต่ถ้าอยากกินแบบจริงจัง ย่านนั้นตอนค่ำ ๆ จะมีร้านอาหารแบบร้านเหล้าติด ๆ กันเยอะมากกก)
สำหรับคนไม่ซีเรียสเรื่องรสชาติหรือบรรยากาศอะไรมาก ลองแวะเข้าไปนั่งเล่นซักร้านกัน 

สุ่มเลือกมาซักร้านนึงละกัน ตามนี้เลย
นอกจากลูกชิ้นก็มีส้มตำ ยำ น้ำอัดลมขวดเล็ก ๆ
(สำหรับร้านย่านนี้ไม่แนะนำพวกส้มตำ ยำ
เพราะสำหรับเราเสี่ยงท้องเสียมากกว่าร้านตามตลาดที่ขายจริงจังกว่านี้)